เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาทองคำฟื้นตัวเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์วันอังคาร(16) นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังดิ่งลงแรงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์(15) เช่นเดียวกับวอลล์สตรีท ที่ดีดกลับพอสมควร ขานรับข้อมูลอันสดใสภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ผิดกับน้ำมันลอนดอนที่ยังลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
ด้วยทองคำถูกเทขายอย่างหนักในช่วงของการซื้อขาย 2 วันหลังสุด จุดชนวนให้นักลงทุนประเมินความเสียหายของโลหะชนิดนี้ที่ถูกมองมาแต่ไหนแต่ไรว่าเป็นเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะแก่การประกันความเสี่ยงเมื่อเกิดความวิตกกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยับสูง เป็นผลให้ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น 26.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,387.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อวันจันทร์(15) ราคาทองคำดิ่งลงไปกว่าร้อยละ 8.5 โดยช่วงหนึ่งปรับลดลงไปถึง 142 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นการทรุดลงวันเดียวในรูปแบบดอลลาร์เลวร้ายที่สุดในประวัตศาสตร์ และสร้างกับประหลาดใจแก่เหล่านักเก็งกำไรและนักลงทุนรุ่นเก๋าอย่างมาก
ตัวเลขอัตราเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ และรายงานข่าวไซปรัสกำลังวางแผนการขายทองคำสำรองของตนเพื่อหาเงินชดใช้ภาระหนี้สินคือข้ออ้างในการดิ่งลงของราคาทองคำดังกล่าว
ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ราคาทองคำขยับลงไปแล้วเกือบร้อยละ 20 และลดลงจากสถิติสูงสุดตลอดกาล 1,920.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ทำเอาไว้เมื่อเดือนกันยายนปี 2011 แล้วราวๆร้อยละ 28
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(16) ปิดบวกอย่างแรง หลังนักลงทุนฉวยโอกาสที่วอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์(15) เข้าช้อนซื้อ ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการอันสดใส
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 155.81 จุด (1.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,755.01 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.14 จุด (1.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,574.50 จุด ส่วนแนสแดค เพิ่มขึ้น 48.14 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,264.63 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯขานรับข้อมูลบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้างอันแข็งแกร่งของอเมริกา และรายงานผลประกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆ อาทิโคคา-โคลา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันและอื่นๆ อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญเลยก็คือนักลงทุนใช้โอกาสนี้เข้าช้อนซื้อ หลังจากมีแรงเทขายอย่างหนักเมื่อวันจันทร์(15) ตามหลังข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของจีนและเหตุระเบิดในบอสตัน
ส่วนราคาน้ำมันวานนี้(16) ปิดผสมผสาน โดยนิวยอร์กทรงตัวในกรอบแคบๆ แต่ลอนดอน ขยับลงอีกพอสมควร ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 88.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ในวันแรกของงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 72 เซนต์ ปิดที่ 99.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการปิดต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2012
"มันเป็นแค่การรีบาวน์ทางเทคนิค หลังจากเราได้เห็นการเทขายอย่างหนักตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว" แอนดี ลิโพว์ นักวิเคราะห์จากลิโพว์ ออย แอสโซซิเอท กล่าว