ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์"ปรี๊ดแตก! เฉ่ง“จารุพงศ์”ให้ข่าวสื่อมะกัน “ไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง ไม่ได้ๆ” “ไทยมีนายกฯ 2 คน-แม้ว สไกป์ครม.” พูดไปได้ อ้างผลโพล ประชาชนยอมรับภาวะเป็นผู้นำตัวจริง “ ขี้ข้าแม้ว” รับลูกโต้สื่อนอก สับนิวยอร์คไทม์ คลาดเคลื่อน ปชป.บี้รัฐบล็อคข้อมูลวิกิลีกส์
วานนี้(31 ม.ค.56) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นิวยอร์กไทมส์ เสนอเนื้อหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงว่า คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ได้มีการถามมาหลายครั้งแล้ว ตนก็ขอยืนยันว่าทุกครั้งเราก็ทำงานอยู่ที่ประเทศไทย และ ในฐานะ นายกฯ ก็มีคณะรัฐมนตรีที่จะทำการตัดสินใจ เมื่อถามว่า นายกฯจะลบภาพตรงนี้อย่างไร เพราะสื่อได้ถามกรณีดังกล่าวมาหลายครั้งและแต่นายกฯก็ตอบคำถามเหมือนเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การเสนอข้อมูลของสื่อไม่สามารถห้ามได้ แต่ตนอยากขอความเป็นธรรมสื่อมวลชน เพราะในแง่ของผลโพลล์ ก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนในเรื่องภาวะการเป็นผู้นำ ทั้งนี้ผลงานที่ออกมาของรัฐบาลก็เป็นตัวพิสูจน์และรัฐบาลก็ทำงานรับใช้ประชาชนมาครบ 1 ปี ก็มีผลงานอย่างต่อเนื่องและปีที่ 2 ก็เป็นปีของการพัฒนา ซึ่งความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่เราต้องทำร่วมกัน และสุดท้ายคือผลของงาน ตนมองที่ประเด็นนี้มากกว่า
เมื่อถามว่า ที่มีการระบุถึงขั้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สไกป์ มายังที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร “แล้วสื่อมวลชนเห็นมั้ยล่ะคะ ในครม. ไม่สามารถใช้แม้กระทั้งโทรศัพท์มือถือได้ ก็ต้องขอความกรุณาในการวิเคราะห์ด้วย บางครั้งอาจจะเป็นการพูดลอยลอยรึเปล่า หรืออย่างไรก็ตาม ตนก็ขอยืนยันอย่างนี้” เมื่อถามอีกว่า น้อยใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ให้ความเป็นธรรมกับตน เพราะตนมีความตั้งใจที่จะทำงานตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมาแทบไม่ได้หยุดเลย ผลงานก็เห็นอยู่สิ่งที่อยากได้ก็คือกำลังใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนทีอ้างคำพูดของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า” ประเทศไทยเหมือนมีนายกฯ 2 คน คนหนึ่งอยู่ในประเทศ และอีกคนหนึ่งอยู่นอกประเทศ”นั้น
ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานการจัดงานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2555 และแถลงแผนการปฏิบัติงานงานประจำปี 2556 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่ตึกสันติไมตรี ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีนี้ ได้เดินพูดคุยมานายจารุพงศ์ โดยที่นายกฯได้แสดงสีหน้าไม่พอใจหันมาพูดกับนายจารุพงศ์ว่า “ไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง ไม่ได้ๆ” ขณะที่นายจารุพงศ์มีสีหน้าที่เคร่งเครียด และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปพร้อมกับนายกฯ
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นการเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนในสาระสำคัญ เพราะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในทางกฎหมายและตามความเป็นจริงในขณะนี้ชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเวลาฝ่ายค้านอภิปรายหรือตั้งกระทู้ก็ตั้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนตอบ อย่างไรก็ตามเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องนี้ก็ได้แต่หัวเราะ เพราะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ของน้องสาวซึ่งทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีไทย สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่ได้หาเสียงไว้เกือบทุกนโยบาย นอกจากเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีบุคลิกที่อ่อนโยนจึงสามารถทำงานกับทุกฝ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งจะสามารถเป็นผู้นำในภาวะที่ประเทศต้องก้าวสู่ความปรองดองและเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตผู้นำที่มีประสบการณ์และหากมีใครต้องการคำปรึกษาก็เป็นสารานุกรมเคลื่อนที่เท่านั้นเอง
นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงปฏิเสธ โดยอ้างว่าในสังคมที่มีระบบเทคโนโลยีสื่อสาร เป็นสิ่งธรรมดาที่จะมีการติดต่อสื่อสารกัน แต่ตลอดระยะเวลาที่ผมทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ร่วมประชุมครม. ไม่เคยเห็นพ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครติดต่อเข้ามาในห้องประชุมครม. อีกทั้งในห้องประชุมครม.มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ทุกชนิด ทุกท่านทราบดีว่าการประชุมครม.เป็นความลับ ท่านนายกฯก็ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อใครได้เลย
ในส่วนของรัฐบาลคงไม่ดำเนินการอะไรกับสื่อนิวยอร์คไทม์ แต่เมื่อนำเสนอบทความคลาดเคลื่อน ก็มีจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้รับทราบ ซึ่งถ้าหากมีสื่อนิวยอร์คไทม์ประจำประเทศไทย ก็ยินดีให้พบและชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม การชื้แจงผ่านสื่อมวลชนไทยครั้งนี้ก็สามารถกระจายข่าวให้ทั่วโลกทราบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เพจชื่อดังดัง “สายตรงภาคสนาม” ลงข้อความว่า นางอานิก อัมระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. โวย ผ่านเฟซบุ๊ค รัฐบล็อคข้อมูลวิกิลีกส์ แฉ แม้วตกลงผลประโยชน์ทับซ้อนกับเขมร จวก คุกคามฝ่ายตรงข้าม จ้องละเมิดสิทธิ โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา: ความพยายามปิดบังการแบ่งผลประโยชน์ ...รัฐตำรวจ หรือเผด็จการรัฐสภา ในร่างทรงประชาธิปไตยเสียงข้างมาก?
ที่ลุกขึ้นมาค้นหาข้อมูลก็เพราะถูกพาดพิงเมื่อวันก่อนในแถลงการณ์ของกองการข่าวและปฏิกิริยาฉับพลันแห่ง"ราชอาณาจักร"กัมพูชา ป.ล. เรื่องเข้าลิงค์ที่ถูกบล็อก วันนี้มีผู้รู้สอนวิธีแล้ว แต่ถ้าทำเป็นแต่แรก ก็คงไม่เห็นฤทธิ์เดชของการปิดกั้นและการละเมิดสิทธิเสรีภาพของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นมากขนาดนี้
วานนี้(31 ม.ค.56) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นิวยอร์กไทมส์ เสนอเนื้อหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงว่า คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ได้มีการถามมาหลายครั้งแล้ว ตนก็ขอยืนยันว่าทุกครั้งเราก็ทำงานอยู่ที่ประเทศไทย และ ในฐานะ นายกฯ ก็มีคณะรัฐมนตรีที่จะทำการตัดสินใจ เมื่อถามว่า นายกฯจะลบภาพตรงนี้อย่างไร เพราะสื่อได้ถามกรณีดังกล่าวมาหลายครั้งและแต่นายกฯก็ตอบคำถามเหมือนเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การเสนอข้อมูลของสื่อไม่สามารถห้ามได้ แต่ตนอยากขอความเป็นธรรมสื่อมวลชน เพราะในแง่ของผลโพลล์ ก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนในเรื่องภาวะการเป็นผู้นำ ทั้งนี้ผลงานที่ออกมาของรัฐบาลก็เป็นตัวพิสูจน์และรัฐบาลก็ทำงานรับใช้ประชาชนมาครบ 1 ปี ก็มีผลงานอย่างต่อเนื่องและปีที่ 2 ก็เป็นปีของการพัฒนา ซึ่งความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่เราต้องทำร่วมกัน และสุดท้ายคือผลของงาน ตนมองที่ประเด็นนี้มากกว่า
เมื่อถามว่า ที่มีการระบุถึงขั้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สไกป์ มายังที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร “แล้วสื่อมวลชนเห็นมั้ยล่ะคะ ในครม. ไม่สามารถใช้แม้กระทั้งโทรศัพท์มือถือได้ ก็ต้องขอความกรุณาในการวิเคราะห์ด้วย บางครั้งอาจจะเป็นการพูดลอยลอยรึเปล่า หรืออย่างไรก็ตาม ตนก็ขอยืนยันอย่างนี้” เมื่อถามอีกว่า น้อยใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ให้ความเป็นธรรมกับตน เพราะตนมีความตั้งใจที่จะทำงานตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมาแทบไม่ได้หยุดเลย ผลงานก็เห็นอยู่สิ่งที่อยากได้ก็คือกำลังใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนทีอ้างคำพูดของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า” ประเทศไทยเหมือนมีนายกฯ 2 คน คนหนึ่งอยู่ในประเทศ และอีกคนหนึ่งอยู่นอกประเทศ”นั้น
ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานการจัดงานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2555 และแถลงแผนการปฏิบัติงานงานประจำปี 2556 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่ตึกสันติไมตรี ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีนี้ ได้เดินพูดคุยมานายจารุพงศ์ โดยที่นายกฯได้แสดงสีหน้าไม่พอใจหันมาพูดกับนายจารุพงศ์ว่า “ไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง ไม่ได้ๆ” ขณะที่นายจารุพงศ์มีสีหน้าที่เคร่งเครียด และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปพร้อมกับนายกฯ
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นการเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนในสาระสำคัญ เพราะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในทางกฎหมายและตามความเป็นจริงในขณะนี้ชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเวลาฝ่ายค้านอภิปรายหรือตั้งกระทู้ก็ตั้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนตอบ อย่างไรก็ตามเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องนี้ก็ได้แต่หัวเราะ เพราะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ของน้องสาวซึ่งทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีไทย สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่ได้หาเสียงไว้เกือบทุกนโยบาย นอกจากเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีบุคลิกที่อ่อนโยนจึงสามารถทำงานกับทุกฝ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งจะสามารถเป็นผู้นำในภาวะที่ประเทศต้องก้าวสู่ความปรองดองและเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตผู้นำที่มีประสบการณ์และหากมีใครต้องการคำปรึกษาก็เป็นสารานุกรมเคลื่อนที่เท่านั้นเอง
นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงปฏิเสธ โดยอ้างว่าในสังคมที่มีระบบเทคโนโลยีสื่อสาร เป็นสิ่งธรรมดาที่จะมีการติดต่อสื่อสารกัน แต่ตลอดระยะเวลาที่ผมทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ร่วมประชุมครม. ไม่เคยเห็นพ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครติดต่อเข้ามาในห้องประชุมครม. อีกทั้งในห้องประชุมครม.มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ทุกชนิด ทุกท่านทราบดีว่าการประชุมครม.เป็นความลับ ท่านนายกฯก็ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อใครได้เลย
ในส่วนของรัฐบาลคงไม่ดำเนินการอะไรกับสื่อนิวยอร์คไทม์ แต่เมื่อนำเสนอบทความคลาดเคลื่อน ก็มีจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้รับทราบ ซึ่งถ้าหากมีสื่อนิวยอร์คไทม์ประจำประเทศไทย ก็ยินดีให้พบและชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม การชื้แจงผ่านสื่อมวลชนไทยครั้งนี้ก็สามารถกระจายข่าวให้ทั่วโลกทราบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เพจชื่อดังดัง “สายตรงภาคสนาม” ลงข้อความว่า นางอานิก อัมระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. โวย ผ่านเฟซบุ๊ค รัฐบล็อคข้อมูลวิกิลีกส์ แฉ แม้วตกลงผลประโยชน์ทับซ้อนกับเขมร จวก คุกคามฝ่ายตรงข้าม จ้องละเมิดสิทธิ โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา: ความพยายามปิดบังการแบ่งผลประโยชน์ ...รัฐตำรวจ หรือเผด็จการรัฐสภา ในร่างทรงประชาธิปไตยเสียงข้างมาก?
ที่ลุกขึ้นมาค้นหาข้อมูลก็เพราะถูกพาดพิงเมื่อวันก่อนในแถลงการณ์ของกองการข่าวและปฏิกิริยาฉับพลันแห่ง"ราชอาณาจักร"กัมพูชา ป.ล. เรื่องเข้าลิงค์ที่ถูกบล็อก วันนี้มีผู้รู้สอนวิธีแล้ว แต่ถ้าทำเป็นแต่แรก ก็คงไม่เห็นฤทธิ์เดชของการปิดกั้นและการละเมิดสิทธิเสรีภาพของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นมากขนาดนี้
