เอเจนซีส์ – กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยทิ้งกระเป๋าที่เชื่อว่าซุกซ่อนระเบิดไว้ในจุดเกิดเหตุใกล้เส้นชัยบอสตัน มาราธอน ขณะเดียวกัน เอฟบีไอสามารถจับกุมหนุ่มมิสซิสซิปปีที่ส่งจดหมายปนเปื้อนสารพิษไรซินถึงโอบามา วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน และเจ้าหน้าที่ยุติธรรมในรัฐดังกล่าว
แม้ยังไม่มีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดสองลูกในการแข่งขันบอสตัน มาราธอนเมื่อวันจันทร์ (15) รวมทั้งไม่มีผู้ใดหรือกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ กระนั้น วันพุธที่ผ่านมา (17) สตีเฟน เมอร์ฟี ประธานสภาเมืองบอสตัน ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงสามารถจับภาพชายคนหนึ่งนำกระเป๋าไปทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังเร่งตามหาตัวปู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีส ไทมส์และสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตามตัวผู้ที่อาจเป็นผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เห็นจากภาพ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
สื่อมวลชนรายงานว่า ภาพที่บันทึกได้อาจติดผู้ต้องสงสัยอย่างน้อยหนึ่งคนที่วางกระเป๋าที่อาจซุกซ่อนระเบิดทิ้งไว้ นอกจากนี้ยังมีภาพที่ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีขณะที่คนอื่นๆ ลงไปกองกับพื้นระหว่างเกิดระเบิด
สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ยังเผยแพร่ภาพชิ้นส่วนหม้ออัดความดันขนาด 6 ลิตรที่เชื่อว่า ใช้บรรจุระเบิด 1 ใน 2 ลูกที่ระเบิดและพ่นตะปู ตลับลูกปืน และกระสุนลูกปรายใส่ฝูงชนที่บริเวณใกล้จุดเข้าเส้นชัยในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 170 คน ซึ่งล่าสุดผู้บาดเจ็บราว 100 คนออกจากโรงพยาบาลแล้ว และมี 10 คนที่ยังอาการสาหัสและต้องผ่าตัดเพิ่ม
ขณะเดียวกัน ผู้คนนับร้อยเดินทางไปยังที่ทำการศาลบอสตันเมื่อวันพุธ หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ทำให้ต้องมีการอพยพคนออกจากศาลและบางส่วนของโรงพยาบาลบริกแฮม แอนด์ วีเมนส์ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดจำนวนมากรักษาตัวอยู่
หลังจากนั้น ไม่นาน ตำรวจบอสตันออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ขณะที่เอฟบีไอวิจารณ์ว่า นับจากเกิดเหตุ มีการเผยแพร่รายงานข่าวมากมายที่ “ไม่ถูกต้อง” และเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงาน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่มีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธีศพเหยื่อระเบิดที่บอสตันในช่วงเช้าวันพฤหัสฯ (18) ประณามการโจมตีนี้ว่าเป็นการก่อร้าย และให้คำมั่นว่า ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษสถานหนัก
วันเดียวกัน เอฟบีไอแถลงว่า ได้จับกุมพอล เควิน เคอร์ติส จากบ้านพักในมลรัฐมิสซิสซิปปี เนื่องจากเชื่อว่า เป็นผู้ส่งจดหมายถึงผู้นำสหรัฐฯ, โรเจอร์ วิกเกอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และเจ้าหน้าที่ตุลาการของมิสซิสซิปปีที่ไม่เปิดเผยชื่อ
จากการตรวจเบื้องต้นพบว่า จดหมายเหล่านั้นมีสารไรซินปนเปื้อนอยู่ โดยสารชนิดนี้ที่พบในเมล็ดละหุ่ง สามารถทำให้เกิดปัญหาในการหายใจหากสูดดมเข้าไป และอาจถึงแก่ชีวิตหากกินเข้าไปในปริมาณน้อยมาก
นอกจากนี้ จดหมายทั้งสามฉบับยังใช้ข้อความบางส่วนเหมือนกัน และลงชื่อกำกับว่า “เคซี และผมขอรับรองข้อความนี้”
เอ็ดวิน โดโนแวน โฆษกหน่วยตำรวจลับที่มีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ และครอบครัว เผยว่า ประสานงานใกล้ชิดกับตำรวจรัฐสภาและเอฟบีไอ เพื่อสืบหาเบาะแสผู้ส่งจดหมาย
ด้านเอฟบีไอสำทับว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับเหตุระเบิดที่บอสตัน
อย่างไรก็ดี ผู้คนในวอชิงตันหวั่นผวามากขึ้น หลังมีการปิดล้อมอาคารวุฒิสภา 2 หลังช่วงสั้นๆ ในวันพุธ พร้อมกับที่มีรายงานข่าวพบบรรจุภัณฑ์ต้องสงสัย และตำรวจรัฐสภายืนยันว่า ทำการสอบปากคำชายผู้หนึ่งแต่ไม่ได้กักตัวไว้แต่อย่างใด
จดหมายปนเปื้อนสารพิษครั้งนี้ทำให้หลายคนนึกถึงจดหมายลึกลับหลายฉบับที่ปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์ และถูกส่งถึงสมาชิกรัฐสภาและผู้สื่อข่าวบางคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และป่วย 17 คน ภายหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001
แม้ยังไม่มีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดสองลูกในการแข่งขันบอสตัน มาราธอนเมื่อวันจันทร์ (15) รวมทั้งไม่มีผู้ใดหรือกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ กระนั้น วันพุธที่ผ่านมา (17) สตีเฟน เมอร์ฟี ประธานสภาเมืองบอสตัน ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงสามารถจับภาพชายคนหนึ่งนำกระเป๋าไปทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังเร่งตามหาตัวปู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีส ไทมส์และสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตามตัวผู้ที่อาจเป็นผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เห็นจากภาพ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
สื่อมวลชนรายงานว่า ภาพที่บันทึกได้อาจติดผู้ต้องสงสัยอย่างน้อยหนึ่งคนที่วางกระเป๋าที่อาจซุกซ่อนระเบิดทิ้งไว้ นอกจากนี้ยังมีภาพที่ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีขณะที่คนอื่นๆ ลงไปกองกับพื้นระหว่างเกิดระเบิด
สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ยังเผยแพร่ภาพชิ้นส่วนหม้ออัดความดันขนาด 6 ลิตรที่เชื่อว่า ใช้บรรจุระเบิด 1 ใน 2 ลูกที่ระเบิดและพ่นตะปู ตลับลูกปืน และกระสุนลูกปรายใส่ฝูงชนที่บริเวณใกล้จุดเข้าเส้นชัยในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 170 คน ซึ่งล่าสุดผู้บาดเจ็บราว 100 คนออกจากโรงพยาบาลแล้ว และมี 10 คนที่ยังอาการสาหัสและต้องผ่าตัดเพิ่ม
ขณะเดียวกัน ผู้คนนับร้อยเดินทางไปยังที่ทำการศาลบอสตันเมื่อวันพุธ หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ทำให้ต้องมีการอพยพคนออกจากศาลและบางส่วนของโรงพยาบาลบริกแฮม แอนด์ วีเมนส์ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดจำนวนมากรักษาตัวอยู่
หลังจากนั้น ไม่นาน ตำรวจบอสตันออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ขณะที่เอฟบีไอวิจารณ์ว่า นับจากเกิดเหตุ มีการเผยแพร่รายงานข่าวมากมายที่ “ไม่ถูกต้อง” และเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงาน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่มีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธีศพเหยื่อระเบิดที่บอสตันในช่วงเช้าวันพฤหัสฯ (18) ประณามการโจมตีนี้ว่าเป็นการก่อร้าย และให้คำมั่นว่า ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษสถานหนัก
วันเดียวกัน เอฟบีไอแถลงว่า ได้จับกุมพอล เควิน เคอร์ติส จากบ้านพักในมลรัฐมิสซิสซิปปี เนื่องจากเชื่อว่า เป็นผู้ส่งจดหมายถึงผู้นำสหรัฐฯ, โรเจอร์ วิกเกอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และเจ้าหน้าที่ตุลาการของมิสซิสซิปปีที่ไม่เปิดเผยชื่อ
จากการตรวจเบื้องต้นพบว่า จดหมายเหล่านั้นมีสารไรซินปนเปื้อนอยู่ โดยสารชนิดนี้ที่พบในเมล็ดละหุ่ง สามารถทำให้เกิดปัญหาในการหายใจหากสูดดมเข้าไป และอาจถึงแก่ชีวิตหากกินเข้าไปในปริมาณน้อยมาก
นอกจากนี้ จดหมายทั้งสามฉบับยังใช้ข้อความบางส่วนเหมือนกัน และลงชื่อกำกับว่า “เคซี และผมขอรับรองข้อความนี้”
เอ็ดวิน โดโนแวน โฆษกหน่วยตำรวจลับที่มีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ และครอบครัว เผยว่า ประสานงานใกล้ชิดกับตำรวจรัฐสภาและเอฟบีไอ เพื่อสืบหาเบาะแสผู้ส่งจดหมาย
ด้านเอฟบีไอสำทับว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับเหตุระเบิดที่บอสตัน
อย่างไรก็ดี ผู้คนในวอชิงตันหวั่นผวามากขึ้น หลังมีการปิดล้อมอาคารวุฒิสภา 2 หลังช่วงสั้นๆ ในวันพุธ พร้อมกับที่มีรายงานข่าวพบบรรจุภัณฑ์ต้องสงสัย และตำรวจรัฐสภายืนยันว่า ทำการสอบปากคำชายผู้หนึ่งแต่ไม่ได้กักตัวไว้แต่อย่างใด
จดหมายปนเปื้อนสารพิษครั้งนี้ทำให้หลายคนนึกถึงจดหมายลึกลับหลายฉบับที่ปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์ และถูกส่งถึงสมาชิกรัฐสภาและผู้สื่อข่าวบางคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และป่วย 17 คน ภายหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001