xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกแฉ"แม้ว"หมดหวังกลับไทย "ปู-ลิ่วล้อ"เลิกเชื่อฟัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เซาธ์ไชน่ามอร์นิงโพสต์" สื่อดังของฮ่องกง ได้นำเสนอบทวิเคราะห์ของ "ฟิลิป เจ. คันนิงแฮม" นักวิจัยทางด้านสื่อสารมวลชนและนักเขียนอิสระ ในหัวข้อ "ทักษิณพูดมากก็จริง แต่มีใครฟังบ้างหรือเปล่า?" ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีใจความว่า
การเมืองไทยไม่เคยลดความน่าตื่นเต้นลงไป ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังมีปัญหาในกรณีรายงานทรัพย์สินที่บกพร่อง ซึ่งทำให้ตำแหน่งนายกฯ ของเธออยู่ในอันตราย แต่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของเธอ ก็ได้รับการวางตัวไว้ทดแทนแล้ว
"การจัดการควบคุมน้องสาวทั้งสองในฐานะตัวแทนทางการเมือง เป็นเหมือนเชือกที่ถูกดึงเพื่อทิ่มแทงประเทศไทย ที่มีการบริหารแปลกประหลาด และน่าละอายอย่างที่สุดที่ได้อนุญาตให้ความเป็นผู้นำของประเทศถูก 'ไฮแจ็ก' ไปโดยคนไม่ปกติ ร่ำรวย และทะเยอทยาน ผู้เนรเทศ ตัวเองอยู่ในดูไบ"
ผู้ลี้ภัยจากศาลยุติธรรม 'ทักษิณ ชินวัตร' โทรศัพท์กลับมายังประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ชี้ช่องเกมในสภา จนฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์ว่า บิดเบือนกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง
"แม้ว่าไหวพริบทางด้านการทำธุรกิจ ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐี แต่ทักษิณ ยังมีประวัติหมกมุ่นกับตัวเองอย่างเซ่อซ่า และนิยมใช้ความแตกแยกของประชาชน เพื่ออำนวยให้กับเป้าหมายของตัวเอง"
"เซาธ์ไชน่ามอร์นิงโพสต์" รายงานอีกว่า ทักษิณโทรศัพท์เข้าไปยังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างการชุมนุมรำลึกเหตุการณ์นองเลือดในเดือนพ.ค. 2553 ว่ามวลชนไม่ต้องอาลัยเขาอีกต่อไป เพราะกำลังจะได้กลับบ้านแล้ว แต่กระทั่งสิ้นปี เขาก็ไม่ได้กลับดังที่วาดหวังไว้เนื่องจากแผนการนิรโทษกรรม ได้รับการคัดค้านและถูกระงับยับยั้งไว้ ทำให้ทักษิณอยู่ในภาวะขุ่นเคืองสุดขีด
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ เองกลับปรากฏว่า ได้รับความนิยมมากกว่าทักษิณเสียอีก ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสคริปต์ เมื่อตอนที่ทักษิณตั้งเธอขึ้นสู่อำนาจ และสิ่งที่เห็นมากขึ้นเรื่อยๆก็คือเมื่อทักษิณพูด ไม่มีใครฟังอีกแล้ว การโฆษณาชวนเชื่อโดยการสไกป์แผนนิรโทษกรรม ได้หายไปกับสายลม และได้รับความสนใจเพียงเล็กน้อยจากสังคม โดยผลโพลระบุว่า มีคนเห็นด้วยเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทักษิณได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ บริเวณพื้นที่ชายแดนที่ติดกับไทย ทำตัวเหมือนว่าเป็นทูตของรัฐบาลไทย แต่การกล่าวอ้างของเขา ก็ไม่ได้ดีไปกว่าการปกครองผ่านตัวน้องสาวหุ่นเชิด ที่ในช่วงหลังเธอได้แสดงออกถึงความเป็นอิสระจากพี่ชายมากขึ้นทุกที
"ในการโทรศัพท์ครั้งล่าสุดด้วยอาการหมองเศร้า และหมดความอดทนเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายนิรโทษกรรมที่ถูกดอง บ่งบอกถึงความเจ็บปวดของเขาได้เป็นอย่างดี แต่เขาก็กำลังมองหาหนทางใหม่ที่จะยกมือขึ้น เรียกร้องความสนใจจากประชาชน และโปรโมตวาระส่วนตัวของเขาต่อไป" รายงานระบุ

**"นพเหล่"ตอบโต้แทนนาย

หลังจากบทวิเคราะห์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ออกมาชี้แจง ตอบโต้ บทความของนายฟิลิป คันนิงแฮม ว่า น่าเสียดายที่บทความชิ้นนี้ มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และมีอคติ และไม่เสนอความเห็นอย่างครบถ้วน ทั้งๆที่นายคันนิ่งแฮม อ้างตัวเองเป็นนักวิจัยด้านสื่อสารมวลชน น่าจะมีข้อมูลที่ถูกต้องกว่านี้ ตนจึงได้เขียนจดหมายเปิดผนึก ถึงนายคันนิ่งแฮม และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว โดยตอบคำถามที่เป็นชื่อของบทความสั้นๆว่า คนไทยหลายสิบล้านยังฟังพ.ต.ท.ทักษิณ และผลการเลือกตั้งในปี 2554 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด ก็เป็นเพราะนโยบายที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนคิด ประชาชนฟังนโยบาย และสนับสนุนพรรคเพื่อไทย จึงเลือกน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

** อ้าง"ปู-คนไทย"ยังเชื่อฟังแม้ว

นอกจากนั้น บทความของนายคันนิ่งแฮม ยังบอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีปัญหาเรื่องการชี้แจงทรัพย์สิน จึงมีการเตรียมให้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มาเป็นนายกฯสำรอง ก็ไม่เป็นความจริงเลย เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ครบถ้วน และสาเหตุที่ นางเยาภาลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็เพื่อรับใช้บ้านเกิด เพราะเคยเป็นส.ส. ที่นั่น ก่อนถูกตัดสิทธิ์การเลือกตั้งอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อครั้งยุบพรรคไทยรักไทย หลังการรัฐประหารยึดอำนาจ ดังนั้นจึงไม่มีการชักใย หรือการเตรียมการเปลี่ยนแปลงผู้นำใดๆ ตามที่บทความกล่าวหาอย่างผิดๆ
ที่แปลกใจก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ นสพ.นิวยอร์กไทมส์ บอกว่า ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 2 คน โดยนายกฯ ตัวจริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่วันนี้บทความของนายคันนิ่งแฮม กลับบอกว่า ตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอิสระจากพ.ต.ท.ทักษิณ และพ.ต.ท.ทักษิณ พูดมีคนฟังน้อยลง ซึ่งคนเขียนสองบทความนี้ คงจะรู้จักประเทศไทยน้อยเกินไป และมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งความจริงก็คือนายกรัฐมนตรีไทย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นพี่ชาย ก็สนับสนุน และให้กำลังใจในการทำงานแก่น้องสาว และแก่พรรคเพื่อไทย มาอย่างต่อเนื่อง
นายนพดลกล่าวด้วยว่า ตนได้เขียนในจดหมายเปิดผนึกชี้แจงไปด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นที่รัก และนับถือของคนเป็นจำนวนหลายล้านในประเทศไทย และปัจจุบันยังได้รับเชิญให้ไปบรรยาย และปาฐกถาในเวทีสำคัญทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา และได้รับเชิญจากนายกฯ และประธานาธิบดีหลายประเทศทั่วโลก ให้ไปพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะฉะนั้นขณะนี้เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ พูด จึงมีคนจำนวนมากฟัง นี่คือคำตอบที่นายฟิลิป ควรจะทราบ และนายฟิลิป เป็นขาประจำที่เขียนบทความโจมตี พ.ต.ท. ทักษิณ มาหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่บทความเต็มไปด้วยความจริงครึ่งเดียว และอคติ
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มแดงอุดรฯ ออกมาเร่งให้มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐมนตรีกลับมาประเทศนั้น ตนเห็นว่า นายขวัญชัย คงไม่ได้หมายความว่า จะเร่งออก พ.ร.บ.เพื่อจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา แต่เป็นเพียงกิจกรรมกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น