ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-พบแล้ว ร่าง "นาวิกโยธิน" ถูกโจรใต้อุ้มหายตัวไปจากบ้านพัก เผยถูกจับมัดมือไพล่หลังจ่อยิงหัวโหดเหี้ยม ทิ้งศพข้างถนน เชื่อเป็นการล้างแค้นวิสามัญ 16 ศพ "ปู" ชี้เป็นคนละส่วนกับการพูดคุยกับบีอาร์เอ็น เผยไม่อยากให้ด่วนสรุปว่าเหตุรุนแรงในช่วงนี้เพราะฝีมือของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย "บิ๊กโอ๋"กร้าว สั่งลากคอโจรใต้อุ้มฆ่าพลทหารลงโทษ ลั่นแรงมาแรงไป ผบ.ทบ.บอกทหารต้องหามาตรการป้องกันตัวเอง เล็งให้พลทหารหาที่พักปลอดภัยก่อนกลับบ้าน ไม่ฟันธงโจรใต้อุ้มฆ่าแก้แค้น
วานนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 23.30 น.คืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ทิวา วรรณโกษิตย์ พนักงานสอบสวน สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งพบศพคนถูกยิงตายบนถนนในหมู่บ้านกอตอ หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จึงพร้อมด้วย น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย. และ ร.ต.ท.รัฐวิทย์ วันเพ็ญศรี รองหัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบพบศพ พลทหารมะอีลา โตะลู อายุ 24 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ที่มีถูกคนร้าย 8 คน แต่งกายเลียนแบบทหารใช้ปืนเอ็ม 16 บุกจี้ตัวไปจากบ้านพักเลขที่ 88/3 หมู่ 3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะลาพักไปบ้านภรรยา
โดยสภาพศพถูกมัดมือทั้งสองข้างด้วยสายเคเบิลไทน์พลาสติกสีขาว หรือสายรัดสายไฟฟ้า มีบาดแผลถูกปืน 9 มม.ยิงที่ศีรษะ และขมับ รวม 2 นัด คาดว่าถูกก่อเหตุมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าว เนื่องจากไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือหลักฐานใด จึงนำศพส่ง รพ.บาเจาะ เพื่อผ่าพิสูจน์ต่อไป
โดย น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย. ได้นำธงชาติมาคลุมศพให้อย่างสมเกียรติ พร้อมเปิดเผยว่า พลทหารมะอีลา เป็นคนดีมีระเบียบวินัย หลังพ้นจากการรับใช้ชาติไปแล้วเป็นเวลา 2 ปี ยังขอสมัครต่อเพื่อรับใช้ประเทศชาติ แต่มาถูกคนร้ายบุกจี้ลักพาตัวออกไปจากบ้านพักแล้วนำมาสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณในครั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะมีส่วนในการบุกโจมตีฐานปฏิบัติการณ์กองร้อยปืนเล็กที่ 2 เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อแก้แค้นให้กับแกนนำและสมาชิกที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 16 ศพ เพราะพบหลักฐานเป็นสายเคเบิ้ลไทน์พลาสติกที่ขาว หรือสายรัดสายไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เคยตรวจสอบพบในกลุ่มคนร้ายทั้ง 16 ศพ ซึ่งทางกองทัพเรือจะให้การช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่งเริงรมย์ ผบ.ทร. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพลทหารที่เสียชีวิต และตนเตรียมลงพื้นที่พบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ทั้งนี้ ขอให้ติดตามผลการสอบสวนการเสียชีวิต อย่าเพิ่งคาดเดากันไปก่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีความระมัดระวังและเข้มงวดในการปฏิบัติงานมากขึ้น
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ส่วนที่เป็นห่วงว่าอนาคตอาจเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีกนั้น ต้องหามาตรการในการป้องกันตนเอง ซึ่งตนได้สั่งการว่าหากยังไม่ชัดเจน กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ส่วนไหนที่มีอันตราย ก็ยังไม่ให้กำลังพลรีบกลับบ้าน โดยให้ไปหาที่พักที่ปลอดภัยก่อนจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย ทั้งนี้ เราจะต้องดูแลอย่างเต็มที่และให้กำลังใจ ให้ความเป็นห่วง และกำชับกำลังพลเวลาเดินทางกลับไปพักที่บ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องตามแก้ไข ตราบใดที่ยังปฏิบัติการใช้กฎหมายปกติ โดยเราพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กฎหมายพิเศษในเรื่องการใช้ความรุนแรงเพราะเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็ต้องใช้กฎหมายพิเศษให้เข้มงวดขึ้นในหลายข้อและหลายมาตรการ
“วันนี้กฎหมายพิเศษเราใช้อยู่ข้อเดียวคือการตรวจค้นจับกุม ส่วนปัญหาที่ผู้ก่อความไม่สงบแต่งกายเลียนแบบทหารนั้น เป็นปัญหาเดิมที่ต้องพยายามแก้ไขกัน แต่อย่าคิดว่ามันไม่ก้าวหน้า เพราะมันต้องก้าวหน้า แต่ถ้าเราทำสำเร็จเขาจะไปเริ่มต้นอีกอย่าง ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ อย่าไปให้เครดิตคนอื่นเขามากนัก ขอให้เชื่อมั่นในคนของเรา วันนี้ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ว่าทำได้ดีตรงที่ไม่ทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายไปถึงสากล ลูกน้องเราเขาอดทน เสี่ยงอันตรายและทำหน้าที่ตามยุทธศาสตร์ทั้งหมด”
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ตนไม่ยอม ใครที่คิดไม่ดี ตนก็ไม่ดีด้วย เรื่องนี้ไม่ต้องกำชับกำลังพล เพราะเขาฉลาดพอ วันนี้ต้องเข้าใจว่าการเจรจากับการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความสงบสุขในภาคใต้ต้องเดินไปเป็นคู่ขนานกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจะมีการทบทวนการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องว่า ต้องกลับมาเรียนว่าวันนี้กระบวนการที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปพบแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เรียกว่าเป็นการพูดคุยอยู่ ยังไม่เข้าขั้นการเจรจา ดังนั้น ในส่วนของการดูแลความไม่สงบต้องทำต่อไป เพราะเรายังไม่ถึงขั้นตอนนั้น วันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่เรียกว่าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนกับต่างคนต่างอยู่ในลักษณะของการที่ไม่เข้าใจกันมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่แค่ปีสองปีด้วย เป็นเวลาหลายสิบปี ฉะนั้น ลักษณะของการพูดคุยระดับความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นส่วนเริ่มต้น ถ้าเรามีพัฒนาความระดับความไว้เนื้อเชื่อใจมากขึ้น เราจะก้าวไปสู่การเจรจา ต้องเรียนว่ายังต้องใช้เวลาอยู่ ตอนนี้คงต้องขออนุญาตให้ทำงานแยกส่วนกันไปก่อน
ส่วนในวันที่ 29 เม.ย.ที่ สมช.จะไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นในรอบที่สอง นายกฯ จะให้นโยบายอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตามหลักจะเป็นหน้าที่ของ สมช.ที่จะหารือภายใต้กรอบ เพราะผู้ที่เป็นตัวแทนไปพูดคุยจะต้องทำตามภายใต้กรอบกฎหมาย และภายใต้กรอบนโยบายของ สมช.
เมื่อถามว่า แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นผลมาจากคนที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ไม่ได้ระบุไปแบบนั้น เพราะเรายังไม่ได้เริ่มเจรจา แค่ไปรับฟังอยู่เลย และเชื่อว่าเรื่องของขั้นตอนการก่อความไม่สงบมีอะไรที่ละเอียดอ่อนมากกว่านั้น ก็ไม่อยากขอให้ด่วนสรุปเป็นประเด็นอย่างนั้นเลย เพราะมีทั้งคนที่อยากเห็นความสงบอยู่ ดังนั้น วันนี้คงต้องร่วมกันในการทำงานลงพื้นที่ให้แน่นขึ้น และช่วงนี้เราก็เร่งบรรจุเจ้าหน้าที่เพื่อลงไปช่วยเหลือดูแลความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อข้อถามว่า หลังการลงนามข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็นยังกุมกองกำลังไม่ได้แสดงว่าไม่มีความสามารถที่จะควบคุมกองกำลังได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นี่ยังไงล่ะค่ะ ที่จะเรียนว่ายังไม่ถึงขั้นเจรจา เรายังไม่ได้เจรจาเลย เรายังไม่ได้คุยอะไรเลย เป็นแค่ว่าทาง สมช.เขาไปพูดคุยอยู่ ถ้าเป็นการเจรจาอย่างไรนั้นก็ต้องเป็นกรอบของ สมช.ที่จะเห็นชอบ
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการอุ้มฆ่าพลทหามะอาลี โดยยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มที่ยังต้องการใช้ความรุนแรง ซึ่งต้องแยกออกจากการพูดคุยสร้างสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะปัญหาภาคใต้มีหลายมิติ ทั้งกลุ่มค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน แต่กลุ่มบีอาร์เอ็นถือว่าเป็นนกลุ่มใหญ่ที่สุด และต้องให้เวลาในการแก้ปัญหา เพราะถือเป็นภาระของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่รับปากจะไปพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ
วานนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 23.30 น.คืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ทิวา วรรณโกษิตย์ พนักงานสอบสวน สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งพบศพคนถูกยิงตายบนถนนในหมู่บ้านกอตอ หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จึงพร้อมด้วย น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย. และ ร.ต.ท.รัฐวิทย์ วันเพ็ญศรี รองหัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบพบศพ พลทหารมะอีลา โตะลู อายุ 24 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ที่มีถูกคนร้าย 8 คน แต่งกายเลียนแบบทหารใช้ปืนเอ็ม 16 บุกจี้ตัวไปจากบ้านพักเลขที่ 88/3 หมู่ 3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะลาพักไปบ้านภรรยา
โดยสภาพศพถูกมัดมือทั้งสองข้างด้วยสายเคเบิลไทน์พลาสติกสีขาว หรือสายรัดสายไฟฟ้า มีบาดแผลถูกปืน 9 มม.ยิงที่ศีรษะ และขมับ รวม 2 นัด คาดว่าถูกก่อเหตุมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าว เนื่องจากไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือหลักฐานใด จึงนำศพส่ง รพ.บาเจาะ เพื่อผ่าพิสูจน์ต่อไป
โดย น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย. ได้นำธงชาติมาคลุมศพให้อย่างสมเกียรติ พร้อมเปิดเผยว่า พลทหารมะอีลา เป็นคนดีมีระเบียบวินัย หลังพ้นจากการรับใช้ชาติไปแล้วเป็นเวลา 2 ปี ยังขอสมัครต่อเพื่อรับใช้ประเทศชาติ แต่มาถูกคนร้ายบุกจี้ลักพาตัวออกไปจากบ้านพักแล้วนำมาสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณในครั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะมีส่วนในการบุกโจมตีฐานปฏิบัติการณ์กองร้อยปืนเล็กที่ 2 เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อแก้แค้นให้กับแกนนำและสมาชิกที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 16 ศพ เพราะพบหลักฐานเป็นสายเคเบิ้ลไทน์พลาสติกที่ขาว หรือสายรัดสายไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เคยตรวจสอบพบในกลุ่มคนร้ายทั้ง 16 ศพ ซึ่งทางกองทัพเรือจะให้การช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่งเริงรมย์ ผบ.ทร. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพลทหารที่เสียชีวิต และตนเตรียมลงพื้นที่พบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ทั้งนี้ ขอให้ติดตามผลการสอบสวนการเสียชีวิต อย่าเพิ่งคาดเดากันไปก่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีความระมัดระวังและเข้มงวดในการปฏิบัติงานมากขึ้น
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ส่วนที่เป็นห่วงว่าอนาคตอาจเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีกนั้น ต้องหามาตรการในการป้องกันตนเอง ซึ่งตนได้สั่งการว่าหากยังไม่ชัดเจน กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ส่วนไหนที่มีอันตราย ก็ยังไม่ให้กำลังพลรีบกลับบ้าน โดยให้ไปหาที่พักที่ปลอดภัยก่อนจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย ทั้งนี้ เราจะต้องดูแลอย่างเต็มที่และให้กำลังใจ ให้ความเป็นห่วง และกำชับกำลังพลเวลาเดินทางกลับไปพักที่บ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องตามแก้ไข ตราบใดที่ยังปฏิบัติการใช้กฎหมายปกติ โดยเราพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กฎหมายพิเศษในเรื่องการใช้ความรุนแรงเพราะเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็ต้องใช้กฎหมายพิเศษให้เข้มงวดขึ้นในหลายข้อและหลายมาตรการ
“วันนี้กฎหมายพิเศษเราใช้อยู่ข้อเดียวคือการตรวจค้นจับกุม ส่วนปัญหาที่ผู้ก่อความไม่สงบแต่งกายเลียนแบบทหารนั้น เป็นปัญหาเดิมที่ต้องพยายามแก้ไขกัน แต่อย่าคิดว่ามันไม่ก้าวหน้า เพราะมันต้องก้าวหน้า แต่ถ้าเราทำสำเร็จเขาจะไปเริ่มต้นอีกอย่าง ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ อย่าไปให้เครดิตคนอื่นเขามากนัก ขอให้เชื่อมั่นในคนของเรา วันนี้ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ว่าทำได้ดีตรงที่ไม่ทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายไปถึงสากล ลูกน้องเราเขาอดทน เสี่ยงอันตรายและทำหน้าที่ตามยุทธศาสตร์ทั้งหมด”
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ตนไม่ยอม ใครที่คิดไม่ดี ตนก็ไม่ดีด้วย เรื่องนี้ไม่ต้องกำชับกำลังพล เพราะเขาฉลาดพอ วันนี้ต้องเข้าใจว่าการเจรจากับการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความสงบสุขในภาคใต้ต้องเดินไปเป็นคู่ขนานกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจะมีการทบทวนการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องว่า ต้องกลับมาเรียนว่าวันนี้กระบวนการที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปพบแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เรียกว่าเป็นการพูดคุยอยู่ ยังไม่เข้าขั้นการเจรจา ดังนั้น ในส่วนของการดูแลความไม่สงบต้องทำต่อไป เพราะเรายังไม่ถึงขั้นตอนนั้น วันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่เรียกว่าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนกับต่างคนต่างอยู่ในลักษณะของการที่ไม่เข้าใจกันมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่แค่ปีสองปีด้วย เป็นเวลาหลายสิบปี ฉะนั้น ลักษณะของการพูดคุยระดับความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นส่วนเริ่มต้น ถ้าเรามีพัฒนาความระดับความไว้เนื้อเชื่อใจมากขึ้น เราจะก้าวไปสู่การเจรจา ต้องเรียนว่ายังต้องใช้เวลาอยู่ ตอนนี้คงต้องขออนุญาตให้ทำงานแยกส่วนกันไปก่อน
ส่วนในวันที่ 29 เม.ย.ที่ สมช.จะไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นในรอบที่สอง นายกฯ จะให้นโยบายอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตามหลักจะเป็นหน้าที่ของ สมช.ที่จะหารือภายใต้กรอบ เพราะผู้ที่เป็นตัวแทนไปพูดคุยจะต้องทำตามภายใต้กรอบกฎหมาย และภายใต้กรอบนโยบายของ สมช.
เมื่อถามว่า แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นผลมาจากคนที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ไม่ได้ระบุไปแบบนั้น เพราะเรายังไม่ได้เริ่มเจรจา แค่ไปรับฟังอยู่เลย และเชื่อว่าเรื่องของขั้นตอนการก่อความไม่สงบมีอะไรที่ละเอียดอ่อนมากกว่านั้น ก็ไม่อยากขอให้ด่วนสรุปเป็นประเด็นอย่างนั้นเลย เพราะมีทั้งคนที่อยากเห็นความสงบอยู่ ดังนั้น วันนี้คงต้องร่วมกันในการทำงานลงพื้นที่ให้แน่นขึ้น และช่วงนี้เราก็เร่งบรรจุเจ้าหน้าที่เพื่อลงไปช่วยเหลือดูแลความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อข้อถามว่า หลังการลงนามข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็นยังกุมกองกำลังไม่ได้แสดงว่าไม่มีความสามารถที่จะควบคุมกองกำลังได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นี่ยังไงล่ะค่ะ ที่จะเรียนว่ายังไม่ถึงขั้นเจรจา เรายังไม่ได้เจรจาเลย เรายังไม่ได้คุยอะไรเลย เป็นแค่ว่าทาง สมช.เขาไปพูดคุยอยู่ ถ้าเป็นการเจรจาอย่างไรนั้นก็ต้องเป็นกรอบของ สมช.ที่จะเห็นชอบ
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการอุ้มฆ่าพลทหามะอาลี โดยยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มที่ยังต้องการใช้ความรุนแรง ซึ่งต้องแยกออกจากการพูดคุยสร้างสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะปัญหาภาคใต้มีหลายมิติ ทั้งกลุ่มค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน แต่กลุ่มบีอาร์เอ็นถือว่าเป็นนกลุ่มใหญ่ที่สุด และต้องให้เวลาในการแก้ปัญหา เพราะถือเป็นภาระของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่รับปากจะไปพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ