เอเจนซีส์ - อเมริกาผวาซ้ำ หลังเหตุลอบวางระเบิดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในบอสตันเพียง 3 วัน ในวันพุธ (17) ก็เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่งในเทกซัส ซึ่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่า มีความรุนแรงเทียบเท่า “ระเบิดนิวเคลียร์” ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนที่อยู่รายรอบราบเป็นหน้ากลอง คาดว่ามีผู้เสียชีวิตระหว่าง 5-15 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 160 คน ทางด้านความคืบหน้าการสอบสวนเหตุบึ้มที่บอสตัน มีรายงานว่ากล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยทิ้งกระเป๋าที่เชื่อว่าซุกซ่อนระเบิดไว้ในจุดเกิดเหตุใกล้เส้นชัยมาราธอน
สิบตำรวจเอกแพทริก สวอนสัน ตำรวจของเมืองวาโก มลรัฐเทกซัสแถลงว่า เหตุระเบิดที่เกิดจากเปลวไฟขนาดใหญ่ในโรงปุ๋ยซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเวสต์ นั้น เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณก่อน 20.00 น. เล็กน้อยของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับประมาณก่อน 8.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาในประเทศไทย) โดยมีผู้เสียชีวิตระหว่าง 5-15 คน และผู้บาดเจ็บกว่า 160 คนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 แห่ง ทั้งนี้ เวสต์เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรราว 2,000 คนทางใต้ของรัฐเทกซัส และอยู่ใกล้ๆ กับวาโก
คำแถลงอย่างเป็นทางการของสวอนสัน เป็นการแก้ไขรายงานข่าวก่อนหน้านั้นของสถานีทีวีเคดับเบิลยูทีเอ็กซ์ ซึ่งอ้างการเปิดเผยของจอร์จ สมิธ ผู้อำนวยการหน่วยบริการฉุกเฉินเมืองเวสต์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 60-70 ราย สอดคล้องกับตัวเลขที่เคธ ฮอปกินส์ ผู้บริหารโรงพยาบาลโพรวิเดนซ์ในเมืองวาโก ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในเมืองเวสต์
หลังจากการระเบิดผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง ควันไฟและกลิ่นไหม้ยังคงลอยคละคลุ้งอยู่ภายในโรงงาน และปล่อยควันพิษตลบอบอวลทั่วเมือง อีกทั้งยังมีความกังวลกันว่า แท็งค์บรรจุปุ๋ยแท็งค์ที่ 2 อาจระเบิด ส่งผลให้ชาวอเมริกันที่ยังขวัญเสียจากเหตุระเบิดบอสตัน มาราธอน และจดหมายปนเปื้อนไรซินที่ส่งไปยังทำเนียบขาวและรัฐสภา หวาดผวามากขึ้น
ภายหลังการระเบิดที่นักวิทยาแผ่นดินไหวในสหรัฐฯ ระบุว่า มีความแรงวัดได้ในระดับ 2.1 กลุ่มอาคารอพาร์ทเมนต์และสถานพักฟื้นผู้สูงวัยแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงปุ๋ยได้ถูกทำลายเสียหายหนัก ผู้อาศัยในบริเวณนั้นที่ไม่ได้บาดเจ็บ ต้องหนีไปหลบในสถานพักพิงฉุกเฉิน
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเผยว่า บ้านทุกหลังภายในรัศมี 4 ช่วงตึกจากโรงงานถูกระเบิดทำลายราบเป็นหน้ากลอง
ทอมมี มัสกา นายกเทศมนตรีเมืองเวสต์ที่เป็นอาสาสมัครดับเพลิงด้วย ระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้รุนแรงราวกับระเบิดนิวเคลียร์ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บางคนบอกว่า เห็นลูกไฟลอยขึ้นสู่อากาศจากการระเบิด
มัสกายังระบุว่า อาสาสมัครดับเพลิง 5-6 คนที่เข้าไปในที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มแรกๆ ยังคงสูญหาย และยอมรับว่า ไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธยอดผู้เสียชีวิตที่มีการรายงานออกมา เนื่องจากตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ
สวอนสันเสริมว่า ยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังตรวจสอบว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่ออาชญากรรมหรือผลจากปฏิกิริยาเคมี ขณะที่ดอน ยีเกอร์ ผู้ช่วยหัวหน้าชุดปฏิบัติการดับเพลิงเมืองวาโก ระบุว่า เป็นการระเบิดที่เกิดจากสารเคมีแอนไฮดรัส แอมโมเนีย
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเกิดการระเบิดราว 50 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมไฟที่ไหม้อยู่ รวมทั้งอพยพคนออกจากที่พักและสถานพักฟื้นผู้สูงวัยในละแวกใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ระบุว่า เปลวไฟที่ยังคงลุกไหม้โดยไม่มีควันภายในโรงงานมีความเสี่ยงสองข้อคือ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดระเบิดซ้ำ และการปล่อยควันพิษไปทั่วเมือง
อย่างไรก็ดี สวอนสันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟที่ยังเผาไหม้อยู่ใต้แท็งค์สารเคมีได้แล้ว
ทางด้าน ดี. แอล. วิลสัน โฆษกกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของเทกซัส เสริมว่า เจ้าหน้าที่ได้อพยพคนออกจากพื้นที่ 8-10 ช่วงตึกหรือราวครึ่งเมือง และอาจต้องอพยพคนอีกด้านของเมืองหากลมเปลี่ยนทิศ
เพื่อเป็นการระวังภัยล่วงหน้า สำนักงานการบินกลาง ประกาศให้พื้นที่รอบเมืองเวสต์เป็นเขตห้ามบิน เนื่องจากเกรงว่า อาจเกิดระเบิดซ้ำและทำให้เครื่องบินเล็กตกได้
นอกจากนี้ยังมีการตัดไฟและแก๊สในบางพื้นที่ของเมืองด้วย
เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนวันครบรอบ 20 ปีการเผชิญหน้าในเมืองวาโก ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับสาวกลัทธิบรานช์ ดาวิเดียนที่ติดอาวุธ การประจันหน้าคราวนั้นยืดเยื้ออยู่นาน 51 วัน และจบลงด้วยการที่สาวกเผานิคมที่หลบซ่อนอยู่หลังจากเจ้าหน้าที่เริ่มบุกเข้าไป เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
**พบภาพผู้ต้องสงสัยระเบิดบอสตัน**
สำหรับคดีลอบวางระเบิดสองลูกในการแข่งขันบอสตัน มาราธอนเมื่อวันจันทร์ (15) แม้ยังไม่มีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการ รวมทั้งไม่มีผู้ใดหรือกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่กระนั้น วันพุธที่ผ่านมา (17) สตีเฟน เมอร์ฟี ประธานสภาเมืองบอสตัน ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงสามารถจับภาพชายคนหนึ่งนำกระเป๋าไปทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังเร่งตามหาตัวปู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทมส์และโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตามตัวผู้ที่อาจเป็นผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เห็นจากภาพ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
สื่อมวลชนรายงานว่า ภาพที่บันทึกได้อาจติดผู้ต้องสงสัยอย่างน้อยหนึ่งคนที่วางกระเป๋าซึ่งอาจซุกซ่อนระเบิดทิ้งไว้ นอกจากนี้ยังมีภาพที่ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีขณะที่คนอื่นๆ ลงไปกองกับพื้นระหว่างเกิดระเบิด
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ยังเผยแพร่ภาพชิ้นส่วนหม้อตุ๋นความดันไอน้ำขนาด 6 ลิตรที่เชื่อว่า ใช้บรรจุระเบิด 1 ใน 2 ลูก ซึ่งระเบิดและพ่นตะปู ตลับลูกปืน และกระสุนลูกปรายใส่ฝูงชนที่บริเวณใกล้จุดเข้าเส้นชัยในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 170 คน ซึ่งล่าสุดผู้บาดเจ็บราว 100 คนออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่มี 10 คนที่ยังอาการสาหัสและต้องผ่าตัดเพิ่ม
ขณะเดียวกัน ผู้คนนับร้อยเดินทางไปยังที่ทำการศาลบอสตันเมื่อวันพุธ หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ทำให้ต้องมีการอพยพคนออกจากศาลและบางส่วนของโรงพยาบาลบริกแฮม แอนด์ วีเมนส์ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดจำนวนมากรักษาตัวอยู่
หลังจากนั้น ไม่นาน ตำรวจบอสตันออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ขณะที่เอฟบีไอวิจารณ์ว่า นับจากเกิดเหตุ มีการเผยแพร่รายงานข่าวมากมายที่ “ไม่ถูกต้อง” และเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงาน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่มีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธีศพเหยื่อระเบิดที่บอสตันในช่วงเช้าวันพฤหัสฯ (18) ประณามการโจมตีนี้ว่าเป็นการก่อร้าย และให้คำมั่นว่า ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษสถานหนัก
**FBIรวบหนุ่มส่งจม.ไรซินถึงโอบามา**
ในวันพุธเช่นกัน เอฟบีไอแถลงว่า ได้จับกุมพอล เควิน เคอร์ติส จากบ้านพักในมิสซิสซิปปี เนื่องจากเชื่อว่า เป็นผู้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีโอบามา, โรเจอร์ วิกเกอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และเจ้าหน้าที่ตุลาการของมลรัฐมิสซิสซิปีที่ไม่เปิดเผยชื่อ
จากการตรวจเบื้องต้นพบว่า จดหมายเหล่านั้นมีสารไรซินปนเปื้อนอยู่ โดยสารชนิดนี้ที่พบในเมล็ดละหุ่ง สามารถทำให้เกิดปัญหาในการหายใจหากสูดดมเข้าไป และอาจถึงแก่ชีวิตหากกินเข้าไปในปริมาณน้อยมาก
นอกจากนี้ จดหมายทั้งสามฉบับยังใช้ข้อความบางส่วนเหมือนกัน และลงชื่อกำกับว่า “เคซี และผมขอรับรองข้อความนี้”
เอ็ดวิน โดโนแวน โฆษกหน่วยตำรวจลับที่มีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ และครอบครัว เผยว่า ประสานงานใกล้ชิดกับตำรวจรัฐสภาและเอฟบีไอ เพื่อสืบหาเบาะแสผู้ส่งจดหมาย
ด้านเอฟบีไอสำทับว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับเหตุระเบิดที่บอสตัน
อย่างไรก็ดี ผู้คนในวอชิงตันหวั่นผวามากขึ้น หลังมีการปิดล้อมอาคารวุฒิสภา 2 หลังช่วงสั้นๆ ในวันพุธ พร้อมกับที่มีรายงานข่าวพบบรรจุภัณฑ์ต้องสงสัย และตำรวจรัฐสภายืนยันว่า ทำการสอบปากคำชายผู้หนึ่งแต่ไม่ได้กักตัวไว้แต่อย่างใด
จดหมายปนเปื้อนสารพิษครั้งนี้ทำให้หลายคนนึกถึงจดหมายลึกลับหลายฉบับที่ปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์ และถูกส่งถึงสมาชิกรัฐสภาและผู้สื่อข่าวบางคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และป่วย 17 คน ภายหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001
สิบตำรวจเอกแพทริก สวอนสัน ตำรวจของเมืองวาโก มลรัฐเทกซัสแถลงว่า เหตุระเบิดที่เกิดจากเปลวไฟขนาดใหญ่ในโรงปุ๋ยซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเวสต์ นั้น เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณก่อน 20.00 น. เล็กน้อยของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับประมาณก่อน 8.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาในประเทศไทย) โดยมีผู้เสียชีวิตระหว่าง 5-15 คน และผู้บาดเจ็บกว่า 160 คนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 แห่ง ทั้งนี้ เวสต์เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรราว 2,000 คนทางใต้ของรัฐเทกซัส และอยู่ใกล้ๆ กับวาโก
คำแถลงอย่างเป็นทางการของสวอนสัน เป็นการแก้ไขรายงานข่าวก่อนหน้านั้นของสถานีทีวีเคดับเบิลยูทีเอ็กซ์ ซึ่งอ้างการเปิดเผยของจอร์จ สมิธ ผู้อำนวยการหน่วยบริการฉุกเฉินเมืองเวสต์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 60-70 ราย สอดคล้องกับตัวเลขที่เคธ ฮอปกินส์ ผู้บริหารโรงพยาบาลโพรวิเดนซ์ในเมืองวาโก ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในเมืองเวสต์
หลังจากการระเบิดผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง ควันไฟและกลิ่นไหม้ยังคงลอยคละคลุ้งอยู่ภายในโรงงาน และปล่อยควันพิษตลบอบอวลทั่วเมือง อีกทั้งยังมีความกังวลกันว่า แท็งค์บรรจุปุ๋ยแท็งค์ที่ 2 อาจระเบิด ส่งผลให้ชาวอเมริกันที่ยังขวัญเสียจากเหตุระเบิดบอสตัน มาราธอน และจดหมายปนเปื้อนไรซินที่ส่งไปยังทำเนียบขาวและรัฐสภา หวาดผวามากขึ้น
ภายหลังการระเบิดที่นักวิทยาแผ่นดินไหวในสหรัฐฯ ระบุว่า มีความแรงวัดได้ในระดับ 2.1 กลุ่มอาคารอพาร์ทเมนต์และสถานพักฟื้นผู้สูงวัยแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงปุ๋ยได้ถูกทำลายเสียหายหนัก ผู้อาศัยในบริเวณนั้นที่ไม่ได้บาดเจ็บ ต้องหนีไปหลบในสถานพักพิงฉุกเฉิน
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเผยว่า บ้านทุกหลังภายในรัศมี 4 ช่วงตึกจากโรงงานถูกระเบิดทำลายราบเป็นหน้ากลอง
ทอมมี มัสกา นายกเทศมนตรีเมืองเวสต์ที่เป็นอาสาสมัครดับเพลิงด้วย ระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้รุนแรงราวกับระเบิดนิวเคลียร์ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บางคนบอกว่า เห็นลูกไฟลอยขึ้นสู่อากาศจากการระเบิด
มัสกายังระบุว่า อาสาสมัครดับเพลิง 5-6 คนที่เข้าไปในที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มแรกๆ ยังคงสูญหาย และยอมรับว่า ไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธยอดผู้เสียชีวิตที่มีการรายงานออกมา เนื่องจากตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ
สวอนสันเสริมว่า ยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังตรวจสอบว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่ออาชญากรรมหรือผลจากปฏิกิริยาเคมี ขณะที่ดอน ยีเกอร์ ผู้ช่วยหัวหน้าชุดปฏิบัติการดับเพลิงเมืองวาโก ระบุว่า เป็นการระเบิดที่เกิดจากสารเคมีแอนไฮดรัส แอมโมเนีย
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเกิดการระเบิดราว 50 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมไฟที่ไหม้อยู่ รวมทั้งอพยพคนออกจากที่พักและสถานพักฟื้นผู้สูงวัยในละแวกใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ระบุว่า เปลวไฟที่ยังคงลุกไหม้โดยไม่มีควันภายในโรงงานมีความเสี่ยงสองข้อคือ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดระเบิดซ้ำ และการปล่อยควันพิษไปทั่วเมือง
อย่างไรก็ดี สวอนสันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟที่ยังเผาไหม้อยู่ใต้แท็งค์สารเคมีได้แล้ว
ทางด้าน ดี. แอล. วิลสัน โฆษกกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของเทกซัส เสริมว่า เจ้าหน้าที่ได้อพยพคนออกจากพื้นที่ 8-10 ช่วงตึกหรือราวครึ่งเมือง และอาจต้องอพยพคนอีกด้านของเมืองหากลมเปลี่ยนทิศ
เพื่อเป็นการระวังภัยล่วงหน้า สำนักงานการบินกลาง ประกาศให้พื้นที่รอบเมืองเวสต์เป็นเขตห้ามบิน เนื่องจากเกรงว่า อาจเกิดระเบิดซ้ำและทำให้เครื่องบินเล็กตกได้
นอกจากนี้ยังมีการตัดไฟและแก๊สในบางพื้นที่ของเมืองด้วย
เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนวันครบรอบ 20 ปีการเผชิญหน้าในเมืองวาโก ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับสาวกลัทธิบรานช์ ดาวิเดียนที่ติดอาวุธ การประจันหน้าคราวนั้นยืดเยื้ออยู่นาน 51 วัน และจบลงด้วยการที่สาวกเผานิคมที่หลบซ่อนอยู่หลังจากเจ้าหน้าที่เริ่มบุกเข้าไป เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
**พบภาพผู้ต้องสงสัยระเบิดบอสตัน**
สำหรับคดีลอบวางระเบิดสองลูกในการแข่งขันบอสตัน มาราธอนเมื่อวันจันทร์ (15) แม้ยังไม่มีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการ รวมทั้งไม่มีผู้ใดหรือกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่กระนั้น วันพุธที่ผ่านมา (17) สตีเฟน เมอร์ฟี ประธานสภาเมืองบอสตัน ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงสามารถจับภาพชายคนหนึ่งนำกระเป๋าไปทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังเร่งตามหาตัวปู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทมส์และโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตามตัวผู้ที่อาจเป็นผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เห็นจากภาพ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
สื่อมวลชนรายงานว่า ภาพที่บันทึกได้อาจติดผู้ต้องสงสัยอย่างน้อยหนึ่งคนที่วางกระเป๋าซึ่งอาจซุกซ่อนระเบิดทิ้งไว้ นอกจากนี้ยังมีภาพที่ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีขณะที่คนอื่นๆ ลงไปกองกับพื้นระหว่างเกิดระเบิด
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ยังเผยแพร่ภาพชิ้นส่วนหม้อตุ๋นความดันไอน้ำขนาด 6 ลิตรที่เชื่อว่า ใช้บรรจุระเบิด 1 ใน 2 ลูก ซึ่งระเบิดและพ่นตะปู ตลับลูกปืน และกระสุนลูกปรายใส่ฝูงชนที่บริเวณใกล้จุดเข้าเส้นชัยในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 170 คน ซึ่งล่าสุดผู้บาดเจ็บราว 100 คนออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่มี 10 คนที่ยังอาการสาหัสและต้องผ่าตัดเพิ่ม
ขณะเดียวกัน ผู้คนนับร้อยเดินทางไปยังที่ทำการศาลบอสตันเมื่อวันพุธ หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ทำให้ต้องมีการอพยพคนออกจากศาลและบางส่วนของโรงพยาบาลบริกแฮม แอนด์ วีเมนส์ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดจำนวนมากรักษาตัวอยู่
หลังจากนั้น ไม่นาน ตำรวจบอสตันออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ขณะที่เอฟบีไอวิจารณ์ว่า นับจากเกิดเหตุ มีการเผยแพร่รายงานข่าวมากมายที่ “ไม่ถูกต้อง” และเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงาน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่มีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธีศพเหยื่อระเบิดที่บอสตันในช่วงเช้าวันพฤหัสฯ (18) ประณามการโจมตีนี้ว่าเป็นการก่อร้าย และให้คำมั่นว่า ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษสถานหนัก
**FBIรวบหนุ่มส่งจม.ไรซินถึงโอบามา**
ในวันพุธเช่นกัน เอฟบีไอแถลงว่า ได้จับกุมพอล เควิน เคอร์ติส จากบ้านพักในมิสซิสซิปปี เนื่องจากเชื่อว่า เป็นผู้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีโอบามา, โรเจอร์ วิกเกอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และเจ้าหน้าที่ตุลาการของมลรัฐมิสซิสซิปีที่ไม่เปิดเผยชื่อ
จากการตรวจเบื้องต้นพบว่า จดหมายเหล่านั้นมีสารไรซินปนเปื้อนอยู่ โดยสารชนิดนี้ที่พบในเมล็ดละหุ่ง สามารถทำให้เกิดปัญหาในการหายใจหากสูดดมเข้าไป และอาจถึงแก่ชีวิตหากกินเข้าไปในปริมาณน้อยมาก
นอกจากนี้ จดหมายทั้งสามฉบับยังใช้ข้อความบางส่วนเหมือนกัน และลงชื่อกำกับว่า “เคซี และผมขอรับรองข้อความนี้”
เอ็ดวิน โดโนแวน โฆษกหน่วยตำรวจลับที่มีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ และครอบครัว เผยว่า ประสานงานใกล้ชิดกับตำรวจรัฐสภาและเอฟบีไอ เพื่อสืบหาเบาะแสผู้ส่งจดหมาย
ด้านเอฟบีไอสำทับว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับเหตุระเบิดที่บอสตัน
อย่างไรก็ดี ผู้คนในวอชิงตันหวั่นผวามากขึ้น หลังมีการปิดล้อมอาคารวุฒิสภา 2 หลังช่วงสั้นๆ ในวันพุธ พร้อมกับที่มีรายงานข่าวพบบรรจุภัณฑ์ต้องสงสัย และตำรวจรัฐสภายืนยันว่า ทำการสอบปากคำชายผู้หนึ่งแต่ไม่ได้กักตัวไว้แต่อย่างใด
จดหมายปนเปื้อนสารพิษครั้งนี้ทำให้หลายคนนึกถึงจดหมายลึกลับหลายฉบับที่ปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์ และถูกส่งถึงสมาชิกรัฐสภาและผู้สื่อข่าวบางคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และป่วย 17 คน ภายหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001
