ASTVผู้จัดการรายวัน - มท.1-ผู้ว่าฯอยุธยา สั่งตั้งกรรมการสอบสาเหตุสะพานสลิงข้ามแม่น้ำป่าสักพังถล่ม พร้อมหาผู้รับผิดชอบทางแพ่ง-อาญา ขีดเส้น 15 วันต้องรู้ผล ยันตาย 4 เจ็บ 12 ด้านเลขาธิการวิศวกรรมสถาน ตรวจสอบแล้วชี้เหตุเพราะสลิงขาด ชาวบ้านผวาคอสะพานวัดไก่จ้นแตกร้าวอีกต้องปิดห้ามจยย.ข้าม "ชัชชาติ"สั่งทล.-ทช.สำรวจทั่วประเทศ หวั่นซ้ำรอย อบจ.สองแควเสียวสั่งปิดสะพาน หลังพบสลิงหลุด 2 เส้น เตรียมซ่อมด่วน
วานนี้ (29 เม.ย.) จากกรณีสะพานสลิงข้ามแม่น้ำป่าสัก ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าสะพาน 200 ปี ตั้งอยู่ข้างวัดสะตือพุทธไสยาสน์ บ้านท่างาม หมู่ 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เชื่อมหมู่ 5 และหมู่ 6 ต.ท่าหลวง ซึ่งเป็นสะพานสำหรับรถจักรยานยนต์และประชาชนเดินเท้าข้ามคลอง พังถล่มเมื่อวันที่ 28 เม.ย.นั้น
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ น.ส.เกศิณี ชบาสีห์ อายุ 54 ปี นายสามารถ ญาณปัญญา อายุ 33 ปี นายณัฐวุฒิ ใจจง อายุ 24 ปี ด.ญ.ปิริยาพร เสือสมิง อายุ 10 ปี บาดเจ็บ 12 ราย ซึ่งจังหวัดจะจ่ายเงินเยียวยาเป็นค่าทำศพให้รายละ 25,000 บาท และผู้บาดเจ็บรายละ 3,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบ
นอกจากนี้จะตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรกให้สอบข้อเท็จจริง เพื่อหาผู้รับผิดชอบทางแพ่งและทางอาญา อีกชุดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ทั้งการดำเนินคดี และรักษาพยาบาล โดยจะเร่งสรุปภายใน 15 วัน เบื้องต้นในพื้นที่มีสะพานใกล้เคียงกันอีก 2 จุด สามารถใช้สัญจรแทนได้
นายเชษฐา ปทุมรังสี นายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง กล่าวว่า สะพานที่พังสร้างเสร็จเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 และเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาสะพานเริ่มชำรุดและเอียงมากขึ้น จึงให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และประสานผู้รับเหมาซ่อมแซมเบื้องต้น โดยการเปลี่ยนแคลมพ์ยึดลวดสลิง
ทั้งนี้ สะพานดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลท่าหลวง เป็นการก่อสร้างสะพานเพื่อสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ให้ประชาชนเดินเท้า และจักรยานยนต์ข้ามฝั่ง กว้าง 2.2 เมตร ยาว 110 เมตร ตามแบบของกรมโยธาธิการและผังเมือง สร้างเสร็จวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 งบประมาณ 8,290,000 บาท ผู้รับจ้างบริษัท ดีไนซ์ (2009) จำกัด
เวลา 09.00 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวหลังจากมอบเงินส่วนตัวให้ญาติผู้เสียชีวิตรายละ 2,000 บาท ว่า จะประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบสะพานแขวนที่มีอยู่ ให้มีความมั่นคงและปลอดภัย ถือว่าจุดนี้เป็นบทเรียนที่ทุกจังหวัดต้องนำไปแก้ไขภายใน 2-3 วัน และให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า สะพานแขวนลักษณะเดียวกันที่วัดไก่จ้น ข้ามไปวัดสะตือ อ.ท่าเรือ ใกล้เคียงกับสะพานที่พังถล่ม มีรอยแตกร้าวที่คอสะพานเห็นได้ชัด และพื้นสะพานมีเศษปูนหลุดออกมา โดยมีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นเอาไว้ ไม่ให้รถจักรยานยนต์วิ่งข้าม ให้เพียงประชาชนเดินข้ามเท่านั้น
นายณรงค์เดช ฉิมเล็ก หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การสร้างสะพานแขวนในลักษณะนี้ ท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของต้องใช้แบบแปลนของกรมโยธาธิการและผังเมือง การก่อสร้างต้องเป็นไปตามแบบทุกอย่าง ซึ่งสะพานลักษณะนี้ในจังหวัดมีกว่า 10 แห่ง โดยสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ระหว่างวัดไก่จ้น กับวัดสะตือ ชำรุดบางส่วน ได้ห้ามรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านแล้ว
ด้านนายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณตอม่อเสาเสาสะพาน พื้นสะพาน และสลิงที่ใช้ยึดพื้นสะพานอย่างละเอียดแล้วชี้แจงว่า สาเหตุที่สะพานพังถล่มน่าจะเกิดจากสายสลิงขาด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมจึงขาด ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พิษณุโลก ได้สำรวจสะพานสลิงข้ามแม่น้ำน่าน หมู่ 7-9 ต.จอมทอง อ.เมือง ซึ่งอบจ.สร้างไว้ 5 แห่ง เพื่อให้ประชาชนใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน และเดินเท้าสัญจร ข้ามแม่น้ำน่านและแม่น้ำเข็ก โดยปีงบประมาณ 2556 ตั้งงบประมาณซ่อมแซมไว้ 4,000,000 บาท ซึ่งจากการสำรวจพบว่า สะพานสลิงหมู่ 5 หน้าวัดหล่ม หมู่ 6 ต.วัดพริก เชื่อมต่อต.ท่าโพธิ์ อยู่ในสภาพที่ต้องสั่งปิดเพื่อปรับปรุง เนื่องจากมีชาวบ้านแอบนำรถยนต์และรถไถขึ้นไปวิ่ง ทำให้ให้สลิงที่ใช้ดึงโครงเหล็กหลุด 2 เส้น
วานนี้ (29 เม.ย.) จากกรณีสะพานสลิงข้ามแม่น้ำป่าสัก ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าสะพาน 200 ปี ตั้งอยู่ข้างวัดสะตือพุทธไสยาสน์ บ้านท่างาม หมู่ 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เชื่อมหมู่ 5 และหมู่ 6 ต.ท่าหลวง ซึ่งเป็นสะพานสำหรับรถจักรยานยนต์และประชาชนเดินเท้าข้ามคลอง พังถล่มเมื่อวันที่ 28 เม.ย.นั้น
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ น.ส.เกศิณี ชบาสีห์ อายุ 54 ปี นายสามารถ ญาณปัญญา อายุ 33 ปี นายณัฐวุฒิ ใจจง อายุ 24 ปี ด.ญ.ปิริยาพร เสือสมิง อายุ 10 ปี บาดเจ็บ 12 ราย ซึ่งจังหวัดจะจ่ายเงินเยียวยาเป็นค่าทำศพให้รายละ 25,000 บาท และผู้บาดเจ็บรายละ 3,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบ
นอกจากนี้จะตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรกให้สอบข้อเท็จจริง เพื่อหาผู้รับผิดชอบทางแพ่งและทางอาญา อีกชุดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ทั้งการดำเนินคดี และรักษาพยาบาล โดยจะเร่งสรุปภายใน 15 วัน เบื้องต้นในพื้นที่มีสะพานใกล้เคียงกันอีก 2 จุด สามารถใช้สัญจรแทนได้
นายเชษฐา ปทุมรังสี นายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง กล่าวว่า สะพานที่พังสร้างเสร็จเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 และเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาสะพานเริ่มชำรุดและเอียงมากขึ้น จึงให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และประสานผู้รับเหมาซ่อมแซมเบื้องต้น โดยการเปลี่ยนแคลมพ์ยึดลวดสลิง
ทั้งนี้ สะพานดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลท่าหลวง เป็นการก่อสร้างสะพานเพื่อสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ให้ประชาชนเดินเท้า และจักรยานยนต์ข้ามฝั่ง กว้าง 2.2 เมตร ยาว 110 เมตร ตามแบบของกรมโยธาธิการและผังเมือง สร้างเสร็จวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 งบประมาณ 8,290,000 บาท ผู้รับจ้างบริษัท ดีไนซ์ (2009) จำกัด
เวลา 09.00 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวหลังจากมอบเงินส่วนตัวให้ญาติผู้เสียชีวิตรายละ 2,000 บาท ว่า จะประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบสะพานแขวนที่มีอยู่ ให้มีความมั่นคงและปลอดภัย ถือว่าจุดนี้เป็นบทเรียนที่ทุกจังหวัดต้องนำไปแก้ไขภายใน 2-3 วัน และให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า สะพานแขวนลักษณะเดียวกันที่วัดไก่จ้น ข้ามไปวัดสะตือ อ.ท่าเรือ ใกล้เคียงกับสะพานที่พังถล่ม มีรอยแตกร้าวที่คอสะพานเห็นได้ชัด และพื้นสะพานมีเศษปูนหลุดออกมา โดยมีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นเอาไว้ ไม่ให้รถจักรยานยนต์วิ่งข้าม ให้เพียงประชาชนเดินข้ามเท่านั้น
นายณรงค์เดช ฉิมเล็ก หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การสร้างสะพานแขวนในลักษณะนี้ ท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของต้องใช้แบบแปลนของกรมโยธาธิการและผังเมือง การก่อสร้างต้องเป็นไปตามแบบทุกอย่าง ซึ่งสะพานลักษณะนี้ในจังหวัดมีกว่า 10 แห่ง โดยสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ระหว่างวัดไก่จ้น กับวัดสะตือ ชำรุดบางส่วน ได้ห้ามรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านแล้ว
ด้านนายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณตอม่อเสาเสาสะพาน พื้นสะพาน และสลิงที่ใช้ยึดพื้นสะพานอย่างละเอียดแล้วชี้แจงว่า สาเหตุที่สะพานพังถล่มน่าจะเกิดจากสายสลิงขาด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมจึงขาด ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พิษณุโลก ได้สำรวจสะพานสลิงข้ามแม่น้ำน่าน หมู่ 7-9 ต.จอมทอง อ.เมือง ซึ่งอบจ.สร้างไว้ 5 แห่ง เพื่อให้ประชาชนใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน และเดินเท้าสัญจร ข้ามแม่น้ำน่านและแม่น้ำเข็ก โดยปีงบประมาณ 2556 ตั้งงบประมาณซ่อมแซมไว้ 4,000,000 บาท ซึ่งจากการสำรวจพบว่า สะพานสลิงหมู่ 5 หน้าวัดหล่ม หมู่ 6 ต.วัดพริก เชื่อมต่อต.ท่าโพธิ์ อยู่ในสภาพที่ต้องสั่งปิดเพื่อปรับปรุง เนื่องจากมีชาวบ้านแอบนำรถยนต์และรถไถขึ้นไปวิ่ง ทำให้ให้สลิงที่ใช้ดึงโครงเหล็กหลุด 2 เส้น