วานนี้ (1 เม.ย.56) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ ผ่านทางเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ระบุกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 284 ต่อ 152 เสียง ผ่านร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ2 ล้านล้านบาท หรือพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ โดยนำรูปภาพ ที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้วาดภาพการ์ตูน ล้อเลียนคำพูด ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีที่มีการระบุว่า หากมีการใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูงในประเทศไทย ก็อาจทำให้การขนส่งผักไม่ต้องเน่าอีกต่อไป ซึ่งกลายเป็นวลีที่มีผู้คนนำมาโจมตี และเสียดสีกันอย่างมากในสังคมออนไลน์
“รูปภาพที่ผมนำมาโพสต์นี้ เป็นภาพเขียนของศิลปินที่ใช้นามว่า "Aoodda" ครับ ถือว่าหลานโอ๊คช่วยโปรโมทอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นมุมมองของ อาจุรินทร์ฯ ปธ.วิปฝ่ายค้าน ที่มีต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ในการที่จะก้าวไปสู่การแข่งขันที่เข้มข้นบนเวทีโลก ในอนาคตแล้วกันนะครับ”
คะแนนโหวต 284:152 ที่สะท้อนมุมมองของ 2พรรคใหญ่ซึ่งแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ณ เวลานี้คงยังวัดไม่ได้ว่า ความคิดของใครถูก-ผิด นะครับ ระหว่างฝ่ายนึงที่มองว่า โครงสร้างพื้นฐานเป็นเรื่องจำเป็น ที่ประเทศไทยน่าจะทำมาตั้งเป็นสิบๆปีแล้ว กับอีกฝ่ายที่มองว่าสิ้นเปลืองทำไปทำไม และออกแนวขำขันประชดประชันว่า ทำไปเพื่อขนผัก ซึ่งความจริงผักก็คือสินค้าเกษตร ของชาวบ้าน ขอให้คนไทยจำวันนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน ด้วยการโหวตไม่เห็นด้วย อีกไม่ถึง10ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นดีกัน ถ้ารถไฟความเร็วสูงไม่มีประสิทธิภาพ ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เปรียบเสมือน "รถขนผัก"จริงๆอย่างพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคเพื่อไทยคงจะต้องเสียคะแนนนิยมไปให้กับ ปชป.อย่างแน่นอน แต่ถ้าการลงทุนครั้งนี้ คุ้มค่าดังที่พรรคเพื่อไทยได้ให้คำมั่นสัญญา ไว้กับพี่น้องประชาชนแล้วละก็..... ผมว่า"พรรคเก่าแก่อาจถึงขั้นสูญพันธ์" ครับ "
**ปัดให้สัญญาลับ ผู้ว่าฯแปดริ้วหาเสียง
ร.ท.หญิง.สุณิสา เลิศภควัตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ในหลายประเด็นกรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2ล้านล้าน ว่าตามที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อ้างว่า 1โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบันได 3 ขั้น เพื่อนำไปสู่การล้างผิดใครให้กับบางคนนั้นรัฐบาลขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะโครงการนี้เป็นการลงทุนสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ เพื่อรองรับสู่เออีซี 2 การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชำระหนี้นั้น ร.ท.ญ.สุณิสากล่าวปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีมาตราการควบคุมหนี้ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นของจีดีพี จึงไม่กระทบต่อวินัยของกระทรวงการคลัง 3 การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีว่ารัฐบาลไม่มีหลักประกับว่าจีดีพีจะเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นทุกปีจากโครงการนี้จริงนั้นร.ท.ญ.สุณิสา กล่าวยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้มีการจ้างงาน 500,000 อัตรา พร้อมมีการลงทุนคู่ขนานกับภาคเอกชน จึงทำให้จีดีพีโตขึ้นจริง
ส่วน4 ที่พรรคประชาธิปัตย์กกล่าวหาว่าการใช้งบประมาณเป็นแบบเบี้ยหัวแตกนั้นร.ท.ญ.สุณิสา กล่าวยืนว่าการใช้งบประมาณต้องเป็นไปตาม 3 ยุทธศาสตร์หลักของประเทศ และใช้งบประมาณในการสร้างถนนสายหลัก ส่วนถนนสายเล็กให้ใช้งบประมาณปกติ 5 ที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ใช้งบประมาณด้วยวิธีพิเศษ นั้น รัฐบาลยืนยันว่ารัฐบาลใช้ระเบียนวิธีเดี่ยวกับสำนักนายกรัฐมนตรีในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมกันนี้ยังได้มาตราการควบคุมให้ชัดเจนมากขึ้นและต้องเปิดเผยราคากลางต่อสาธารณะ ซึ่งรัดกุ่มกว่าการใช้งบประมาณของโครงการไทยแข็มแข็ง
ส่วนกรณีกระแสข่าวที่มีกลุ่มคนบางคนที่ไม่เห็นด้วยจะไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญรัฐบาล นั้น ตนถือว่าเป็นสิทธิของคนนนั้น แต่ให้คำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศ ทั้งนี้สำนักโพลล์ก็ยังออกมาระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการโครงการนี้เพื่อให้เทศมีความเจริญมากขึ้น
สำหรับกรณีที่อ้างว่า การประชุมครม.สัญจรที่จ.ฉะเชิงเทราที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ และได้สัญญากับ ผู้ว่าปราจีนบุรีว่าจะนำเงินในโครงการเงินกู้ 2ล้านมาให้ จ.ปราจีนบุรีเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อเป็นการหาเสียงนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งนายกฯได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของแต่ละจังหวัด พร้อมคิดยุทธศาสาตร์ในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์จังหวัดอย่างไรให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศ และได้ให้ธ์นายชัชชาติ สิทธิพันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่คุยกับผู้ว่าฯ ในจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้นักลงทุนที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ มีความเชื่อมั่นกับโครงการของรัฐบาล และยังเป็นการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับเอกชนอีกด้วย
**"ชัชชาติ"ยันกู้ 2 ล้านล้านไม่ซ้ำซ้อน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงคมนาคมยืนยันว่าโครงการที่อยู่ในแผนกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท บาท ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่ดำเนินงานตามงบประมาณประจำ 2556 โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ แต่ที่ต้องขอใช้เงินกู้เนื่องจากกระทรวงการคลังเสนอให้เปลี่ยนวิธีการกู้เงินงวดสุดท้ายวงเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นกู้เงินภายในประเทศแทนกู้เงินจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้า เพราะต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ที่งบประมาณเพิ่มขึ้นจาก 2 หมื่นล้านบาท เป็น 5 หมื่นล้านบาทนั้น เนื่องจากขยายแนวเส้นทางออกไปอีก 7 กม. คือจากสะพานใหม่-คูคต รวมทั้งมีการปรับราคาให้สะท้อนต้นทุนในปัจจุบัน จากราคาเดิมที่คิดไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าเวนคืนเพิ่มขึ้นเป็น 7.6 พันล้านบาท จากเดิม 2.3 พันล้านบาท นอกจากนั้น กรอบวงเงินเดิมยังไม่รวมการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าวงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการตามพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่มีการโยกงบประมาณไปดำเนินโครงการอื่นนอกเหนือจากโครงการที่ระบุในบัญชีแนบท้าย โดยขณะนี้จะอยู่ระหว่างการแปรญัญติ ซึ่งอาจมีการยกเลิกบางโครงการได้ตามความเหมาะสม ส่วนโครงการใดที่ดำเนินการแล้วพบว่าไม่ผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก็จะไม่กู้เงิน หรือบางโครงการที่เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบของ PPP ก็จะไม่กู้เงินในส่วนนั้น และการประกวดราคาจะเน้นวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีอ็อคชั่น แต่บางโครงการเช่นโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาประกวดราคาด้วยวิธีประกวดราคาแบบนานาชาติ ก็คงดำเนินการต่อไป
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่อภิปรายกันมากถึงเส้นทางไปภาคเหนือยาวถึงเชียงใหม่ ขณะที่เส้นทางไปยังภาคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แผนมีถึงหนองคาย แต่ของบก่อสร้างแค่นครราชสีมา ขณะที่ภาคใต้แผนมีถึงปาดังเบซาร์ แต่ของบก่อสร้างแค่หัวหินนั้น จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าปริมาณผู้โดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มีเป็นจำนวนมาก
**มาร์คชี้ช่องยื่นตีความ กม.2ล้านล.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าร่างพ.ร.บ.นี้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของสภาไปแล้ว ก็ต้องเข้าที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสภาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน หากมีการต่ออายุการพิจารณาก็จะเป็น 60 วัน และถ้าวุฒิสภามีการแก้ไข ก็ต้องกลับมาที่สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ
"ทีนี้ระหว่างที่สภาเห็นชอบกับการดำเนินการที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ นั้นจะเป็นช่วงที่ถ้ามีสมาชิกเห็นว่ากฎหมายฉบับใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ ถ้าศาลรับไว้ก็จะต้องระงับการนำขึ้นทูลเกล้าฯไว้ก่อน"นายอภิสิทธิ์กล่าว
“รูปภาพที่ผมนำมาโพสต์นี้ เป็นภาพเขียนของศิลปินที่ใช้นามว่า "Aoodda" ครับ ถือว่าหลานโอ๊คช่วยโปรโมทอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นมุมมองของ อาจุรินทร์ฯ ปธ.วิปฝ่ายค้าน ที่มีต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ในการที่จะก้าวไปสู่การแข่งขันที่เข้มข้นบนเวทีโลก ในอนาคตแล้วกันนะครับ”
คะแนนโหวต 284:152 ที่สะท้อนมุมมองของ 2พรรคใหญ่ซึ่งแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ณ เวลานี้คงยังวัดไม่ได้ว่า ความคิดของใครถูก-ผิด นะครับ ระหว่างฝ่ายนึงที่มองว่า โครงสร้างพื้นฐานเป็นเรื่องจำเป็น ที่ประเทศไทยน่าจะทำมาตั้งเป็นสิบๆปีแล้ว กับอีกฝ่ายที่มองว่าสิ้นเปลืองทำไปทำไม และออกแนวขำขันประชดประชันว่า ทำไปเพื่อขนผัก ซึ่งความจริงผักก็คือสินค้าเกษตร ของชาวบ้าน ขอให้คนไทยจำวันนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน ด้วยการโหวตไม่เห็นด้วย อีกไม่ถึง10ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นดีกัน ถ้ารถไฟความเร็วสูงไม่มีประสิทธิภาพ ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เปรียบเสมือน "รถขนผัก"จริงๆอย่างพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคเพื่อไทยคงจะต้องเสียคะแนนนิยมไปให้กับ ปชป.อย่างแน่นอน แต่ถ้าการลงทุนครั้งนี้ คุ้มค่าดังที่พรรคเพื่อไทยได้ให้คำมั่นสัญญา ไว้กับพี่น้องประชาชนแล้วละก็..... ผมว่า"พรรคเก่าแก่อาจถึงขั้นสูญพันธ์" ครับ "
**ปัดให้สัญญาลับ ผู้ว่าฯแปดริ้วหาเสียง
ร.ท.หญิง.สุณิสา เลิศภควัตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ในหลายประเด็นกรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2ล้านล้าน ว่าตามที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อ้างว่า 1โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบันได 3 ขั้น เพื่อนำไปสู่การล้างผิดใครให้กับบางคนนั้นรัฐบาลขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะโครงการนี้เป็นการลงทุนสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ เพื่อรองรับสู่เออีซี 2 การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชำระหนี้นั้น ร.ท.ญ.สุณิสากล่าวปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีมาตราการควบคุมหนี้ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นของจีดีพี จึงไม่กระทบต่อวินัยของกระทรวงการคลัง 3 การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีว่ารัฐบาลไม่มีหลักประกับว่าจีดีพีจะเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นทุกปีจากโครงการนี้จริงนั้นร.ท.ญ.สุณิสา กล่าวยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้มีการจ้างงาน 500,000 อัตรา พร้อมมีการลงทุนคู่ขนานกับภาคเอกชน จึงทำให้จีดีพีโตขึ้นจริง
ส่วน4 ที่พรรคประชาธิปัตย์กกล่าวหาว่าการใช้งบประมาณเป็นแบบเบี้ยหัวแตกนั้นร.ท.ญ.สุณิสา กล่าวยืนว่าการใช้งบประมาณต้องเป็นไปตาม 3 ยุทธศาสตร์หลักของประเทศ และใช้งบประมาณในการสร้างถนนสายหลัก ส่วนถนนสายเล็กให้ใช้งบประมาณปกติ 5 ที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ใช้งบประมาณด้วยวิธีพิเศษ นั้น รัฐบาลยืนยันว่ารัฐบาลใช้ระเบียนวิธีเดี่ยวกับสำนักนายกรัฐมนตรีในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมกันนี้ยังได้มาตราการควบคุมให้ชัดเจนมากขึ้นและต้องเปิดเผยราคากลางต่อสาธารณะ ซึ่งรัดกุ่มกว่าการใช้งบประมาณของโครงการไทยแข็มแข็ง
ส่วนกรณีกระแสข่าวที่มีกลุ่มคนบางคนที่ไม่เห็นด้วยจะไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญรัฐบาล นั้น ตนถือว่าเป็นสิทธิของคนนนั้น แต่ให้คำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศ ทั้งนี้สำนักโพลล์ก็ยังออกมาระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการโครงการนี้เพื่อให้เทศมีความเจริญมากขึ้น
สำหรับกรณีที่อ้างว่า การประชุมครม.สัญจรที่จ.ฉะเชิงเทราที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ และได้สัญญากับ ผู้ว่าปราจีนบุรีว่าจะนำเงินในโครงการเงินกู้ 2ล้านมาให้ จ.ปราจีนบุรีเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อเป็นการหาเสียงนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งนายกฯได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของแต่ละจังหวัด พร้อมคิดยุทธศาสาตร์ในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์จังหวัดอย่างไรให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศ และได้ให้ธ์นายชัชชาติ สิทธิพันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่คุยกับผู้ว่าฯ ในจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้นักลงทุนที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ มีความเชื่อมั่นกับโครงการของรัฐบาล และยังเป็นการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับเอกชนอีกด้วย
**"ชัชชาติ"ยันกู้ 2 ล้านล้านไม่ซ้ำซ้อน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงคมนาคมยืนยันว่าโครงการที่อยู่ในแผนกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท บาท ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่ดำเนินงานตามงบประมาณประจำ 2556 โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ แต่ที่ต้องขอใช้เงินกู้เนื่องจากกระทรวงการคลังเสนอให้เปลี่ยนวิธีการกู้เงินงวดสุดท้ายวงเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นกู้เงินภายในประเทศแทนกู้เงินจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้า เพราะต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ที่งบประมาณเพิ่มขึ้นจาก 2 หมื่นล้านบาท เป็น 5 หมื่นล้านบาทนั้น เนื่องจากขยายแนวเส้นทางออกไปอีก 7 กม. คือจากสะพานใหม่-คูคต รวมทั้งมีการปรับราคาให้สะท้อนต้นทุนในปัจจุบัน จากราคาเดิมที่คิดไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าเวนคืนเพิ่มขึ้นเป็น 7.6 พันล้านบาท จากเดิม 2.3 พันล้านบาท นอกจากนั้น กรอบวงเงินเดิมยังไม่รวมการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าวงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการตามพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่มีการโยกงบประมาณไปดำเนินโครงการอื่นนอกเหนือจากโครงการที่ระบุในบัญชีแนบท้าย โดยขณะนี้จะอยู่ระหว่างการแปรญัญติ ซึ่งอาจมีการยกเลิกบางโครงการได้ตามความเหมาะสม ส่วนโครงการใดที่ดำเนินการแล้วพบว่าไม่ผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก็จะไม่กู้เงิน หรือบางโครงการที่เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบของ PPP ก็จะไม่กู้เงินในส่วนนั้น และการประกวดราคาจะเน้นวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีอ็อคชั่น แต่บางโครงการเช่นโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาประกวดราคาด้วยวิธีประกวดราคาแบบนานาชาติ ก็คงดำเนินการต่อไป
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่อภิปรายกันมากถึงเส้นทางไปภาคเหนือยาวถึงเชียงใหม่ ขณะที่เส้นทางไปยังภาคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แผนมีถึงหนองคาย แต่ของบก่อสร้างแค่นครราชสีมา ขณะที่ภาคใต้แผนมีถึงปาดังเบซาร์ แต่ของบก่อสร้างแค่หัวหินนั้น จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าปริมาณผู้โดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มีเป็นจำนวนมาก
**มาร์คชี้ช่องยื่นตีความ กม.2ล้านล.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าร่างพ.ร.บ.นี้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของสภาไปแล้ว ก็ต้องเข้าที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสภาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน หากมีการต่ออายุการพิจารณาก็จะเป็น 60 วัน และถ้าวุฒิสภามีการแก้ไข ก็ต้องกลับมาที่สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ
"ทีนี้ระหว่างที่สภาเห็นชอบกับการดำเนินการที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ นั้นจะเป็นช่วงที่ถ้ามีสมาชิกเห็นว่ากฎหมายฉบับใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ ถ้าศาลรับไว้ก็จะต้องระงับการนำขึ้นทูลเกล้าฯไว้ก่อน"นายอภิสิทธิ์กล่าว