xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” จี้รัฐเร่งกำหนดวันแถลงผลงาน ยันไม่ซักฟอกนอกเรื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ จี้รัฐเร่งกำหนดวันแถลงผลงาน เย้ยนิ่งคงกลัวโดนนำข้อมูลไปซักฟอก บอกนายกฯ บางหมายให้คนอื่นไปแทนก็ได้ หวั่นปรับ ครม.ใหม่โกงกันเป็นทีม ยันอภิปรายไม่มีนอกเรื่อง หวังประธานสภาคุมได้ เชื่อ “นช.แม้ว” เข้าพม่ามีนัยเพื่อประโยชน์ทับซ้อนในครอบครัว แนะรัฐบาลระวัง

วันนี้ (4 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการปิดสมัยประชุมสภาในเดือนนี้ สภาจะมีภารกิจหลัก 3 เรื่องที่ต้องรีบดำเนินการ คือ 1.การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน 2.การขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของสมาชิกวุฒิสภา และ 3.การแถลงผลงานครบ 1 ปีของรัฐบาล โดยสองภารกิจแรกมีการกำหนดวันเวลาชัดเจนแล้ว เหลือแต่การกำหนดวันแถลงผลงานของรัฐบาลที่ยังไม่มีความชัดเจน จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลเร่งกำหนดวันที่เพื่อดำเนินการภารกิจนี้ด้วย ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่รัฐบาลนิ่งเฉยเป็นเพราะไม่มีผลงานที่จะแถลง หรือกลัวเป็นช่องทางให้ฝ่ายค้านจะหาข้อบกพร่องเพื่อนำข้อมูลไปอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยพยายามหลีกเลี่ยง และขอให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภาได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อเป็นประโยน์แก่ชาติบ้านเมือง ไม่ควรอ้างว่านายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะสามารถมอบหมายให้คนอื่นเดินทางไปแทนได้ หรือปฏิเสธที่จะไปก็ได้ แต่ไม่ควรปฏิเสธการตรวจสอบการทำงานในระบอบรัฐสภา

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาการันตีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่าจะทำงานกันเป็นทีมเพื่อประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมือง แต่ 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงการทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะในนโยบายหลักๆ ตนจึงคิวด่า ถ้ารัฐบาลทำงานเป็นทีมเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองก็ไม่เป็นไร แค่กลัวว่าจะทำงานเป็นทีมในด้านการทุจริต ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมา มีการทำเป็นรายกระทรวง รายรัฐมนตรีก็หนักอยู่แล้ว ถ้ารวมกันเป็นทีมคงหนักหนาสาหัสกว่า 1 ปีที่ผ่านมาแน่นอน

นอกจากนี้ นายองอาจ ยังฝากไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลคณะรัฐมนตรีว่า ควรละเว้นเรื่องที่ไม่ควรปฏิบัติสามเรื่อง คือ หนึ่ง การทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเชิงนโยบาย การกินเปอร์เซ็นต์ เรียกค่าหัวคิว ตามที่มีการวิจารณ์มากในหนึ่งปีที่ผ่านมา สอง การใช้อำนาจโดยมิชอบ การลุแก่อำนาจ เพราะที่ผ่านมา มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง และสาม ควรละเว้นการใช้ระบบอุปถัมภ์ในบริหารงานบุคคล แต่ให้เน้นระบบคุณธรรม ซึ่งถ้าละเว้นสามเรื่องได้ก็สามารถบริหารประเทศไปได้ดี แต่ถ้ายังปล่อยให้ปัญหาที่ควรละเว้นดำรงอยู่ก็จะนำรัฐบาลไปสู่อันตรายในการบริหารประเทศ

ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ระบุอาจจะมีการแฉกลับฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายองอาจ กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่กังวลเรื่องจะถูกแฉกลับเพราะเรามุ่งอภิปรายการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ที่บกพร่องทุจริต ผิดกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งฝ่ายรัฐบาลทราบดีว่าเวทีไม่ใช่ไม่ใช่เวทีให้มาอภิปรายฝ่ายค้าน ตนคิดว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถกำกับดูแลได้ดี อยากให้มีการใช้เวลาในสภาให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นหน้าที่ปกติในการทำงานของฝ่ายค้าน โดยจะไม่มีการอภิปรายเรื่องอื่นนอกจากการทุจริตทำผิดกฎหมายเท่านั้น

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมายังแนวชายแดนประเทศพม่า เพื่อพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของประเทศพม่าว่า ที่ผ่านมา การเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ล้วนแต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามีความสัมพันธ์กับการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นน้องสาวได้เลย และหลายครั้งจะมีนัยสำคัญที่แสดงเห็นถึงความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ แม้จะไม่สามารถทราบชัดเจนว่า การพบปะเจรจาเป็นเรื่องอะไร แต่พ.ต.ท.ทักษิณ มักจะมีพฤติกรรมในการมีผลประโยชน์ทับซ้อนของตนเอง และครอบครัว ดังนั้น รัฐบาลไทยต้องระวังอย่างสูงที่จะไม่ให้มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น เพราะงานด้านความมั่นคงมันจะเกี่ยวข้องกับงานด้านเรื่องการเมือง โดยเฉพาะความสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์ท่าทีที่สมดุลในเวทีโลกของไทย ดังนั้น การเดินทางไปเจรจาอะไรต้องระมัดระวัง การชั่งน้ำหนักเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงต้องสมดุลกัน ไม่ใช่แค่หวังแต่ผลประโยชน์ของครอบครัว และบริวาร แต่ต้องคำนึงผลประโยน์ของชาติเป็นหลัก เพราะนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลความมั่นคง และภาพรวมก็ต้องปฏิบัติให้เกิดขึ้นด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น