ASTVผู้จัดการรายวัน-ทองคำรูด 2,350 บาท หลุด 2 หมื่นบาท วิตกไซปรัส ชาติยุโรปเทขายทองสำรอง โบรกฯ เชื่อเป็น panic คาดไม่น่าร่วงหลุด 1,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เหตุธนาคารกลางหลายประเทศยังซื้อสุทธิ ด้านโกลด์ ฟิวเจอร์ส เผย TFEX หารือ บล.สมาชิก ตั้งโต๊ะรับซื้อในราคาที่สูงกว่า ช่วยนักลงทุน แต่คาดยังมีหลายรายถูกบังคับขาย และเรียกเก็บเงินประกันเพิ่ม เตือนรายย่อยซื้อทองเก็บ ระวังเจอดิ่งอีก ส่วนหุ้นก็ผันผวนจัด ลดลง 5.79 จุด คาดยังชะลอตัวต่อไป
หลังจากหยุดทำการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ล่าสุด สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำประจำวันที่ 17 เม.ย.2556 โดยราคาปรับลดลงจากวันศุกร์ 12เม.ย. อีก 2,350 บาท/ทองคำ 1 บาท ซึ่งทองคำแท่งรับซื้อที่ 18,900 บาท ขายออก 19,000 บาท ทองรูปพรรณ ซื้อ 18,631.64 บาท ขายออก 19,400 บาท
ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนจำนวนมากมาเข้าคิวรอซื้อทองคำในย่านเยาวราช ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำใหญ่สุดของประเทศ ตั้งแต่ร้านค้าทองคำยังไม่เปิดให้บริการ เพื่อต้องการซื้อเก็บสะสม และเก็งกำไรลงทุนจากราคาทองคำที่ปรับลง และระหว่างวันพบว่าสมาคมฯ มีการปรับราคาขายทองคำแท่งและรูปพรรณถึง 7 ครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ความต้องการทองคำในช่วงนี้ เกิดขึ้นกับร้านทองคำทั่วประเทศ โดยเฉพาะย่านเยาวราช ปริมาณทองคำแท่งที่ร้านให้จำหน่ายไม่เพียงพอต่อกำลังซื้อของประชาชน จนต้องมีการออกใบจองทองคำ เพื่อให้ลูกค้านำมารับทองคำภายหลังในระยะเวลา 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แม้จะสามารถขายทองคำแท่งได้ในปริมาณมาก ก็มีการคาดเดาว่า ร้านค้าทองคำหลายแห่งอาจต้องประสบปัญหากับธุรกรรมการรับจำนำทองคำ ซึ่งเชื่อกันว่าลูกค้าเดิมที่จำนำทองคำไว้กับร้าน จะไม่กลับมาไถ่ถอนทองคำออก เพราะได้เงินไปในราคาที่สูงกว่าปัจจุบันประมาณ 2,000 บาท/ทองคำ 1 บาท
ขณะเดียวกัน ด้วยราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงมา ได้ส่งผลต่อการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์สใน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เช่นกัน โดยมีมติสั่งหยุดการซื้อขายสินค้าใน Thailand Metal ทั้งหมดเป็นการชั่วคราว 30 นาที (circuit breaker) หลังราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงกับราคาทองคำ (Gold Futures) และโลหะเงิน (Silver Futures) เปลี่ยนแปลงลดลงจากราคาที่ใช้ชำระราคา และส่งมอบล่าสุด (Latest Settlement Price) เข้าเกณฑ์ 10%
**TFEXหารือโบรกฯตั้งโต๊ะรับซื้อ
ทั้งนี้ มีรายงานก่อนเปิดทำการซื้อขาย 1 วัน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ได้มีการหารือกับโบรกเกอร์สมาชิก ให้เตรียมพร้อมในการเรียกหลักประกันในสินค้า โกลด์ฟิวเจอร์สเพิ่ม เพื่อทดแทนหลักประกันที่ขาดหายไป และลดความรุนแรงของการถูกบังคับขาย (Force Sale) รวมถึงมีการหารือกับโบรกเกอร์สมาชิกในการตั้งโต๊ะรับซื้อสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์สจากลูกค้าในราคาที่สูงกว่าราคาจริงปรับตัวลดลงไปมาก เพื่อช่วยลดผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวให้แก่นักลงทุน
"TFEX ได้มาพูดคุยกับโบรกเกอร์สมาชิก จึงมีการตั้งโต๊ะรับซื้อสัญญาทองคำกับลูกค้าในราคาที่สูงกว่าตลาด ซึ่งอยู่ในระดับต่ำทำให้ลูกค้าหลายรายได้รับความเสียหายจากราคาทองคำน้อยลง การถูกบังคับขายเกิดขึ้นกับทุกโบรกฯ มันเป็นโดมิโนเอฟเฟกต์เมื่อราคา ณ จุดหนึ่งรับไม่อยู่ ก็ย่อมไหลมาที่ราคารับจุดต่อไป ไม่ใช่แค่ตลาดไทย ตลาดในต่างประเทศก็เกิดเรื่องเช่นนี้"
**เชื่อทองฟื้นตัวไม่มากและจะลงต่อ
ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า การลดลงของราคาทองคำในช่วงวันหยุดสงกรานต์ของคนไทย ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของศูนย์วิจัยทองคำมากนัก เพียงแต่การลดลงครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง และรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง
โดยในวันศุกร์ที่ 12 เม.ย.2556 ราคาปิดลดลงจาก 1,561 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ มาปิดที่ราคา 1,477 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือลดลงมา 84 เหรียญสหรัฐ และลดลงแบบดิ่งอย่างต่อเนื่องอีก 125 เหรียญสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เม.ย.2556 ที่ราคา 1,352 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แค่ 2 วัน ราคาทองคำลดลงถึง 209 เหรียญสหรัฐ หรือ 13.4% จากราคาปิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย.2556 ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี
โดยการลดลงของราคาทองคำครั้งนี้ ส่งผลทางจิตวิทยาระยะสั้นต่อนักลงทุน ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน แต่ถ้าพิจารณาให้ดีแล้ว การรลดลงของราคาทองคำครั้งนี้ ไม่ใช่เกิดจากปัจจัยด้านพื้นฐานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดจากปัจจัยด้านเทคนิค ทำให้ตลาดเกิดอาการ Panic selling ซึ่งเมื่อปัจจัยดังกล่าวหมดไป ราคาทองคำจะค่อยๆ ขยับฟื้นขึ้น แต่อาจจะฟื้นตัวได้ไม่มาก เนื่องจากแนวโน้มใหญ่ยังเป็นขาลง
**โบรกฯเห็นพ้องระยะสั้นยังขาลง
นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตราสารอนุพันธุ์ บล.โกลเบล็ก (GBX) ประเมินว่า ราคาทองคำในตลาดโลกไม่น่าจะร่วงลงไปมากกว่า 1,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ นอกจากจะมีข่าวที่มีผลต่อจิตวิทยาในเชิงลบจริงๆ เพราะแม้แต่ข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะบังคับให้ธนาคารกลางของหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซนขายทองคำสำรองออกมาเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินนั้น
หากพิจารณาจากปัจจัยที่แท้จริงแล้วกลับพบว่า ทั้งธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางของหลายประเทศยังมีสถานะซื้อสุทธิทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง เพราะยังกังวลว่าจะเกิดวิกฤตสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางแต่ละแห่งเกิดปัญหา รวมทั้งจีนเองที่มีทุนสำรองค่อนข้างมาก แต่มีทองคำในสัดส่วนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้ยังมีสัดส่วนในการสะสมทองคำแทนดอลลาร์ได้อีกมาก ดังนั้น ธนาคารกลางต่างๆ ยังทยอยสะสมซื้อทองคำเพื่อเป็นทุนสำรองในช่วงที่ราคาทองคำปรับลดลงเช่นนี้
ทั้งนี้ ข่าวที่ทางการยุโรปบังคับประเทศสมาชิกที่มีปัญหาเศรษฐกิจขายทองออกมา ทำให้ราคาทองร่วงลงกว่าปกตินั้น แต่ถ้าดูปัจจัยจริงๆ แล้ว สถานะสุทธิจริงๆ ของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอื่นๆ ยังเป็นการซื้อเข้าทองคำแท่งต่อเนื่อง ดังนั้น มองว่าจากปัจจัยจริงๆ แล้วราคาทองคำไม่น่าจะต่ำกว่า 1,200 เหรียญสหรัฐ แม้ในตลาด TFEX สัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ใช่สัญญาณของราคาในขาขึ้น และยังไม่ใช่สัญญาณของการกลับตัว เป็นเพียงการเด้งขึ้นในช่วงสั้นจากผลของการซื้อกลับเพื่อทำกำไรในช่วงสั้นมากกว่า และมองว่าระยะกลางราคาทองคำจะยังซึมลงอย่างต่อเนื่อง
"ตอนนี้ มันเป็นภาวะ panic แต่การเด้งขึ้นตอนนี้ยังไม่จบขาลง เป็นการเด้งขึ้นระยะสั้น แต่ระยะกลางอาจค่อยซึมลงต่อเนื่อง อยากให้นักลงทุนอดทนรอ การซื้อตอนนี้น่าจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น หรือสะสมถือยาวมากๆ เพราะทองคำพอหมด circle ในรอบ 12-15 ปี ก็จะพักยาวในการปรับตัวขึ้น"นายสัญญากล่าว
อย่างไรก็ตาม มีข้อแนะนำว่า สำหรับโกลด์ ฟิวเจอรส์ ถ้าเข้ามาเพื่อเล่นเก็งกำไรระยะสั้นอายุ 2 สัปดาห์, 1 เดือน หรือ 2 เดือน ก็อาจจะเหมาะสม เพราะใช้เงินน้อยกว่า แต่ถ้าจะใช้ gold futures สำหรับการลงทุนในระยะยาวนั้นถือว่าคงไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะสมในขณะนี้
***“โต้ง"สวนคาดผันผวนช่วงสั้นๆ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป็นเรื่องความผันผวนขึ้นลงตามปกติ และจะเป็นความผันผวนระยะสั้นเท่านั้น เพราะเหตุผลของการปรับตัวลดลงของราคาทองคำครั้งนี้ ทำให้หลายประเทศมีความกังวลจนต้องนำทองคำออกมาจำหน่าย แต่เชื่อว่าในอนาคต ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับ
***เตือนรายย่อยแห่ซื้อทองระวังหมดตัว
นายธนรัชต์ พสวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทห้างขายทอง ฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า จากราคาทองคำที่มีการปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทำให้มีนักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยากเตือนว่าในสัปดาห์นี้ราคาทองคำยังคงอาจผันผวนปรับขึ้นได้ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งนักลงทุนจะต้องระมัดระวัง หากซื้อขายเก็งกำไรในระยะสั้น ขณะที่การลงทุนในระยะยาวมองว่า ในช่วง 3 ปี ราคาทองคำอาจกลับขึ้นมาสูงได้อีกตามอัตราเงินเฟ้อ และสำหรับการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่งเปิดทำการวันแรกวันนี้คาดว่า จะมีนักลงทุนขาดทุนจากราคาทองคำที่ปรับลดลงมากในช่วงสงกรานต์ ซึ่งจะมีนักลงทุนจำนวนมากถูกเรียกหลักประกันเพิ่มภายใน 1 วัน เพราะราคาปรับลงมาต่ำกว่าร้อยละ 30
**หุ้นไทยผันผวนจัด-ปิดลบ 5.79 จุด
ทางด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17เม.ย.) ดัชนีผันผวนจัดรับข่าวปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยเปิดทำการดัชนีปรับตัวลงในแดนลบ ก่อนรีบาวด์ขึ้นมาเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายครึ่งวันเช้า แต่เมื่อกลับมาซื้อขายในช่วงบ่ายก็ปรับตังลงมาปิดที่ 1,521.53 จุด ลดลง 5.79 จุด หรือ 0.38% มูลค่าการซื้อขาย 56,936.71 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,538.17 จุด ต่ำสุด 1,518.19 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดแกว่งตัวผันผวน ภาพโดยรวมชะลอตัวลง เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่เป็นปัจจัยลบเกิดขึ้น เช่น เรื่องระเบิดที่สหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และยุโรป แต่ก็มีหุ้นบางกลุ่มที่ยังคงมีแรงซื้อเข้ามา เช่น กลุ่มสื่อสาร ที่มีปัจจัยหนุนเรื่อง 3G และหุ้นบางตัวที่มีเรื่องปันผล โดยแนวโน้มตลาดหุ้นไทย วันนี้ (18เม.ย.) จะยังมีทิศทางที่ชะลอตัว แนวรับที่ 1,508 ส่วนแนวต้านที่ 1,538 จุด
หลังจากหยุดทำการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ล่าสุด สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำประจำวันที่ 17 เม.ย.2556 โดยราคาปรับลดลงจากวันศุกร์ 12เม.ย. อีก 2,350 บาท/ทองคำ 1 บาท ซึ่งทองคำแท่งรับซื้อที่ 18,900 บาท ขายออก 19,000 บาท ทองรูปพรรณ ซื้อ 18,631.64 บาท ขายออก 19,400 บาท
ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนจำนวนมากมาเข้าคิวรอซื้อทองคำในย่านเยาวราช ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำใหญ่สุดของประเทศ ตั้งแต่ร้านค้าทองคำยังไม่เปิดให้บริการ เพื่อต้องการซื้อเก็บสะสม และเก็งกำไรลงทุนจากราคาทองคำที่ปรับลง และระหว่างวันพบว่าสมาคมฯ มีการปรับราคาขายทองคำแท่งและรูปพรรณถึง 7 ครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ความต้องการทองคำในช่วงนี้ เกิดขึ้นกับร้านทองคำทั่วประเทศ โดยเฉพาะย่านเยาวราช ปริมาณทองคำแท่งที่ร้านให้จำหน่ายไม่เพียงพอต่อกำลังซื้อของประชาชน จนต้องมีการออกใบจองทองคำ เพื่อให้ลูกค้านำมารับทองคำภายหลังในระยะเวลา 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แม้จะสามารถขายทองคำแท่งได้ในปริมาณมาก ก็มีการคาดเดาว่า ร้านค้าทองคำหลายแห่งอาจต้องประสบปัญหากับธุรกรรมการรับจำนำทองคำ ซึ่งเชื่อกันว่าลูกค้าเดิมที่จำนำทองคำไว้กับร้าน จะไม่กลับมาไถ่ถอนทองคำออก เพราะได้เงินไปในราคาที่สูงกว่าปัจจุบันประมาณ 2,000 บาท/ทองคำ 1 บาท
ขณะเดียวกัน ด้วยราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงมา ได้ส่งผลต่อการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์สใน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เช่นกัน โดยมีมติสั่งหยุดการซื้อขายสินค้าใน Thailand Metal ทั้งหมดเป็นการชั่วคราว 30 นาที (circuit breaker) หลังราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงกับราคาทองคำ (Gold Futures) และโลหะเงิน (Silver Futures) เปลี่ยนแปลงลดลงจากราคาที่ใช้ชำระราคา และส่งมอบล่าสุด (Latest Settlement Price) เข้าเกณฑ์ 10%
**TFEXหารือโบรกฯตั้งโต๊ะรับซื้อ
ทั้งนี้ มีรายงานก่อนเปิดทำการซื้อขาย 1 วัน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ได้มีการหารือกับโบรกเกอร์สมาชิก ให้เตรียมพร้อมในการเรียกหลักประกันในสินค้า โกลด์ฟิวเจอร์สเพิ่ม เพื่อทดแทนหลักประกันที่ขาดหายไป และลดความรุนแรงของการถูกบังคับขาย (Force Sale) รวมถึงมีการหารือกับโบรกเกอร์สมาชิกในการตั้งโต๊ะรับซื้อสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์สจากลูกค้าในราคาที่สูงกว่าราคาจริงปรับตัวลดลงไปมาก เพื่อช่วยลดผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวให้แก่นักลงทุน
"TFEX ได้มาพูดคุยกับโบรกเกอร์สมาชิก จึงมีการตั้งโต๊ะรับซื้อสัญญาทองคำกับลูกค้าในราคาที่สูงกว่าตลาด ซึ่งอยู่ในระดับต่ำทำให้ลูกค้าหลายรายได้รับความเสียหายจากราคาทองคำน้อยลง การถูกบังคับขายเกิดขึ้นกับทุกโบรกฯ มันเป็นโดมิโนเอฟเฟกต์เมื่อราคา ณ จุดหนึ่งรับไม่อยู่ ก็ย่อมไหลมาที่ราคารับจุดต่อไป ไม่ใช่แค่ตลาดไทย ตลาดในต่างประเทศก็เกิดเรื่องเช่นนี้"
**เชื่อทองฟื้นตัวไม่มากและจะลงต่อ
ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า การลดลงของราคาทองคำในช่วงวันหยุดสงกรานต์ของคนไทย ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของศูนย์วิจัยทองคำมากนัก เพียงแต่การลดลงครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง และรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง
โดยในวันศุกร์ที่ 12 เม.ย.2556 ราคาปิดลดลงจาก 1,561 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ มาปิดที่ราคา 1,477 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือลดลงมา 84 เหรียญสหรัฐ และลดลงแบบดิ่งอย่างต่อเนื่องอีก 125 เหรียญสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เม.ย.2556 ที่ราคา 1,352 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แค่ 2 วัน ราคาทองคำลดลงถึง 209 เหรียญสหรัฐ หรือ 13.4% จากราคาปิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย.2556 ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี
โดยการลดลงของราคาทองคำครั้งนี้ ส่งผลทางจิตวิทยาระยะสั้นต่อนักลงทุน ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน แต่ถ้าพิจารณาให้ดีแล้ว การรลดลงของราคาทองคำครั้งนี้ ไม่ใช่เกิดจากปัจจัยด้านพื้นฐานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดจากปัจจัยด้านเทคนิค ทำให้ตลาดเกิดอาการ Panic selling ซึ่งเมื่อปัจจัยดังกล่าวหมดไป ราคาทองคำจะค่อยๆ ขยับฟื้นขึ้น แต่อาจจะฟื้นตัวได้ไม่มาก เนื่องจากแนวโน้มใหญ่ยังเป็นขาลง
**โบรกฯเห็นพ้องระยะสั้นยังขาลง
นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตราสารอนุพันธุ์ บล.โกลเบล็ก (GBX) ประเมินว่า ราคาทองคำในตลาดโลกไม่น่าจะร่วงลงไปมากกว่า 1,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ นอกจากจะมีข่าวที่มีผลต่อจิตวิทยาในเชิงลบจริงๆ เพราะแม้แต่ข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะบังคับให้ธนาคารกลางของหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซนขายทองคำสำรองออกมาเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินนั้น
หากพิจารณาจากปัจจัยที่แท้จริงแล้วกลับพบว่า ทั้งธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางของหลายประเทศยังมีสถานะซื้อสุทธิทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง เพราะยังกังวลว่าจะเกิดวิกฤตสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางแต่ละแห่งเกิดปัญหา รวมทั้งจีนเองที่มีทุนสำรองค่อนข้างมาก แต่มีทองคำในสัดส่วนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้ยังมีสัดส่วนในการสะสมทองคำแทนดอลลาร์ได้อีกมาก ดังนั้น ธนาคารกลางต่างๆ ยังทยอยสะสมซื้อทองคำเพื่อเป็นทุนสำรองในช่วงที่ราคาทองคำปรับลดลงเช่นนี้
ทั้งนี้ ข่าวที่ทางการยุโรปบังคับประเทศสมาชิกที่มีปัญหาเศรษฐกิจขายทองออกมา ทำให้ราคาทองร่วงลงกว่าปกตินั้น แต่ถ้าดูปัจจัยจริงๆ แล้ว สถานะสุทธิจริงๆ ของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอื่นๆ ยังเป็นการซื้อเข้าทองคำแท่งต่อเนื่อง ดังนั้น มองว่าจากปัจจัยจริงๆ แล้วราคาทองคำไม่น่าจะต่ำกว่า 1,200 เหรียญสหรัฐ แม้ในตลาด TFEX สัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ใช่สัญญาณของราคาในขาขึ้น และยังไม่ใช่สัญญาณของการกลับตัว เป็นเพียงการเด้งขึ้นในช่วงสั้นจากผลของการซื้อกลับเพื่อทำกำไรในช่วงสั้นมากกว่า และมองว่าระยะกลางราคาทองคำจะยังซึมลงอย่างต่อเนื่อง
"ตอนนี้ มันเป็นภาวะ panic แต่การเด้งขึ้นตอนนี้ยังไม่จบขาลง เป็นการเด้งขึ้นระยะสั้น แต่ระยะกลางอาจค่อยซึมลงต่อเนื่อง อยากให้นักลงทุนอดทนรอ การซื้อตอนนี้น่าจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น หรือสะสมถือยาวมากๆ เพราะทองคำพอหมด circle ในรอบ 12-15 ปี ก็จะพักยาวในการปรับตัวขึ้น"นายสัญญากล่าว
อย่างไรก็ตาม มีข้อแนะนำว่า สำหรับโกลด์ ฟิวเจอรส์ ถ้าเข้ามาเพื่อเล่นเก็งกำไรระยะสั้นอายุ 2 สัปดาห์, 1 เดือน หรือ 2 เดือน ก็อาจจะเหมาะสม เพราะใช้เงินน้อยกว่า แต่ถ้าจะใช้ gold futures สำหรับการลงทุนในระยะยาวนั้นถือว่าคงไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะสมในขณะนี้
***“โต้ง"สวนคาดผันผวนช่วงสั้นๆ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป็นเรื่องความผันผวนขึ้นลงตามปกติ และจะเป็นความผันผวนระยะสั้นเท่านั้น เพราะเหตุผลของการปรับตัวลดลงของราคาทองคำครั้งนี้ ทำให้หลายประเทศมีความกังวลจนต้องนำทองคำออกมาจำหน่าย แต่เชื่อว่าในอนาคต ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับ
***เตือนรายย่อยแห่ซื้อทองระวังหมดตัว
นายธนรัชต์ พสวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทห้างขายทอง ฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า จากราคาทองคำที่มีการปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทำให้มีนักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยากเตือนว่าในสัปดาห์นี้ราคาทองคำยังคงอาจผันผวนปรับขึ้นได้ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งนักลงทุนจะต้องระมัดระวัง หากซื้อขายเก็งกำไรในระยะสั้น ขณะที่การลงทุนในระยะยาวมองว่า ในช่วง 3 ปี ราคาทองคำอาจกลับขึ้นมาสูงได้อีกตามอัตราเงินเฟ้อ และสำหรับการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่งเปิดทำการวันแรกวันนี้คาดว่า จะมีนักลงทุนขาดทุนจากราคาทองคำที่ปรับลดลงมากในช่วงสงกรานต์ ซึ่งจะมีนักลงทุนจำนวนมากถูกเรียกหลักประกันเพิ่มภายใน 1 วัน เพราะราคาปรับลงมาต่ำกว่าร้อยละ 30
**หุ้นไทยผันผวนจัด-ปิดลบ 5.79 จุด
ทางด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17เม.ย.) ดัชนีผันผวนจัดรับข่าวปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยเปิดทำการดัชนีปรับตัวลงในแดนลบ ก่อนรีบาวด์ขึ้นมาเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายครึ่งวันเช้า แต่เมื่อกลับมาซื้อขายในช่วงบ่ายก็ปรับตังลงมาปิดที่ 1,521.53 จุด ลดลง 5.79 จุด หรือ 0.38% มูลค่าการซื้อขาย 56,936.71 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,538.17 จุด ต่ำสุด 1,518.19 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดแกว่งตัวผันผวน ภาพโดยรวมชะลอตัวลง เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่เป็นปัจจัยลบเกิดขึ้น เช่น เรื่องระเบิดที่สหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และยุโรป แต่ก็มีหุ้นบางกลุ่มที่ยังคงมีแรงซื้อเข้ามา เช่น กลุ่มสื่อสาร ที่มีปัจจัยหนุนเรื่อง 3G และหุ้นบางตัวที่มีเรื่องปันผล โดยแนวโน้มตลาดหุ้นไทย วันนี้ (18เม.ย.) จะยังมีทิศทางที่ชะลอตัว แนวรับที่ 1,508 ส่วนแนวต้านที่ 1,538 จุด
