ASTVผู้จัดการรายวัน-มติกองทัพยันไม่รับ 5 ข้อเสนอ “บีอาร์เอ็น” หวั่นยกระดับโจร โยน สมช.หาแนวทางคุยต่อ “บิ๊กโอ๋”ฮึ่ม ไม่ยอมปล่อยตัวโจร ยันรัฐบาลต้องฟังความเห็นกองทัพ เตรียมนำข้อเสนอบอก “นายกฯ” ด้านโจรโต้ยังป่วนไม่เลิก กราดยิงชาวบ้านดับคาร้านขายของชำ 6 ราย มีเด็ก 3 ขวบรวมอยู่ด้วย
วานนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และผู้แทนของแต่ละเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมพิจารณากำหนดนโยบายแนวทางการประสานงาน และการปฏิบัติร่วมกันในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังจากที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นได้มีการยื่นข้อเสนอ 5 ข้อในการพูดคุยร่วมกัน โดยใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า มีการหารือในเรื่องความมั่นคงหลายด้าน เช่น เรื่องประสาทพระวิหาร เรื่อง 3 เกาะ จ.ระนองที่มีปัญหากันอยู่ และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเรื่องภาคใต้ได้ข้อสรุปว่า ในเรื่องการเจรจาก็ว่ากันไป แต่การปฏิบัติงานเพื่อให้ภาคใต้มีความสันติสุขต้องทำต่อไป และต้องดำเนินการให้เป็นเส้นขนานกันไป ไม่ตัดออกจากกัน
นอกจากนี้ ยังมีการประสานไปยังตำรวจเกี่ยวกับการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปในพื้นที่ และเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในภาคใต้มีความสามัคคี และมีความเข้าขากันดี แต่งานมีความซับซ้อนทั้งในส่วนความมั่นคง งานพัฒนา การอำนวยความยุติธรรมจึงอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันบ้าง และทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกัน ซึ่งต้องแก้ไขกันต่อไป โดยขอย้ำว่า เรื่องงานในภาคใต้เราจะทำอย่างเต็มที่และต้องดีขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นได้ยื่นข้อเสนอในการเจรจาสันติภาพ 5 ข้อ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เขาเสนอผ่านทางเว็บไซต์ ถือเป็นเรื่องการพูดคุย ก็พูดคุยกันไป ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลว่า ส่วนไหนรับได้ และส่วนไหนรับไม่ได้ ตนคงไม่แสดงความคิดเห็นส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเราได้แสดงออกในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องความจริงใจว่า เรามีกฎหมายมาตรา 21 อยู่ หากจะมอบตัวก็พร้อมจะให้ประกันตัวได้ ซึ่งตรงกับข้อหนึ่งที่เขาเรียกร้องมา แต่จะให้ปล่อยตัวคิดว่าเกินไป คงทำไม่ได้ เพราะบ้านเมืองเรามีขื่อมีแป ขอให้สู้กันตามกติกาที่ว่าไว้ ในส่วนข้ออื่นๆ นั้น ขอให้หน่วยงานอื่นไปพิจารณากัน ส่วนของทหารต้องติดตามและรับทราบข้อมูลว่า ผลการพูดคุยเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วทางรัฐบาล และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต้องถามทำเห็นทางกองทัพใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนจะบอกนายกรัฐมนตรีเอง แต่จะไม่บอกสื่อมวลชน ตนบอกสื่อตรงนี้ไม่ได้ เพราะการพูดคุยไม่ควรนำมาเปิดเผยทุกข้อ การพูดคุยต้องมีความลับกันบ้าง คงบอกไม่ได้ว่า กองทัพยอมรับ หรือไม่ยอมรับข้อเสนอของบีอาร์เอ็น เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของตนคนเดียว คงบอกไม่ได้ว่า ข้อนี้รับหรือไม่ไม่รับ พูดเองไม่ได้ เป็นเรื่องของหลายหน่วยงานที่ต้องมาพูดคุยกัน แต่สุดท้ายรัฐบาลต้องฟังความเห็นของกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนจะรอบอกนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมไม่ยอมรับข้อเสนอทั้ง 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะมองว่า การยอมรับข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นการยกระดับการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความสงบ และไม่เห็นด้วยที่จะให้มาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจา เพราะนโยบายรัฐบาลไม่ต้องการให้ประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซง ส่วนข้อเสนอให้องค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) เป็นผู้สังเกตการณ์การเจรจา มองว่าเป็นการให้องค์กรนานาชาติเข้ามาแทรกแซง ก็ไม่เห็นด้วย และข้อเสนอให้ปล่อยนักโทษทั้งหมด ก็ทำไม่ได้ แต่กรณีที่เป็นแนวร่วม ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา อาจพิจารณาลดโทษให้ได้ ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเตือนมาตลอดว่า การพูดคุยต้องระมัดระวัง ต้องช่วยกันหาทางแก้ ถ้าอะไรที่พวกเราพอช่วยแนะนำได้ ก็จะแนะนำตลอด โดยในการพูดคุยเจรจาในครั้งต่อไปในเดือนมิ.ย. รัฐบาลต้องระวัง ต้องเป็นเอกภาพให้มาก เพราะขณะนี้ แนวทางของฝ่ายตรงข้ามใช้เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่มากดดัน รัฐบาลต้องไม่ยอมให้ใช้วิธีนี้
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนร้ายจำนวน 4 คน เดินทางมากับรถจักรยานยนต์ 2 คัน ได้ใช้อาวุธสงครามกราดยิงประชาชนที่อยู่ภายในร้านขายของชำ เลขที่ 17/12 ม.5 ถ.พูลสวัสดิ์ ต.สะมิแล อ.เมืองปัตตานี เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตทันที 6 ศพ ในจำนวนนั้นมีเด็กอายุ 3 ขวบ รวมอยู่ด้วย 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านนั่งดื่มอยู่ข้างร้านขายของชำที่เกิดเหตุ 3 คน และอยู่ในร้านขายของชำประมาณ 4-5 คน มีคนร้ายจำนวน 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าไปในร้าน ก่อนที่จะลงมาจ่อยิงหัวซ้ำทีละคน และยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนจะขับรถหลบหนีไป บนถนนสาย 42 นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบ เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ด้วย
วานนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และผู้แทนของแต่ละเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมพิจารณากำหนดนโยบายแนวทางการประสานงาน และการปฏิบัติร่วมกันในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังจากที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นได้มีการยื่นข้อเสนอ 5 ข้อในการพูดคุยร่วมกัน โดยใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า มีการหารือในเรื่องความมั่นคงหลายด้าน เช่น เรื่องประสาทพระวิหาร เรื่อง 3 เกาะ จ.ระนองที่มีปัญหากันอยู่ และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเรื่องภาคใต้ได้ข้อสรุปว่า ในเรื่องการเจรจาก็ว่ากันไป แต่การปฏิบัติงานเพื่อให้ภาคใต้มีความสันติสุขต้องทำต่อไป และต้องดำเนินการให้เป็นเส้นขนานกันไป ไม่ตัดออกจากกัน
นอกจากนี้ ยังมีการประสานไปยังตำรวจเกี่ยวกับการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปในพื้นที่ และเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในภาคใต้มีความสามัคคี และมีความเข้าขากันดี แต่งานมีความซับซ้อนทั้งในส่วนความมั่นคง งานพัฒนา การอำนวยความยุติธรรมจึงอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันบ้าง และทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกัน ซึ่งต้องแก้ไขกันต่อไป โดยขอย้ำว่า เรื่องงานในภาคใต้เราจะทำอย่างเต็มที่และต้องดีขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นได้ยื่นข้อเสนอในการเจรจาสันติภาพ 5 ข้อ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เขาเสนอผ่านทางเว็บไซต์ ถือเป็นเรื่องการพูดคุย ก็พูดคุยกันไป ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลว่า ส่วนไหนรับได้ และส่วนไหนรับไม่ได้ ตนคงไม่แสดงความคิดเห็นส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเราได้แสดงออกในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องความจริงใจว่า เรามีกฎหมายมาตรา 21 อยู่ หากจะมอบตัวก็พร้อมจะให้ประกันตัวได้ ซึ่งตรงกับข้อหนึ่งที่เขาเรียกร้องมา แต่จะให้ปล่อยตัวคิดว่าเกินไป คงทำไม่ได้ เพราะบ้านเมืองเรามีขื่อมีแป ขอให้สู้กันตามกติกาที่ว่าไว้ ในส่วนข้ออื่นๆ นั้น ขอให้หน่วยงานอื่นไปพิจารณากัน ส่วนของทหารต้องติดตามและรับทราบข้อมูลว่า ผลการพูดคุยเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วทางรัฐบาล และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต้องถามทำเห็นทางกองทัพใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนจะบอกนายกรัฐมนตรีเอง แต่จะไม่บอกสื่อมวลชน ตนบอกสื่อตรงนี้ไม่ได้ เพราะการพูดคุยไม่ควรนำมาเปิดเผยทุกข้อ การพูดคุยต้องมีความลับกันบ้าง คงบอกไม่ได้ว่า กองทัพยอมรับ หรือไม่ยอมรับข้อเสนอของบีอาร์เอ็น เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของตนคนเดียว คงบอกไม่ได้ว่า ข้อนี้รับหรือไม่ไม่รับ พูดเองไม่ได้ เป็นเรื่องของหลายหน่วยงานที่ต้องมาพูดคุยกัน แต่สุดท้ายรัฐบาลต้องฟังความเห็นของกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนจะรอบอกนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมไม่ยอมรับข้อเสนอทั้ง 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะมองว่า การยอมรับข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นการยกระดับการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความสงบ และไม่เห็นด้วยที่จะให้มาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจา เพราะนโยบายรัฐบาลไม่ต้องการให้ประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซง ส่วนข้อเสนอให้องค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) เป็นผู้สังเกตการณ์การเจรจา มองว่าเป็นการให้องค์กรนานาชาติเข้ามาแทรกแซง ก็ไม่เห็นด้วย และข้อเสนอให้ปล่อยนักโทษทั้งหมด ก็ทำไม่ได้ แต่กรณีที่เป็นแนวร่วม ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา อาจพิจารณาลดโทษให้ได้ ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเตือนมาตลอดว่า การพูดคุยต้องระมัดระวัง ต้องช่วยกันหาทางแก้ ถ้าอะไรที่พวกเราพอช่วยแนะนำได้ ก็จะแนะนำตลอด โดยในการพูดคุยเจรจาในครั้งต่อไปในเดือนมิ.ย. รัฐบาลต้องระวัง ต้องเป็นเอกภาพให้มาก เพราะขณะนี้ แนวทางของฝ่ายตรงข้ามใช้เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่มากดดัน รัฐบาลต้องไม่ยอมให้ใช้วิธีนี้
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนร้ายจำนวน 4 คน เดินทางมากับรถจักรยานยนต์ 2 คัน ได้ใช้อาวุธสงครามกราดยิงประชาชนที่อยู่ภายในร้านขายของชำ เลขที่ 17/12 ม.5 ถ.พูลสวัสดิ์ ต.สะมิแล อ.เมืองปัตตานี เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตทันที 6 ศพ ในจำนวนนั้นมีเด็กอายุ 3 ขวบ รวมอยู่ด้วย 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านนั่งดื่มอยู่ข้างร้านขายของชำที่เกิดเหตุ 3 คน และอยู่ในร้านขายของชำประมาณ 4-5 คน มีคนร้ายจำนวน 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าไปในร้าน ก่อนที่จะลงมาจ่อยิงหัวซ้ำทีละคน และยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนจะขับรถหลบหนีไป บนถนนสาย 42 นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบ เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ด้วย
