เอเจนซีส์ - อเมริกาเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดเมืองใหญ่ทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิดสองครั้งในเวลาห่างกันไม่กี่วินาที ใกล้จุดเข้าเส้นชัยการแข่งขันวิ่งมาราธอนนครบอสตัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 150 คน ทางด้านโอบามาลั่นต้องหาตัวคนผิดมารับโทษอย่างสาสม ขณะเอฟบีไอเปิดเกมไล่ล่าผู้ก่ออาชญากรรมที่มีแนวโน้มเป็นการก่อการร้าย
เหตุระเบิดสองครั้งที่บึ้มขึ้นมาห่างกันเพียง 13 วินาทีเมื่อวันจันทร์ (15) เกิดขึ้นในช่วงเวลากว่า 10 ปีหลังเหตุกรณีวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 ซึ่งทีมมือระเบิดจี้เครื่องบินรวม 4 ลำ แล้วนำไปพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดในนิวยอร์ก, อาคารเพนตากอนในกรุงวอชิงตัน, และตกลงสู่ทุ่งนาในมลรัฐเพนซิลเวเนีย
นักวิ่งจำนวนมากในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน เข้าสู่เส้นชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วตอนที่ระเบิดลูกแรกสำแดงฤทธิ์ขึ้นใกล้ๆ กับจุดเข้าเส้นชัย ภายหลังที่การแข่งขันผ่านไปเกือบ 4 ชั่วโมง แรงระเบิดทำให้เกิดสะเก็ดไฟและกลุ่มควันพวยพุ่งเบื้องหลังกลุ่มกองเชียร์และแถวแนวธงชาติของบรรดาประเทศของผู้เข้าร่วมแข่งขัน บนถนนบอยล์สตัน ขณะที่กระจกร้านค้าในบริเวณนั้นแตกกระจายเกลื่อน จากนั้นพักเดียวระเบิดลูกที่สองก็ตูมขึ้นติดตามมา
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากจากระเบิดที่อัดด้วยดินปืนและกระสุนดาวกระจายเพื่อเพิ่มอานุภาพการทำลายล้าง ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 17 คนบาดเจ็บสาหัส โดยที่ ริก เดสลอว์ริเอร์ส หัวหน้าหน่วยเอฟบีไอสาขาบอสตัน ระบุในเช้าวันอังคาร (16) ว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บรวมแล้วมีจำนวนกว่า 150 คน
บรรดาศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ ในบอสตันต้องทำงานตลอดคืน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดทั้งสองลูกที่วางอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร
เหยื่อบางคนแขนขาขาดในที่เกิดเหตุ บางคนต้องตัดอวัยวะทิ้งในเต็นท์แพทย์ที่มาอำนวยความสะดวกในการแข่งขันหรือไม่ก็ในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล
ปีเตอร์ ฟาเกนฮอลซ์ ศัลยแพทย์อุบัติเหตุจากโรงพยาบาลแมสซาชูเสตส์ เจเนอรัล ระบุว่า เหยื่อหลายคนต้องรับการผ่าตัดเพิ่มเติมอีกในวันต่อๆ ไป
บอสตัน โกลบรายงานว่า 1 ใน 3 คนที่เสียชีวิตเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบชื่อ มาร์ติน ริชาร์ด ซึ่งไปร่วมให้กำลังใจพ่อที่เข้าแข่งขัน แม่และน้องสาวของมาร์ตินก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่น้องสาวอีกคนปลอดภัย
ทางด้านโทรทัศน์เอ็นบีซี นิวส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ว่า ตำรวจพบระเบิดอีกหลายลูกในบอสตัน ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีที่มีการเตรียมการล่วงหน้าและประสานงานกันเป็นอย่างดี
ทว่า ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ และมีอย่างน้อย 1 กลุ่มคือ ตอลิบานในปากีสถาน (เตห์รีค-อี-ตอลิบาน ปากีสถาน หรือ ทีทีพี) ซึ่งเคยอ้างว่าเป็นผู้วางระเบิดไทมส์สแควร์เมื่อปี 2010 กลับรีบออกมาแถลงว่า แม้พวกตนเชื่อว่าควรต้องทำการโจมตีสหรัฐฯและพันธมิตร แต่พวกตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุร้ายล่าสุดนี้
เจ้าหน้าที่เริ่มตรวจสอบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่มีผู้ถ่ายไว้ระหว่างการแข่งขัน สื่อมวลชนอเมริกันยังรายงานว่า ตำรวจได้ซักถามชายหนุ่มซาอุดีอาระเบียวัย 20 ปีใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ยังไม่มีการจับกุมใคร และมีผู้ถูกซักถามจำนวนมาก ไม่เฉพาะหนุ่มซาอุดีฯ คนดังกล่าว
สื่อท้องถิ่นรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่เข้าค้นอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งในย่านรีเวียร์ของบอสตันช่วงคืนวันจันทร์ ทว่า ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ตำรวจเตือนว่า อาจมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยบอสตันในวันอังคาร ด้วยการสุ่มตรวจเป้และกระเป๋าบนรถประจำทางและรถไฟ และถนนหลายสายยังคงปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐาน
เอ็ดเวิร์ด เดวิส ผู้บัญชาการตำรวจบอสตัน แถลงว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับข่าวกรองใดๆ ที่บ่งชี้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ระเบิดนี้ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัย และงดเว้นการชุมนุมกันเป็นกลุ่มใหญ่
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกคำแถลงทางโทรทัศน์เตือนไม่ให้ด่วนสรุป กระนั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวผู้หนึ่งก็ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการก่อการร้ายอย่างชัดเจน แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นฝีมือของคนอเมริกันหรือต่างชาติ รวมทั้งมูลเหตุจูงใจก็ตาม
สำหรับสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) นำทีมหน่วยงานรักษากฎหมายของประเทศ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ และท้องถิ่นนครบอสตัน ไล่ล่าผู้ลอบวางระเบิดครั้งนี้ที่โอบามาประกาศว่า จะต้องรับผิดชอบในความผิดที่ก่อขึ้นอย่างสาสม
เดสลอว์ริเอร์ส หัวหน้าหน่วยเอฟบีไอสาขาบอสตัน กล่าวในวันจันทร์ว่า พวกเขากำลังทำการสอบสวนคดีอาชญากรรมที่มีแนวโน้มเป็นการก่อการร้าย
ต่อมาเขาแถลงในเช้าวันอังคารว่า ยังไม่พบเห็นหรือรับทราบว่ามีภัยคุกคามเพิ่มเติมในสถานที่ใดๆ อีก หลังจากเหตุระเบิดที่บอสตัน มาราธอน แล้ว
ขณะที่ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอดีตวุฒิสมาชิกมลรัฐแมสซาชูเซตส์ที่มักเป็นผู้ยิงปืนเพื่อเริ่มต้นการแข่งขันสำหรับส่วนของผู้พิการ ได้รับแจ้งเรื่องนี้ขณะเดินทางกลับจากการเยือนเอเชีย-แปซิฟิกนาน 10 วัน
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ เป็นต้นว่า นิวยอร์ก วอชิงตัน ลอสแองเจลิส และซานฟรานซิสโก ท่ามกลางความกังวลว่า อาจเกิดเหตุซ้ำรอยวินาศกรรม 9/11
ขณะเดียวกัน สำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ สั่งจำกัดเขตห้ามบินภายในรัศมี 5.6 กิโลเมตรจากสถานที่เกิดเหตุ
อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวอชิงตันสั่งลดธงลงครึ่งเสา เช่นเดียวกับสถานที่สำคัญทั่วประเทศเพื่อไว้อาลัยเหยื่อระเบิดครั้งนี้
ทั้งนี้ บอสตัน มาราธอนจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับจากปี 1897 สำหรับปีนี้มีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 27,000 คน บนระยะทาง 42 กิโลเมตร และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมราวครึ่งล้าน ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก
ทางด้านผู้นำทั่วโลกต่างออกมาประณามผู้ก่อเหตุคราวนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียบอกว่า เป็นการกระทำที่ “ป่าเถื่อน” ส่วนนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีกล่าวว่า เธอรู้สึกสยดสยอง และไม่เห็นเหตุผลใดๆ เลยที่จะโจมตีอย่างเหี้ยมโหดต่อประชาชนที่กำลังเข้าร่วมรายการกีฬาอย่างสันติ แม้กระทั่งอิหร่านก็ออกคำแถลงประณามเช่นกัน
เหตุระเบิดสองครั้งที่บึ้มขึ้นมาห่างกันเพียง 13 วินาทีเมื่อวันจันทร์ (15) เกิดขึ้นในช่วงเวลากว่า 10 ปีหลังเหตุกรณีวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 ซึ่งทีมมือระเบิดจี้เครื่องบินรวม 4 ลำ แล้วนำไปพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดในนิวยอร์ก, อาคารเพนตากอนในกรุงวอชิงตัน, และตกลงสู่ทุ่งนาในมลรัฐเพนซิลเวเนีย
นักวิ่งจำนวนมากในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน เข้าสู่เส้นชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วตอนที่ระเบิดลูกแรกสำแดงฤทธิ์ขึ้นใกล้ๆ กับจุดเข้าเส้นชัย ภายหลังที่การแข่งขันผ่านไปเกือบ 4 ชั่วโมง แรงระเบิดทำให้เกิดสะเก็ดไฟและกลุ่มควันพวยพุ่งเบื้องหลังกลุ่มกองเชียร์และแถวแนวธงชาติของบรรดาประเทศของผู้เข้าร่วมแข่งขัน บนถนนบอยล์สตัน ขณะที่กระจกร้านค้าในบริเวณนั้นแตกกระจายเกลื่อน จากนั้นพักเดียวระเบิดลูกที่สองก็ตูมขึ้นติดตามมา
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากจากระเบิดที่อัดด้วยดินปืนและกระสุนดาวกระจายเพื่อเพิ่มอานุภาพการทำลายล้าง ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 17 คนบาดเจ็บสาหัส โดยที่ ริก เดสลอว์ริเอร์ส หัวหน้าหน่วยเอฟบีไอสาขาบอสตัน ระบุในเช้าวันอังคาร (16) ว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บรวมแล้วมีจำนวนกว่า 150 คน
บรรดาศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ ในบอสตันต้องทำงานตลอดคืน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดทั้งสองลูกที่วางอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร
เหยื่อบางคนแขนขาขาดในที่เกิดเหตุ บางคนต้องตัดอวัยวะทิ้งในเต็นท์แพทย์ที่มาอำนวยความสะดวกในการแข่งขันหรือไม่ก็ในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล
ปีเตอร์ ฟาเกนฮอลซ์ ศัลยแพทย์อุบัติเหตุจากโรงพยาบาลแมสซาชูเสตส์ เจเนอรัล ระบุว่า เหยื่อหลายคนต้องรับการผ่าตัดเพิ่มเติมอีกในวันต่อๆ ไป
บอสตัน โกลบรายงานว่า 1 ใน 3 คนที่เสียชีวิตเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบชื่อ มาร์ติน ริชาร์ด ซึ่งไปร่วมให้กำลังใจพ่อที่เข้าแข่งขัน แม่และน้องสาวของมาร์ตินก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่น้องสาวอีกคนปลอดภัย
ทางด้านโทรทัศน์เอ็นบีซี นิวส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ว่า ตำรวจพบระเบิดอีกหลายลูกในบอสตัน ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีที่มีการเตรียมการล่วงหน้าและประสานงานกันเป็นอย่างดี
ทว่า ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ และมีอย่างน้อย 1 กลุ่มคือ ตอลิบานในปากีสถาน (เตห์รีค-อี-ตอลิบาน ปากีสถาน หรือ ทีทีพี) ซึ่งเคยอ้างว่าเป็นผู้วางระเบิดไทมส์สแควร์เมื่อปี 2010 กลับรีบออกมาแถลงว่า แม้พวกตนเชื่อว่าควรต้องทำการโจมตีสหรัฐฯและพันธมิตร แต่พวกตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุร้ายล่าสุดนี้
เจ้าหน้าที่เริ่มตรวจสอบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่มีผู้ถ่ายไว้ระหว่างการแข่งขัน สื่อมวลชนอเมริกันยังรายงานว่า ตำรวจได้ซักถามชายหนุ่มซาอุดีอาระเบียวัย 20 ปีใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ยังไม่มีการจับกุมใคร และมีผู้ถูกซักถามจำนวนมาก ไม่เฉพาะหนุ่มซาอุดีฯ คนดังกล่าว
สื่อท้องถิ่นรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่เข้าค้นอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งในย่านรีเวียร์ของบอสตันช่วงคืนวันจันทร์ ทว่า ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ตำรวจเตือนว่า อาจมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยบอสตันในวันอังคาร ด้วยการสุ่มตรวจเป้และกระเป๋าบนรถประจำทางและรถไฟ และถนนหลายสายยังคงปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐาน
เอ็ดเวิร์ด เดวิส ผู้บัญชาการตำรวจบอสตัน แถลงว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับข่าวกรองใดๆ ที่บ่งชี้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ระเบิดนี้ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัย และงดเว้นการชุมนุมกันเป็นกลุ่มใหญ่
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกคำแถลงทางโทรทัศน์เตือนไม่ให้ด่วนสรุป กระนั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวผู้หนึ่งก็ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการก่อการร้ายอย่างชัดเจน แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นฝีมือของคนอเมริกันหรือต่างชาติ รวมทั้งมูลเหตุจูงใจก็ตาม
สำหรับสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) นำทีมหน่วยงานรักษากฎหมายของประเทศ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ และท้องถิ่นนครบอสตัน ไล่ล่าผู้ลอบวางระเบิดครั้งนี้ที่โอบามาประกาศว่า จะต้องรับผิดชอบในความผิดที่ก่อขึ้นอย่างสาสม
เดสลอว์ริเอร์ส หัวหน้าหน่วยเอฟบีไอสาขาบอสตัน กล่าวในวันจันทร์ว่า พวกเขากำลังทำการสอบสวนคดีอาชญากรรมที่มีแนวโน้มเป็นการก่อการร้าย
ต่อมาเขาแถลงในเช้าวันอังคารว่า ยังไม่พบเห็นหรือรับทราบว่ามีภัยคุกคามเพิ่มเติมในสถานที่ใดๆ อีก หลังจากเหตุระเบิดที่บอสตัน มาราธอน แล้ว
ขณะที่ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอดีตวุฒิสมาชิกมลรัฐแมสซาชูเซตส์ที่มักเป็นผู้ยิงปืนเพื่อเริ่มต้นการแข่งขันสำหรับส่วนของผู้พิการ ได้รับแจ้งเรื่องนี้ขณะเดินทางกลับจากการเยือนเอเชีย-แปซิฟิกนาน 10 วัน
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ เป็นต้นว่า นิวยอร์ก วอชิงตัน ลอสแองเจลิส และซานฟรานซิสโก ท่ามกลางความกังวลว่า อาจเกิดเหตุซ้ำรอยวินาศกรรม 9/11
ขณะเดียวกัน สำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ สั่งจำกัดเขตห้ามบินภายในรัศมี 5.6 กิโลเมตรจากสถานที่เกิดเหตุ
อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวอชิงตันสั่งลดธงลงครึ่งเสา เช่นเดียวกับสถานที่สำคัญทั่วประเทศเพื่อไว้อาลัยเหยื่อระเบิดครั้งนี้
ทั้งนี้ บอสตัน มาราธอนจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับจากปี 1897 สำหรับปีนี้มีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 27,000 คน บนระยะทาง 42 กิโลเมตร และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมราวครึ่งล้าน ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก
ทางด้านผู้นำทั่วโลกต่างออกมาประณามผู้ก่อเหตุคราวนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียบอกว่า เป็นการกระทำที่ “ป่าเถื่อน” ส่วนนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีกล่าวว่า เธอรู้สึกสยดสยอง และไม่เห็นเหตุผลใดๆ เลยที่จะโจมตีอย่างเหี้ยมโหดต่อประชาชนที่กำลังเข้าร่วมรายการกีฬาอย่างสันติ แม้กระทั่งอิหร่านก็ออกคำแถลงประณามเช่นกัน