ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยเตรียมเดินหน้าผลักดันโครงการเมืองแฝดรองรับการขยายตัวของเมืองและการพัฒนาการค้าการลงทุนในอนาคต รวมทั้งก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ โดยเล็งใช้พื้นที่ “สันกำแพง-แม่ออน-ดอยสะเก็ด” พร้อมจ่อรื้อฟื้นโครงการพัฒนาอื่นๆ สมัยรัฐบาล “ทักษิณ”
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในระหว่างการร่วมงานแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า รู้สึกยินดีที่ได้มารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดและจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งเคยเป็นนายอำเภอที่อำเภอสารภี และอำเภอเมืองเชียงใหม่ในช่วงปี 2545-2549 โดยรู้สึกขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่ให้โอกาส และโดยความตั้งใจส่วนตัวที่ได้มาทำงานในตำแหน่งนี้จะมุ่งทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าอยู่ มีความเจริญก้าวหน้า และทำให้ทุกคนมีความสุข
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า เวลานี้เตรียมที่จะผลักดันโครงการเมืองแฝดเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและรองรับการค้าการลงทุนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งมองว่าพื้นที่ในตัวเมืองปัจจุบันน่าจะคับแคบเกินไปและมีไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะมีการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาควิชาการร่วมกันทำการศึกษา
ทั้งนี้ เบื้องต้นมองว่าพื้นที่ที่มีความเหมาะสมสำหรับการดำเนินโครงการเมืองแฝดดังกล่าวนี้น่าจะเป็นพื้นที่ในเขตอำเภอสันกำแพง แม่ออน และดอยสะเก็ด ที่นอกจากจะพัฒนาเมืองแฝดแล้ว ยังจะรวมไปถึงการสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ด้วย ซึ่งโครงการนี้ที่จริงแล้วเป็นโครงการที่เคยมีการริเริ่มกันไว้แล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่ามีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้นเสียก่อน การดำเนินการจึงได้หยุดชะงักไป
นอกจากโครงการนี้แล้ว ยังจะมีการรื้อฟื้นโครงการพัฒนาต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ที่เคยได้ริเริ่มไว้ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เช่น โครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองเชียงใหม่ เป็นต้น
ในส่วนของการทำงานสนองนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาล นายธานินทร์กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการ โดยเฉพาะการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งตั้งใจที่จะร่วมกับทุกภาคส่วนและหน่วยงานทำให้จังหวัดเชียงใหม่ปลอดการทุจริตคอร์รัปชันก่อนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ให้ได้ พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อการปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติด การบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ได้กินดีอยู่ดีมีความสุขถ้วนหน้าอย่างเท่าเทียมกัน โดยที่ยังคงสามารถรักษาวิถีชีวิตและสิ่งดีงามดั้งเดิมไว้ได้
สำหรับปัญหา อุปสรรค และสิ่งที่เป็นห่วงในการทำงานนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าเป็นเรื่องระบบงบประมาณที่ไม่ค่อยเอื้อต่อการทำงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเท่าที่ควร เพราะต้องมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การทำงานเสนอจนได้รับการอนุมัติเสียก่อน แต่กว่าจะได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อนำมาใช้ทำงานจริงต้องรอนานเป็นปี ดังนั้น เห็นว่าในบางครั้งหากเชียงใหม่จะทำอะไรคงจะต้องมีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณพิเศษเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างทันท่วงทีและคล่องตัว
รายงานข่าวระบุว่า ในระหว่างการแถลงข่าวดังกล่าวนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้กล่าวด้วยว่า อำเภอสันกำแพงถือเป็นพื้นที่พิเศษของจังหวัดเชียงใหม่ มีชื่อเสียงและเจริญมาตั้งแต่อดีต ทั้งการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งวัฒนธรรมประเพณี ศิลปะ ภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่า นอกจากนี้ยังเป็นเพียงอำเภอแห่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีไทย 2 คน และภรรยาของนายกรัฐมนตรีไทยอีก 1 คนด้วย
