xs
xsm
sm
md
lg

น้ำเน่า“ปู-เหลิม”ดับไฟใต้-“บิ๊กจิ๋ว”หนุน“มหานครปัตตานี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “ปู-เหลิม”เล่นละครน้ำเน่าแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้รายวัน เล่นมุกสั่ง ลงใต้ต่อหน้าสื่อ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ แค่บอกให้เร็วที่สุด ส่วน “เหลิม”พลิ้ว อ้าง "มหาเธร์" เลื่อนให้เข้าพบ เลยขออยู่คุมเกมในสภาฯค่อยลงอ้างถ้าไม่ไป “ปูปลดแน่” “บิ๊กจิ๋ว” โผล่ปัดร่วม รบ. แต่อ้างพร้อมช่วยงานความมั่นคง ย้ำหนุน “มหานครปัตตานี”

วานนี้(20 มี.ค. 56) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนกำหนดการพบกับนายมหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเดิมจะมีในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ออกไปก่อน เพื่ออยู่ช่วยรัฐบาลในการที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า “ผมบอกว่าจะไปลังกาวี นายกฯบอกว่าถ้าอย่างนั้นจะปลด จึงให้ผมเข้าเวรสภาฯ ไปไหนไม่ได้”

เมื่อถามว่า นายมหาเธร์จะเข้าใจถึงความจำเป็นของรัฐบาลในเรื่องนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนกำลังเจรจาอยู่ ซึ่งถ้าตนไม่ไปพบนายมหาเธร์ ก็ไม่ได้น้ำ-ได้เนื้อ แต่ตนเชื่อว่านายมหาเธร์เข้าใจ เพราะข่าวการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวก็ออกไปทั่วโลก

เมื่อถามว่า จะยังลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ลงล้านเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่นายกรัฐมนตรีบังคับให้ตนเฝ้าการประชุมสภาฯ ส่วนจะเลื่อนไปเป็นเมื่อใดนั้น ก็ขอให้รออีกนิด

“ถ้าจะพบท่านมหาเธร์ แบบไปเช้า-เย็นกลับ ก็ได้ เขาก็ไปกันประจำ ซึ่งผมเห็นว่าเร็วไป นั่งเครื่องบินไปลงแล้วเอาเฮลิคอปเตอร์ไปเข้าค่ายทหารและฟังบรรยายสรุป แล้วไปตลาดก็มีทหารดูแล 800 นาย ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ปิดกั้นการจราจร สร้างภาพให้ผมนั่งกินน้ำชาสักถ้วย แล้วจะได้อะไรขึ้นมา ผมคุยกับผู้ที่รับผิดชอบทุกวัน อย่าไปใส่ใจเลย ไม่อันตรายอะไร”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นอยู่ที่ว่านายมหาเธร์จะมีเวลาว่างช่วงใด ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ก็นั่นแหละ แต่ถ้าท่านบอกไม่ว่าง ผมก็ไปตามลำพัง ไปตายเอาดาบหน้า ไม่มีเป้าหมาย”

เมื่อถามต่อว่า ทำไมจึงกลัวการลงพื้นที่ดังกล่าว ถึงขั้นระบุว่าจะไปตายเอาดาบหน้า ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “อันนั้นมันเพลง”

เมื่อถามย้ำว่า ในครึ่งปีแรกนี้ จะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แน่นอนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “อันนั้นมันนานไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันเดียวกันนี้ เวลา 14.00 น. ก่อนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม ได้พบกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยร.ต.อ.เฉลิม ได้รายงานกับนายกรัฐมนตรีให้ทราบว่า ในวันที่ 28 มี.ค. ไม่ได้ไปมาเลเซียแล้ว โดยจะอยู่กับนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... ในวงเงินไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท ต่อที่ประชุมสภา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงจะลงพื้นที่ภาคใต้เมื่อไหร่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถ้าไม่ลงไปเที่ยวนี้ถูกปลดแน่ๆ” ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องลงพื้นที่ภาคใต้อยู่ดี และเร็วที่สุด และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะขณะนี้มีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงก็สามารถติดต่อกันได้ตลอดอยู่แล้ว"

ที่สโมสรราชพฤกษ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีมีกระแสข่าวจะถูกทาบทามเข้าร่วมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 4 โดยยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีรัฐบาลหรือฝ่ายใดมาทาบทาม ให้เข้าร่วมรัฐบาลในการปรับครม.ครั้งนี้ แต่หากต้องการให้ช่วยและแนวทางตรงกันขอคิดทบทวนก่อน ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนตัวอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ แม้ไม่มีตำแหน่งใดๆทางการเมืองก็สามารถช่วยแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้ ส่วนกลุ่มวาดะห์ ที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษาของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายรัฐมนตรี ก็ไม่ได้มาทาบทาบอะไรตน แต่มีหลายฝ่ายมาขอคำปรึกษา ในการแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

อดีตนายกฯกล่าวถึงการตั้งนครรัฐปัตตานี ว่าไม่ได้เป็นการแยกการปกครองเป็นนครรัฐขึ้นมาใหม่ แต่เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษเพื่อให้อำนาจแก่ประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้น เพื่อให้มีส่วนร่วมในการสร้างความสงบสุขให้กับประชาชนให้กลับมาเป็นมหานครปัตตานี ที่ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต จะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความภาคภูมิใจ

สำหรับแนวทางการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถือว่ามาถูกทางแล้ว แต่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาอีกสักพัก ตนเชื่อว่าไม่นานจะสามารถแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคน เชื่อว่าการเจรจาดังกล่าวจะไม่เป็นการยกระดับของปัญหาให้ต่างประเทศให้เข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นปัญหาภายในประเทศที่ทุกประเทศต้องเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกัน ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าหลังจากนี้จะมีกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่อื่นๆที่รัฐบาลไม่ได้พูดคุยด้วยจะมาทำให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นอีกนั้น ส่วนตนมองว่ายังอีกหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน กลุ่มค้ายาเสพติด ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ยังเป็นปัยจัยที่ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ ต้องยอมรับว่ามีปัญหาในพื้นที่ เชื่อว่าสักระยะก็จะรู้ว่าเป็นกลุ่มไหน ขอให้อดทนรอ คาดว่าไม่นานเพราะว่ามีการพูดคุยกันแล้ว ในอดีตเราต่อสู้สงครามกลางเมือง คนไทยหนีเข้าป่า เราต้องแก้ปัญหาลัทธิคอมมิวนิสต์ ตั้ง 40-50 ปี ปัญหาภาคใต้เพิ่ง 10 ปี ถ้าใช้แนวทางที่ถูกใช้เวลานิดเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกด้านกรณีพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอความเห็นผ่านสื่อมวลชนว่า ต้องทบทวนการลงนาม และอาจยกเลิกการเจรจา โดยต้องหาวิธีการที่รอบคอบ และใส่ใจในปัญหามากขึ้น เพราะหลังการลงนามยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แสดงว่ารัฐบาลนี้พลาดอย่างยิ่งในการลงนามเจรจากับผู้ก่อความไม่สงบ

ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีกระบวนการก่อการร้าย ซึ่งหากมีการปะทะกันอาจจะทำให้องค์การการประชุมอิสลาม(โอไอซี) และ 65 ประเทศมุสลิม รวมถึงองค์การก่อการร้าย ยื่นมือเข้ามาให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้อย่างชอบธรรม และเกรงว่าจะนำไปสู่การทำการสำรวจความเห็นประชาชนในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าต้องการการปกครองแบบใด หากถึงวันนั้นโอกาสที่เราจะเสียดินแดน หรือการเกิดรัฐอิสระจะเป็นไปได้สูง เหมือนไอร์แลนด์และปาเลสไตน์

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์ประชาสัมพันธ์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ จะถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเจรจา ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็สะท้อนผ่านโพลแล้วว่าเห็นด้วย

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ส่งฝ่ายสนธิสัญญาไปร่วมเจรจาในประเด็นอะไรที่อ่อนไหว หรือส่งผลกระทบ เมื่อถามว่าคนที่ขัดแย้งกับทางการไทยส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ถือสองสัญชาติหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่ดำเนินการก็เป็นคนที่มีเชื้อสายเป็นคนไทยอยู่แล้ว บางคนก็มีสองสัญชาติ ทั้งนายกฯไทยและนายกฯมาเลเซียต่างยืนยันร่วมกันในการพิสูจน์สัญชาติให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น