xs
xsm
sm
md
lg

ข้อเสนอสูตร "ล้างพิษตับ"ระยะสั้นจากอาจารย์แพทย์ศิริราช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ณ บ้านพระอาทิตย์
โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

ผมได้รับข้อมูลจาก รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี อาจารย์แพทย์ศิริราช ที่ได้เขียนบทความมาชิ้นหนึ่งส่งมาให้ ในหัวข้อที่ชื่อว่า "วิธีล้าง (พิษ) ตับระยะสั้น" และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์และสร้างทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการล้างพิษตับอีกวิธีหนึ่งได้ จึงได้ขออนุญาตเผยแพร่บทความของ รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี ดังนี้

ทำไมต้องล้าง (พิษ) ตับ

- ตับของเรามีอายุเท่ากับเรา เราอายุ 50 ปี ตับของเราก็อายุ 50 ปี เราอายุ 60 ปี ตับของเราก็อายุ 60 ปี เช่นเดียวกัน

- ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย มีน้ำหนักประมาณ 2% เช่น เราหนัก 60 ก.ก. ตับของเราจะหนักประมาณ 1,200 กรัม

- ตับมีหน้าที่สำคัญมากกว่า 500 อย่าง ที่เรารู้กันเป็นอย่างดีก็คือหน้าที่กำจัดสารพิษต่างๆ อาหารทุกคำ ยาทุกเม็ด ที่เรากินล้วนมีสิ่งที่ตับต้องกำจัดทั้งสิ้น

- ตับเป็นต่อมมีท่อใหญ่ที่สุด สิ่งที่ตับสร้างคือ น้ำดี (bile) เซลล์ตับปกติทุกเซลล์จะสร้างน้ำดี (bile) น้ำดีที่สร้างจะไหลไปตามท่อเล็กๆ ซึ่งมองด้วย กล้อง จุลทรรศน์ ธรรมดาไม่เห็น เรียกว่า “bile canaliculi” แล้วรวมกันถึงท่อน้ำดีที่ ใหญ่ขึ้นในตับ เรียก “bile duct” ตับมี 2 กลีบ (lobes) ท่อน้ำดีจากทั้ง 2 กลีบ จะ รวมตัวกันเป็น “hepatic duct” จะไปเชื่อมต่อกับท่อน้ำดีที่ไหลไปยังถุงน้ำดี (gallbladder)

- ตับปกติของผู้ใหญ่จะสร้างน้ำดีวันละหลายลิตร ส่วนใหญ่จะไหลเข้าสู่ลำไส้เล็ก ส่วนที่ 2 ของลำไส้เล็กช่วงแรก (second part of duodenum) มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี (ไม่เกิน 100 cc)

- เมื่อตับกำจัดพิษจากสิ่งที่เรากินเข้าไป กากหรือขยะของสารพิษจะถูกขับออกจากตับได้ 2 วิธี

1.ถ้าเป็นสารละลายน้ำได้จะถูกกำจัดออกทางไต

2.ถ้าเป็นสารที่ไม่ละลายในน้ำ ตับจะอาศัยน้ำดีนำไปทิ้งที่ลำไส้เล็กกลายเป็น อุจจาระต่อไป และขยะที่กำจัดไม่ได้จะสะสมอยู่ในตับ

- ตับทำงานตลอดเวลา และเป็นอวัยวะหนึ่งซึ่งไม่เคยพักเลย (เช่นเดียวกับ หัวใจ และปอด)

- ตับเป็นทั้งโรงงานผลิต โรงกำจัดพิษ และโกดังสะสมทั้งสิ่งที่เป็น และไม่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกาย เช่น ไขมัน

- เครื่องยนต์ของรถ เรือ หรือพาหนะใดๆ ต้องการการทำความสะอาดทั้งสิ้น ตับก็ต้องการเช่นกัน

-ตับที่สะอาดจะทำงานได้ดีขึ้นกว่าตับที่สะสมกากขยะไว้ทั้งในตับเอง และในถุงน้ำดี

อ่านถึงจุดนี้ พวกเราคงไม่สงสัยว่า การล้าง (พิษ) ตับ น่าจะเป็นประโยชน์นะ

หลักการ และเหตุผล

- การที่ตับต้องทำงานตลอดเวลาเพราะเรากิน

- ถ้าเราหยุดกิน ตับก็จะได้พัก ระบบย่อยอาหารทั้งหมดก็จะได้พักด้วย

- สังเกตไหมว่าเวลาเราป่วย ความอยากอาหารจะหมดไป ร่างกายเราบอกว่าขอหยุดทำงานก่อน หลักการนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในวิธีล้าง (พิษ) ตับได้

- บางคนอาจมีประสบการณ์ทำ “detox” หมายถึงการสวนล้างลำไส้ (ด้วยน้ำ, น้ำสมุนไพร, กาแฟ หรืออื่นๆ) สามารถนำมาใช่ร่วมกับวิธีการของเราได้ด้วย ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้

- ตับที่พักการทำงานไประยะหนึ่งเมื่อถูกกระตุ้น จะสร้างน้ำดี (ซึ่งหยุดทำไประยะหนึ่งแล้ว) อย่างมากมาย น้ำดีที่ตับสร้างขึ้นนี้มีปริมาณมาก และ สามารถนำสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาจากระบบท่อน้ำดี และถุงน้ำดี ออกมาทางอุจจาระได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตัวกระตุ้นปฏิกิริยานี้ได้รับการพิสูจน์จากนานาประเทศที่เรียนรู้วิธีนี้มานานแล้ว ก็คือ “น้ำมันมะกอก” ชนิด extra vergin olive oil (หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป)

วิธีการ

- ส่วนใหญ่พวกเราก็ยังทำงานกันอยู่ คิดแล้วดีที่สุดสำหรับพวกเรา คือ ให้วิธีการสิ้นสุดในวันเสาร์ ซึ่งพวกเรามักอยู่บ้าน แต่ถ้าใครทำงานวันเสาร์ด้วย ก็ให้เลื่อนวันเอาเอง คิดว่าเป็นวันเสาร์ก่อนก็แล้วกันนะ

- วันอังคาร กินอาหารตามปกติจน 15:00 น. จากนั้นดื่มได้แต่น้ำ (ถ้าเป็นน้ำด่างที่เรียก alkaline water) จะดีมาก จะสวนล้างลำไส้หรือไม่ก็ได้ ยากินเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น

- วันพุธ และพฤหัสบดี งดอาหารทุกชนิด ดื่มได้เฉพาะน้ำผลไม้ที่ไม่มีกาก ดีที่สุดคือน้ำแอปเปิ้ลเขียวที่ปั่นแยกกากออกแล้ว วันละ 3 – 5 แก้ว น้ำผลไม้ แนะนำให้เป็นน้ำผลไม้สด ไม่แนะนำน้ำผลไม้บรรจุกล่อง (UHT) ถ้าหาไม่ได้จริงๆ น้ำมะขามเข้มข้น (ซื้อได้จากร้านดอยคำ) นำมาผสมน้ำดื่มก็ได้ ดื่มวันละ 3 – 5 แก้ว เช่นเดียวกัน หลัง 15:00 น. หยุดดื่มน้ำผลไม้ ดื่มน้ำได้ทั้งวัน ถ้าใครสวนล้างลำไส้อยู่แล้วก็ทำตามปกติ ถ้าไม่สวน แนะนำให้กิน ดีเกลือ (MgSO4) 1 ช้อนชา ผสมน้ำมะนาว 1 ลูก ตอนประมาณ 18:00 น.

- วันศุกร์ 6:00 – 8:00 น. กินดีเกลือ 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1 ลูก ดื่มน้ำผลไม้ได้เช่นเดียวกับวันพุธ และพฤหัส หยุดดื่ม 15:00 น.

18:00 น. และ 20:00 น. กินดีเกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำมะนาว 1 ลูก อีก 2 มื้อ

22:00 น. ดื่มน้ำมันมะกอกประมาณ 150 – 200 cc ผสมน้ำมะนาว 150 – 200 cc และเกลือป่นครึ่งช้อนชา เขย่าให้เข้ากันให้มากที่สุด ดื่มให้หมดในเวลา 10 นาที (ส่วนใหญ่ 1 นาทีก็หมดแล้ว) แนะนำให้แช่เย็นเล็กน้อย ใส่แก้วใหญ่ๆ ดื่มติดต่อกันให้หมดในคราวเดียว การจิบทีละน้อยมักไม่สำเร็จ (ใช้มะขามเปียกคลุกเกลือป่นมาป้ายลิ้นก่อนและหลังดื่มน้ำมันมะกอกจะช่วยลดความคลื่นไส้ ได้ดี)

ขั้นตอนการดื่มน้ำมันมะกอกนี้สำคัญที่สุดในขบวนการนี้ ถ้าอาเจียน การที่เราพยายามเตรียมร่างกายมาหลายวันจะเปล่าประโยชน์ เราต้องกลั้นอาเจียนจนถึง 2:00 น. (4 ชม. หลังดื่มน้ำมันมะกอก) ถ้าจะนอนให้สบาย ให้นอนยกศีรษะสูง และตะแคงขวา อาจใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบหน้าท้องข้างขวาส่วนบน หรือใต้ชายโครงซึ่งเป็นตำแหน่งของตับด้วยก็ได้

- วันเสาร์ 6:00 – 8:00 น. กินดีเกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำมะนาว 1 ลูก เมื่อถ่ายอุจจาระให้สังเกตอุจจาระที่ถ่ายออกมา (ซึ่งเราเชื่อว่าจากการอดอาหารมาหลายวัน บวกกับการกินดีเกลือ (หรือสวนล้างลำไส้) ด้วย ไม่น่าจะมีอุจจาระตกค้างในสำไส้ของเราอีกแล้ว) ทุกสิ่งที่เราขับถ่ายออกมากน่าจะมาจากระบบท่อน้ำดี ในตับ, นอกตับ และถุงน้ำดี สิ่งที่พวกเราเคยได้เห็นกันมีทั้งไขมัน, ตะกอนน้ำดี (bile salt) ไปจนถึงนิ่ว (stone) จากถุงน้ำดี ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเหม็น กว่าอุจจาระปกติ ตลอดวันเสาร์ และอาทิตย์ อาจมีการถ่ายอุจจาระอีกหลายครั้งขึ้นอยู่กับการทำงานของลำไส้ในแต่ละคน

- ตั้งแต่ 12:00 น. ของวันเสาร์เริ่มกินอาหารได้ แนะนำอาหารอ่อนย่อยง่าย และร้อนๆ จบขั้นตอนแล้วไม่ยากใช่ไหม?

สรุป

-การล้าง (พิษ) ตับจะมีผลต่างกันไปในแต่ละคน เกือบทั้งหมดจะดีขึ้น (ตับทำงานดีขึ้น) ที่เห็นชัด คือ เบาหวาน, ความดัน, cholesterol, trigleceride เป็นต้น

-ไม่แน่ใจติดต่อผมส่วนตัวได้ครับ




กำลังโหลดความคิดเห็น