ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ธานินทร์” เริ่มงานในฐานะพ่อเมืองเชียงใหม่คนใหม่แล้ว ประกาศลั่นต้องไม่มีทุจริตคอร์รัปชัน เหตุนักลงทุนกลัวต้องจ่ายใต้โต๊ะ เตรียมจับหน่วยงานเซ็นเอ็มโอยูต้านโกงพร้อมประเมินผล ชี้ไทยเข้าสู่เออีซีเป็นโอกาสที่เชียงใหม่จะเป็นศูนย์กลางภูมิภาคต้องเร่งสร้างความพร้อม เล็งหนุนคนเชียงใหม่ทุกภาคส่วนศึกษาภาษาอาเซียน กับแนะนักธุรกิจสร้างความร่วมมือในภูมิภาคกระตุ้นการค้าการลงทุน พร้อมย้ำทำงานเต็มที่ไม่ให้คนเชียงใหม่ต้องเป็นทุกข์
วันนี้ (8 ต.ค.) นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะ เดินทางมายังอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าปฏิบัติภารกิจในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นวันแรก หลังจากเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา
ภายหลังเดินทางมาถึง นายธานินทร์ พร้อมด้วยภรรยาและบุตรชายได้เข้าร่วมพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลตามธรรมเนียมศาสนาพราหมณ์ ณ บริเวณดาดฟ้าชั้น 3 ด้านหลังห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหัวหน้าส่วนราชการจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม
หลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา นายธานินทร์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนใหม่ในวันแรกว่า เรื่องที่ตนให้ความสำคัญมากอย่างหนึ่งในการเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ก็คือ จะผลักดันให้ จ.เชียงใหม่มีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของ จ.เชียงใหม่ถือว่าอยู่ในจุดศูนย์กลางที่จะสามารถเชื่อมต่อไปยังจีนตอนใต้และประเทศอื่นๆ ได้
ประกอบกับในอีก 2 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ จ.เชียงใหม่จะต้องสร้างความพร้อมให้ตัวเองในการก้าวเข้าสู่เออีซี
สิ่งที่ตนเห็นว่าสำคัญมากในเรื่องนี้มีอยู่ 2 ข้อ ได้แก่ 1. คนเชียงใหม่จะต้องรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาของอาเซียน เพื่อให้สามารถสื่อสารกับเพื่อนบ้านได้ ซึ่งจะเน้นในทุกภาคส่วน ทั้งราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน และประชาชน โดยอาศัยความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาต่างๆ
2. จะต้องสร้างโอกาสในการพบปะกันของนักธุรกิจและนักลงทุนในภูมิภาค เพื่อกระตุ้นให้เกิดการค้าการลงทุนและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากในอนาคตจะมีการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงต่างๆ ทั้งทางถนนและทางรถไฟ ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้คนจากประเทศต่างๆ เข้าหากัน
ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างโอกาสให้พ่อค้า นักลงทุนของเชียงใหม่ได้พบปะ รู้จัก และเห็นสภาพความเป็นอยู่ของประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการหาลู่ทางในการทำธุรกิจและพัฒนาในด้านต่างๆ ร่วมกัน
นายธานินทร์กล่าวต่อไปว่า ตนคิดว่าช่วงเวลาในปัจจุบันถือเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่เชียงใหม่จะมีโอกาสพัฒนาให้เติบโตขึ้นได้อีกจากการเข้าสู่เออีซี ดังนั้น สิ่งที่เชียงใหม่จะต้องเตรียมตัวเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่คือการกำหนดยุทธศาสตร์ของจังหวัดให้ชัดเจน ทั้งการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรให้ก้าวจากการเป็นสินค้าต้นน้ำไปสู่การผลิตเป็นสินค้ากลางน้ำและปลายน้ำเพื่อเพิ่มมูลค่า การกำหนดพื้นที่พิเศษเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวและการลงทุน การผลักดันให้รัฐบาลดำเนินโครงการที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของจังหวัดและสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของเพื่อนบ้านอย่างการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟหรือรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น ซึ่งการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนจะช่วยให้เชียงใหม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าและอยู่ร่วมกับเออีซีได้ด้วยดี
ขณะเดียวกัน นายธานินทร์ระบุด้วยว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันดูแลคือเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน โดยจากประสบการณ์ของตนที่ได้พบปะนักธุรกิจ นักลงทุนจากหลายๆ ชาติเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายนั้น ทำให้ได้ทราบว่านักลงทุนสนใจและอยากที่จะเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ยังไม่เข้ามาอย่างเต็มที่ก็คือความกลัวว่าจะต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่คนเหล่านี้วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก ตนเห็นว่าจะต้องดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวด โดยจะปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน กินหัวคิวหรือคิดเปอร์เซ็นต์จากงานของทางราชการต่างๆ ไม่ได้ หากจะมีการดำเนินการใดๆ ก็ตามจะต้องมีการประกาศข้อมูลและตัวเลขต่างๆ อย่างโปร่งใสชัดเจน เพราะการปล่อยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันขึ้นนั้นจะเป็นการทำลายโอกาสที่นักลงทุนจะเลือกเข้ามาลงทุนที่ จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ตนมีแนวคิดที่จะดึงเอาหน่วยงานต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่มาร่วมทำบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ร่วมกับจังหวัดในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยหลังจากลงนามในเอ็มโอยูแล้วจะมีการกำหนดระยะเวลาให้แต่ละหน่วยงานได้รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานและทำการประเมินผล ขณะเดียวกัน ก็จะใช้กลไกของศูนย์ดำรงธรรมในการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตจากประชาชนที่มีข้อมูลหรือทราบเบาะแสด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกยินดีและประทับใจมากที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวเชียงใหม่ในการเดินทางมารับตำแหน่งในครั้งนี้ ทำให้ตนมีกำลังใจอย่างมากในการทำงานต่อจากนี้ไป โดยในฐานะชาวเชียงใหม่ ขอยืนยันว่าจะประสานงานร่วมกันกับทุกฝ่ายเพื่อร่วมกันพัฒนา จ.เชียงใหม่ให้เจริญก้าวหน้า และทำให้ชาวเชียงใหม่มีความสุข โดยจะไม่ทำสิ่งใดก็ตามที่จะส่งผลให้ชาวเชียงใหม่เกิดความทุกข์ขึ้นอย่างแน่นอน