พ.ร.บ.การกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการลงมติของสภาฯ ไปแล้ว ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราก็รอผ่านฉลุยอีก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกำลังรอคิวเข้าพิจารณา และคงไม่มีใครขวางได้
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชั่วโมงนี้ อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจนึก อยากให้กฎหมายสำคัญทั้ง 3 ฉบับขับเคลื่อนออกมา กระดิกนิ้วสั่ง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็จัดให้อย่างทันอกทันใจ
กฎหมายทั้ง 3 ฉบับ จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีทั้งทุน มีทั้งอำนาจ และสามารถตัดเสี้ยนหนามที่ขวางหูขวางตาระบอบทักษิณออกไปด้วย โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่จะลิดรอนสิทธิของประชาชนในการปกป้องรัฐธรรมนูญ
ไม่มีเหตุผลใดเลยที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 โดยจำกัดสิทธิประชาชนที่ต้องการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ให้ยื่นคำร้องต่ออัยการเท่านั้น ไม่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเหมือนปัจจุบัน
ทำไมต้องกำหนดให้ยื่นคำร้องต่ออัยการนั้น ทุกคนรู้คำตอบดี
การทำหน้าที่ของอัยการ สังคมไม่เหลือข้อตำหนิใดๆ แล้ว เพราะอัยการไม่ทำตัวให้สมกับเป็นทนายแผ่นดิน แต่แสดงตนเหมืนกับทนายรับใช้ระบอบทักษิณ
การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นการจงใจที่จะลดบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ลิดรอนสิทธิของประชาชน ปิดกั้นช่องทางในการป้องกันไม่ให้นักการเมืองสามานย์ทำลายรัฐธรรมนูญ
เพราะเมื่อแก้มาตรา 68 แล้ว เกิดมีปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญ จะเหลือเพียงช่องทางเดียวที่จะร้องให้เกิดการพิจารณาตีความได้ โดยยื่นเรื่องให้อัยการเท่านั้น
แต่กี่เรื่องแล้วเกี่ยวกับคดีแกนนำเสื้อแดง กี่เรื่องแล้วเกี่ยวกับคดีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกี่เรื่องแล้วเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยที่อัยการดองเรื่องเงียบหาย กี่คดีแล้วที่สั่งไม่ฟ้อง กี่กรณีแล้วที่อ้างว่า เป็นดุลพินิจที่จะพิจารณาเป็นคุณต่อระบอบทักษิณ
อัยการคงไม่รู้สึกระอายที่ได้รับเกียรติจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้รับความไว้วางใจให้เป็นหน่วยงานเดียวที่จะสกัดกั้นคำร้องเกี่ยวกับปัญหารัฐธรรมนูญ แต่ประชาชนอายแทน
เพราะการยกให้อัยการเป็นเพียงหน่วยงานเดียวที่รับคำร้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ สะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจว่า สามารถสั่งให้อัยการซ้ายหันขวาหันได้ และอัยการเป็นลูกไล่เต็มตัวแล้ว
ภายในเดือนเมษายนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณคงกำหดเวลาไว้แล้ว กฎหมายสำคัญทั้ง 3 ฉบับต้องผ่านสภาฯ และถ้าผ่านตามเป้าหมาย บันได 3 ขั้นแรกจะบรรลุเป้าหมาย
พรรคเพื่อไทยจะมีทุนมหาศาลจากกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งคอยถ่วงดุลรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะแปรสภาพไปเป็นเพียงเสื้อกระดาษ และลูกสมุนคนเสื้อแดงจะได้ล้างมลทิน และเป็นจุดเริ่มต้นสู่การล้างมลทินเสื้อแดงตัวพ่อ หรือพ.ต.ท.ทักษิณในอนาคตอันใกล้
ดูเหมือนจะไม่มีใครขวางพ.ต.ท.ทักษิณได้แล้ว จนดูเหมือนว่า นับจากนี้ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณต้องการอะไร จะต้องได้ตามใจต้องการ
ต้องการให้ข้าราชการเป็นขี้ข้ารับใช้ ข้าราชการขี้ข้าก็มีเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องการกู้เงินมาปล้นเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กลุ่มตัวเอง ก็ทำสำเร็จแล้ว ต้องการขจัดเสี้ยนหนามที่ขวางหูขวางตาตัวเอง ก็ใกล้สมความปรารถนา ต้องการล้างผิดให้คนเผาบ้านเผาเมือง รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็เตรียมสนองบัญชา
นี่กำลังจัดให้น้องสาวอีกคนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงสั่งได้อีก
ประเทศนี้แทบจะตกอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของพ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว จะเหยียบย่ำตรงไหนก็ได้ จะทำอะไรดูง่ายไปหมด ไม่พอใจหน่วยงานไหนก็ทำลายทิ้ง กฎหมายฉบับใดไม่ถูกใจ ก็สั่งฉีกทิ้ง
แม้ยังไม่ได้กลับเมืองไทย แต่พ.ต.ท.ทักษิณ บงการได้ทุกอย่างแล้ว ถ้าได้กลับเมืองไทย คิดว่าอาจจะล้นฟ้าขนาดไหน และเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณวางแผนไว้แล้ว อีกไม่นานจะต้องกลับบ้าน
กลับมาหลังจากน้องสาวฟอกทุกอย่างให้แล้ว กลับมาโดยกฎหมายทุกฉบับถูกแก้ไข จนพ.ต.ท.ทักษิณไม่ต้องติดคุกแล้ว และกลับมาเพื่อเป็นใหญ่ในทันที เมื่ออำนาจของระบอบทักษิณแทรกซึมทุกภาคส่วนในสังคมไทยหมดเกลี้ยงแล้ว
ไม่ต้องจินตนาการว่า วันที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยจะมีสภาพเป็นอย่างไร เพราะขนาดยังไม่กลับ ประเทศก็ตกอยู่ในสภาพฟอนแฟะเต็มที
ระบบคุณธรรมความดีงามถูกทำลายล้างอย่างย่อยยับ ระบบข้าราชการเหลวแหลก ประกาศตัวเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณอย่างเปิดเผย นักการเมืองต่ำทรามเต็มประเทศ
อำนาจรัฐ ถูกกำกับด้วยคนเพียงตระกูลเดียว
ขณะที่ฐานอำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณแผ่ขยาย ประเทศกำลังย่อยยับ และยิ่งปล่อยให้อำนาจของ “ทักษิณ” เติบใหญ่ ประเทศยิ่งวอดวาย
เพราะ “ทักษิณ” บริวารว่านเครือและบรรดาลูกสมุนไม่หยุดทำลายชาติอยู่แค่นี้แน่
คำถามคือ ใครจะหยุดหายนะจากน้ำมือของ “ทักษิณ” ได้เท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชั่วโมงนี้ อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจนึก อยากให้กฎหมายสำคัญทั้ง 3 ฉบับขับเคลื่อนออกมา กระดิกนิ้วสั่ง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็จัดให้อย่างทันอกทันใจ
กฎหมายทั้ง 3 ฉบับ จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีทั้งทุน มีทั้งอำนาจ และสามารถตัดเสี้ยนหนามที่ขวางหูขวางตาระบอบทักษิณออกไปด้วย โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่จะลิดรอนสิทธิของประชาชนในการปกป้องรัฐธรรมนูญ
ไม่มีเหตุผลใดเลยที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 โดยจำกัดสิทธิประชาชนที่ต้องการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ให้ยื่นคำร้องต่ออัยการเท่านั้น ไม่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเหมือนปัจจุบัน
ทำไมต้องกำหนดให้ยื่นคำร้องต่ออัยการนั้น ทุกคนรู้คำตอบดี
การทำหน้าที่ของอัยการ สังคมไม่เหลือข้อตำหนิใดๆ แล้ว เพราะอัยการไม่ทำตัวให้สมกับเป็นทนายแผ่นดิน แต่แสดงตนเหมืนกับทนายรับใช้ระบอบทักษิณ
การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นการจงใจที่จะลดบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ลิดรอนสิทธิของประชาชน ปิดกั้นช่องทางในการป้องกันไม่ให้นักการเมืองสามานย์ทำลายรัฐธรรมนูญ
เพราะเมื่อแก้มาตรา 68 แล้ว เกิดมีปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญ จะเหลือเพียงช่องทางเดียวที่จะร้องให้เกิดการพิจารณาตีความได้ โดยยื่นเรื่องให้อัยการเท่านั้น
แต่กี่เรื่องแล้วเกี่ยวกับคดีแกนนำเสื้อแดง กี่เรื่องแล้วเกี่ยวกับคดีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกี่เรื่องแล้วเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยที่อัยการดองเรื่องเงียบหาย กี่คดีแล้วที่สั่งไม่ฟ้อง กี่กรณีแล้วที่อ้างว่า เป็นดุลพินิจที่จะพิจารณาเป็นคุณต่อระบอบทักษิณ
อัยการคงไม่รู้สึกระอายที่ได้รับเกียรติจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้รับความไว้วางใจให้เป็นหน่วยงานเดียวที่จะสกัดกั้นคำร้องเกี่ยวกับปัญหารัฐธรรมนูญ แต่ประชาชนอายแทน
เพราะการยกให้อัยการเป็นเพียงหน่วยงานเดียวที่รับคำร้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ สะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจว่า สามารถสั่งให้อัยการซ้ายหันขวาหันได้ และอัยการเป็นลูกไล่เต็มตัวแล้ว
ภายในเดือนเมษายนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณคงกำหดเวลาไว้แล้ว กฎหมายสำคัญทั้ง 3 ฉบับต้องผ่านสภาฯ และถ้าผ่านตามเป้าหมาย บันได 3 ขั้นแรกจะบรรลุเป้าหมาย
พรรคเพื่อไทยจะมีทุนมหาศาลจากกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งคอยถ่วงดุลรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะแปรสภาพไปเป็นเพียงเสื้อกระดาษ และลูกสมุนคนเสื้อแดงจะได้ล้างมลทิน และเป็นจุดเริ่มต้นสู่การล้างมลทินเสื้อแดงตัวพ่อ หรือพ.ต.ท.ทักษิณในอนาคตอันใกล้
ดูเหมือนจะไม่มีใครขวางพ.ต.ท.ทักษิณได้แล้ว จนดูเหมือนว่า นับจากนี้ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณต้องการอะไร จะต้องได้ตามใจต้องการ
ต้องการให้ข้าราชการเป็นขี้ข้ารับใช้ ข้าราชการขี้ข้าก็มีเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องการกู้เงินมาปล้นเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กลุ่มตัวเอง ก็ทำสำเร็จแล้ว ต้องการขจัดเสี้ยนหนามที่ขวางหูขวางตาตัวเอง ก็ใกล้สมความปรารถนา ต้องการล้างผิดให้คนเผาบ้านเผาเมือง รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็เตรียมสนองบัญชา
นี่กำลังจัดให้น้องสาวอีกคนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงสั่งได้อีก
ประเทศนี้แทบจะตกอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของพ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว จะเหยียบย่ำตรงไหนก็ได้ จะทำอะไรดูง่ายไปหมด ไม่พอใจหน่วยงานไหนก็ทำลายทิ้ง กฎหมายฉบับใดไม่ถูกใจ ก็สั่งฉีกทิ้ง
แม้ยังไม่ได้กลับเมืองไทย แต่พ.ต.ท.ทักษิณ บงการได้ทุกอย่างแล้ว ถ้าได้กลับเมืองไทย คิดว่าอาจจะล้นฟ้าขนาดไหน และเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณวางแผนไว้แล้ว อีกไม่นานจะต้องกลับบ้าน
กลับมาหลังจากน้องสาวฟอกทุกอย่างให้แล้ว กลับมาโดยกฎหมายทุกฉบับถูกแก้ไข จนพ.ต.ท.ทักษิณไม่ต้องติดคุกแล้ว และกลับมาเพื่อเป็นใหญ่ในทันที เมื่ออำนาจของระบอบทักษิณแทรกซึมทุกภาคส่วนในสังคมไทยหมดเกลี้ยงแล้ว
ไม่ต้องจินตนาการว่า วันที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยจะมีสภาพเป็นอย่างไร เพราะขนาดยังไม่กลับ ประเทศก็ตกอยู่ในสภาพฟอนแฟะเต็มที
ระบบคุณธรรมความดีงามถูกทำลายล้างอย่างย่อยยับ ระบบข้าราชการเหลวแหลก ประกาศตัวเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณอย่างเปิดเผย นักการเมืองต่ำทรามเต็มประเทศ
อำนาจรัฐ ถูกกำกับด้วยคนเพียงตระกูลเดียว
ขณะที่ฐานอำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณแผ่ขยาย ประเทศกำลังย่อยยับ และยิ่งปล่อยให้อำนาจของ “ทักษิณ” เติบใหญ่ ประเทศยิ่งวอดวาย
เพราะ “ทักษิณ” บริวารว่านเครือและบรรดาลูกสมุนไม่หยุดทำลายชาติอยู่แค่นี้แน่
คำถามคือ ใครจะหยุดหายนะจากน้ำมือของ “ทักษิณ” ได้เท่านั้น
