** ยังคาราคาซัง ไม่สะเด็ดน้ำเสียที สำหรับการรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
ที่ "คุณชายหมู" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งมาแบบสนุกสุดมัน ได้คะแนนล้านสอง ชนะคู่แข่งสำคัญอย่าง "จูดี้" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนมาเกินล้านเหมือนกัน
ทางฟากตัวผู้แพ้ก็ยอมรับผล พร้อมทั้งแถลงยอมรับความพ่ายแพ้ไปตั้งนานแล้ว "พงศพัศ" ไม่ติดใจร้องแรกแหกกระเชอ พยายามมุดหัวกลับเข้าไปขอรับราชการตามเดิมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก็เปิดทางปูพรมแดงไว้แล้ว พรรคเพื่อไทย แค่ขอตัวมาชั่วคราว หากชนะก็เป็นผู้ว่าฯกทม. หากแพ้ก็กลับเข้ารับราชการตามเดิม พร้อมแต่งตัวรอเป็น ผบ.ตร. ในอนาคต และหลังจากนั้นก็เป็นรมต.ตามสเต็ป !!
แต่ที่แอบลุ้นกันอยู่ก็คือ ฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย แกนนำสั่งการลิ่วล้อ ตลอดจนเครือข่ายส.ส.กทม. ส.ก. และ ส.ข. ให้เตรียมพร้อมทันที หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชักใบเหลือง หรือ ใบแดง ก็ต้องมาลุยกันใหม่ หลายคนภาวนาอย่าเลือกใหม่เลย ให้ตายเถอะ ทั้งเหนื่อย ทั้งขี้เกียจ !!
ถึงชั่วโมงนี้กกต.ยังไม่ประกาศรับรองให้ "คุณชายหมู" เป็นผู้ว่าฯกทม. ท่ามกลางการลุ้นระทึกของพลพรรคประชาธิปัตย์ สดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง บอกว่า กกต.ใหญ่ยังไม่พิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และก็ยังไม่ได้นำเรื่องบรรจุเข้าวาระการประชุมกกต.กลาง ในวันที่ 20 มี.ค. เบื้องต้นคำร้องคัดค้านที่ กกต.กทม. เสนอมาอยู่ที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยของกกต.กลาง จะสามารถบรรจุเข้าวาระที่ประชุมกกต.ได้ในสัปดาห์หน้า
"หาก กกต.ยังพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านไม่แล้วเสร็จ ในระยะเวลา 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ก็ต้องประกาศรับรองไปก่อน หากตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งกระทำการเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งเลือกตั้ง กกต.ก็จะมีมติเสนอใบเหลือง ใบแดง ไปยังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาวินิจฉัยต่อไป "
สำหรับกรอบเวลา 30 วัน ที่กกต.บอกนั้น ดีดนิ้วดูจะครบวันที่ 2 เม.ย. แว่วข่าวจากวงในกกต.ต้องประกาศรับรองให้ "ชายหมู" เป็นผู้ว่าฯกทม.ไปก่อน แล้วค่อยไปตามสอยทีหลัง เรื่องร้องเรียนที่เหลือ กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันประกาศผลเลือกตั้ง แต่คนที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคือ ศาลอุทธรณ์
คำร้องคัดค้านที่กกต.กลางรับเรื่องมาจาก กกต. กทม. หลักๆ มี 2 เรื่อง คือ เรื่องที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาว่า โพสต์ภาพตัดต่อจากเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เมื่อช่วงพฤษภา 53 อีกเรื่องคือกรณีที่ เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการโพสต์ข้อความชี้นำ บอกให้เลือกเบอร์ 16
กระนั้นก็ตาม ฟากพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีความมั่นใจว่า "ชายหมู" จะไม่โดนสอยง่ายๆ แน่นอน องอาจ คล้ามไพบูลย์ โวแหลก ประชาธิปัตย์ไม่หวั่นไหวใดๆ มั่นใจว่า "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์" จะได้รับการรับรองเป็นผู้ว่าฯกทม.แน่ โดยดูจากท่าทีของกกต. กทม. ที่ไม่เรียก "ชายหมู" เข้าไปชี้แจงแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าข้อมูล หลักฐาน น่าจะไม่ชัดเจนถึงขั้นต้องเรียกเจ้าตัวไปแก้ต่าง นำไปสู่การชัก “ใบเหลือง – ใบแดง” พร้อมออกโรงจวกพวกปล่อยข่าวว่าจะมีการแจกใบเหลือง ใบแดง ว่าเป็นพวกลวงโลก เหลวไหล
แต่อาการยักท่าของกกต. ไม่รับรองกันทันทีทันใดแบบนี้ มันก็ทำเอาใจหวิวเหมือนกัน เรื่องที่ "เสรี วงษ์มณฑา" บอกให้เลือกเบอร์ 16 ก็มีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง ว่ามันเกี่ยวอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเจ้าตัวก็ไม่ได้เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง แค่เป็นพวกสนับสนุน เพียงแต่มีหน้ามีตาในสังคม ก็เท่านั้น
**เจ้าตัวก็ออกมาปรี๊ดแตกเช่นกัน ถ้ากกต.ตัดสินว่ากรณีของตัวเองไปเกี่ยวพัน จนเป็นเหตุให้ "ชายหมู" ต้องได้ใบแดง ใบเหลือง ก็เป็นตลกร้ายสิ้นดี !!
** แต่เรื่องของ "วอลเปเปอร์" ศิริโชค โสภา ดูแล้วน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะเกี่ยวข้องเกี่ยวพันโดยตรง
ล่าสุดยังมีคำร้องคัดค้านของลูกอีช่างร้อง "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีตส.ว.สรรหา ได้เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.กทม. กรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่า การที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ได้รับเลือกตั้ง และพรรคประชาธิปัตย์ออกนโยบายหาเสียง ว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะตั้งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญรวม 31 คน เข้าข่ายผิด มาตรา 57(1) (5) ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น เพราะข้อเท็จจริงพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 กำหนดให้แต่งตั้งได้ไม่เกิน 9 คน
ประเด็นนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ห่วง เพราะบอกชัดว่าเป็นการแต่งตั้งที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญกิตติมศักดิ์ ไม่มีการรับเงินเดือน ตั้งแบบนี้ความจริงตั้งได้เป็นร้อย !!
ดังนั้นถึงที่สุดแล้วพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่า คำร้องคัดค้านทั้งหลายทั้งปวงน่าจะผ่านพ้นไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น กกต.รับรองช้า ก็แค่ทำให้เสียวเล่น
แว่วเสียงนินทาว่า มันอาจเป็นความพยายามเคาะกะลา เรียกปัจจัยแลกเปลี่ยนใบแดง เหลือง เป็นใบขาว แต่ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่กล้าฟันธง จะใช้วิธีการเหมือนกกต.ชุดเก่าๆ หรือเปล่า อันนี้ไม่รู้ !!
กระนั้นก็ตามถ้าหากจับพลัดจับผลู ต้องเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.กันใหม่ ก็ไม่รู้ว่าจะโกลาหลอลหม่านแค่ไหน คนกรุงเทพฯ จะบ่นด้วยความเซ็งกันอย่างไร แล้วจะแสดงพลังในเรื่องนี้อย่างไร ทางหนึ่งก็อาจจะเบื่อไม่ออกไปใช้สิทธิซ้ำซาก หรืออีกทางหนึ่งอาจออกไปใช้สิทธิ์หนักกว่าเก่า ด้วยความคั่งแค้น !!
พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจเหลือเกินว่า คะแนนที่ได้มา 1.2 ล้าน ไม่น่าจะตกหล่นหายไปไหน ซ้ำร้ายอาจสวิงกลับมาเข้ากระเป๋า จากคะแนนสงสาร จึงยักไหล่ไม่ยี่หระ ด้วยประการทั้งปวง
ผิดแผกแตกต่างจากพรรคเพื่อไทย ที่ต่างคนต่างบอก ไม่เอาแล้ว!! ไม่ไหวแล้ว!! บรรดารัฐมนตรี ส.ส. ไม่เป็นอันทำการทำงาน ต้องหันหน้ามาทุ่มเทศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ตามใบสั่งแบบเสียไม่ได้ อีกทั้งยังประเมินแล้วว่าเลือกใหม่ก็คงแพ้อีก ดีไม่ดีอาจหลุดลุ่ย แพ้ขาด ขายขี้หน้ากว่าเดิม ฉะนั้นอย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนดีกว่า
**ถ้าถึงเวลาจริงๆ ถามตัวผู้สมัครหรือยังว่า จะเอาอีกหรือเปล่า ชั่วโมงนี้ "พงศพัศ" หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ไม่มีความกระสันจะออกมาตะลอนหาเสียงอีก ถือว่าทำงานปิดจ๊อบไปแล้ว รอเพียงผลตอบแทนในอนาคตก็พอ
ที่ "คุณชายหมู" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งมาแบบสนุกสุดมัน ได้คะแนนล้านสอง ชนะคู่แข่งสำคัญอย่าง "จูดี้" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนมาเกินล้านเหมือนกัน
ทางฟากตัวผู้แพ้ก็ยอมรับผล พร้อมทั้งแถลงยอมรับความพ่ายแพ้ไปตั้งนานแล้ว "พงศพัศ" ไม่ติดใจร้องแรกแหกกระเชอ พยายามมุดหัวกลับเข้าไปขอรับราชการตามเดิมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก็เปิดทางปูพรมแดงไว้แล้ว พรรคเพื่อไทย แค่ขอตัวมาชั่วคราว หากชนะก็เป็นผู้ว่าฯกทม. หากแพ้ก็กลับเข้ารับราชการตามเดิม พร้อมแต่งตัวรอเป็น ผบ.ตร. ในอนาคต และหลังจากนั้นก็เป็นรมต.ตามสเต็ป !!
แต่ที่แอบลุ้นกันอยู่ก็คือ ฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย แกนนำสั่งการลิ่วล้อ ตลอดจนเครือข่ายส.ส.กทม. ส.ก. และ ส.ข. ให้เตรียมพร้อมทันที หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชักใบเหลือง หรือ ใบแดง ก็ต้องมาลุยกันใหม่ หลายคนภาวนาอย่าเลือกใหม่เลย ให้ตายเถอะ ทั้งเหนื่อย ทั้งขี้เกียจ !!
ถึงชั่วโมงนี้กกต.ยังไม่ประกาศรับรองให้ "คุณชายหมู" เป็นผู้ว่าฯกทม. ท่ามกลางการลุ้นระทึกของพลพรรคประชาธิปัตย์ สดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง บอกว่า กกต.ใหญ่ยังไม่พิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และก็ยังไม่ได้นำเรื่องบรรจุเข้าวาระการประชุมกกต.กลาง ในวันที่ 20 มี.ค. เบื้องต้นคำร้องคัดค้านที่ กกต.กทม. เสนอมาอยู่ที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยของกกต.กลาง จะสามารถบรรจุเข้าวาระที่ประชุมกกต.ได้ในสัปดาห์หน้า
"หาก กกต.ยังพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านไม่แล้วเสร็จ ในระยะเวลา 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ก็ต้องประกาศรับรองไปก่อน หากตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งกระทำการเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งเลือกตั้ง กกต.ก็จะมีมติเสนอใบเหลือง ใบแดง ไปยังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาวินิจฉัยต่อไป "
สำหรับกรอบเวลา 30 วัน ที่กกต.บอกนั้น ดีดนิ้วดูจะครบวันที่ 2 เม.ย. แว่วข่าวจากวงในกกต.ต้องประกาศรับรองให้ "ชายหมู" เป็นผู้ว่าฯกทม.ไปก่อน แล้วค่อยไปตามสอยทีหลัง เรื่องร้องเรียนที่เหลือ กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันประกาศผลเลือกตั้ง แต่คนที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคือ ศาลอุทธรณ์
คำร้องคัดค้านที่กกต.กลางรับเรื่องมาจาก กกต. กทม. หลักๆ มี 2 เรื่อง คือ เรื่องที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาว่า โพสต์ภาพตัดต่อจากเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เมื่อช่วงพฤษภา 53 อีกเรื่องคือกรณีที่ เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการโพสต์ข้อความชี้นำ บอกให้เลือกเบอร์ 16
กระนั้นก็ตาม ฟากพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีความมั่นใจว่า "ชายหมู" จะไม่โดนสอยง่ายๆ แน่นอน องอาจ คล้ามไพบูลย์ โวแหลก ประชาธิปัตย์ไม่หวั่นไหวใดๆ มั่นใจว่า "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์" จะได้รับการรับรองเป็นผู้ว่าฯกทม.แน่ โดยดูจากท่าทีของกกต. กทม. ที่ไม่เรียก "ชายหมู" เข้าไปชี้แจงแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าข้อมูล หลักฐาน น่าจะไม่ชัดเจนถึงขั้นต้องเรียกเจ้าตัวไปแก้ต่าง นำไปสู่การชัก “ใบเหลือง – ใบแดง” พร้อมออกโรงจวกพวกปล่อยข่าวว่าจะมีการแจกใบเหลือง ใบแดง ว่าเป็นพวกลวงโลก เหลวไหล
แต่อาการยักท่าของกกต. ไม่รับรองกันทันทีทันใดแบบนี้ มันก็ทำเอาใจหวิวเหมือนกัน เรื่องที่ "เสรี วงษ์มณฑา" บอกให้เลือกเบอร์ 16 ก็มีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง ว่ามันเกี่ยวอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเจ้าตัวก็ไม่ได้เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง แค่เป็นพวกสนับสนุน เพียงแต่มีหน้ามีตาในสังคม ก็เท่านั้น
**เจ้าตัวก็ออกมาปรี๊ดแตกเช่นกัน ถ้ากกต.ตัดสินว่ากรณีของตัวเองไปเกี่ยวพัน จนเป็นเหตุให้ "ชายหมู" ต้องได้ใบแดง ใบเหลือง ก็เป็นตลกร้ายสิ้นดี !!
** แต่เรื่องของ "วอลเปเปอร์" ศิริโชค โสภา ดูแล้วน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะเกี่ยวข้องเกี่ยวพันโดยตรง
ล่าสุดยังมีคำร้องคัดค้านของลูกอีช่างร้อง "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีตส.ว.สรรหา ได้เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.กทม. กรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่า การที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ได้รับเลือกตั้ง และพรรคประชาธิปัตย์ออกนโยบายหาเสียง ว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะตั้งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญรวม 31 คน เข้าข่ายผิด มาตรา 57(1) (5) ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น เพราะข้อเท็จจริงพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 กำหนดให้แต่งตั้งได้ไม่เกิน 9 คน
ประเด็นนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ห่วง เพราะบอกชัดว่าเป็นการแต่งตั้งที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญกิตติมศักดิ์ ไม่มีการรับเงินเดือน ตั้งแบบนี้ความจริงตั้งได้เป็นร้อย !!
ดังนั้นถึงที่สุดแล้วพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่า คำร้องคัดค้านทั้งหลายทั้งปวงน่าจะผ่านพ้นไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น กกต.รับรองช้า ก็แค่ทำให้เสียวเล่น
แว่วเสียงนินทาว่า มันอาจเป็นความพยายามเคาะกะลา เรียกปัจจัยแลกเปลี่ยนใบแดง เหลือง เป็นใบขาว แต่ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่กล้าฟันธง จะใช้วิธีการเหมือนกกต.ชุดเก่าๆ หรือเปล่า อันนี้ไม่รู้ !!
กระนั้นก็ตามถ้าหากจับพลัดจับผลู ต้องเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.กันใหม่ ก็ไม่รู้ว่าจะโกลาหลอลหม่านแค่ไหน คนกรุงเทพฯ จะบ่นด้วยความเซ็งกันอย่างไร แล้วจะแสดงพลังในเรื่องนี้อย่างไร ทางหนึ่งก็อาจจะเบื่อไม่ออกไปใช้สิทธิซ้ำซาก หรืออีกทางหนึ่งอาจออกไปใช้สิทธิ์หนักกว่าเก่า ด้วยความคั่งแค้น !!
พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจเหลือเกินว่า คะแนนที่ได้มา 1.2 ล้าน ไม่น่าจะตกหล่นหายไปไหน ซ้ำร้ายอาจสวิงกลับมาเข้ากระเป๋า จากคะแนนสงสาร จึงยักไหล่ไม่ยี่หระ ด้วยประการทั้งปวง
ผิดแผกแตกต่างจากพรรคเพื่อไทย ที่ต่างคนต่างบอก ไม่เอาแล้ว!! ไม่ไหวแล้ว!! บรรดารัฐมนตรี ส.ส. ไม่เป็นอันทำการทำงาน ต้องหันหน้ามาทุ่มเทศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ตามใบสั่งแบบเสียไม่ได้ อีกทั้งยังประเมินแล้วว่าเลือกใหม่ก็คงแพ้อีก ดีไม่ดีอาจหลุดลุ่ย แพ้ขาด ขายขี้หน้ากว่าเดิม ฉะนั้นอย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนดีกว่า
**ถ้าถึงเวลาจริงๆ ถามตัวผู้สมัครหรือยังว่า จะเอาอีกหรือเปล่า ชั่วโมงนี้ "พงศพัศ" หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ไม่มีความกระสันจะออกมาตะลอนหาเสียงอีก ถือว่าทำงานปิดจ๊อบไปแล้ว รอเพียงผลตอบแทนในอนาคตก็พอ