โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ผู้นำรัฐบาลข้าวเน่า ยุคราคาน้ำมัน 2 ลิตรร้อยบาท ยังเดินเด้งหน้าเด้งหลัง แอ่นระแน้ เล่นลีลาแอ๊บแบ๊ว ไม่รู้สึกรู้สากับความทุกข์ร้อนของชาวบ้านเหยื่อประชานิยมถมไม่เต็ม หาจังหวะเดินสายไปเมืองนอก เลี่ยงตอบกระทู้ในสภาชอบพบปะผู้นำชาติอื่นๆ กลับมาแล้วไม่เคยมาพูดว่าประสบความสำเร็จอะไร นอกจากเสียงบประมาณซึ่งรีดมาจากเงินภาษีของชาวบ้าน ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง
แม่นางโพยปูโพรกเน่าในหน้าใสเป็นผู้นำรัฐบาลไทยคนแรกซึ่งเดินทางไปท่องต่างประเทศมากกว่าคนอื่นๆ นั่งเก้าอี้มานาน 1 ปี 8 เดือน ไปทัวร์มามากกว่า 26 เที่ยว ดังนั้นฉายานางโชว์ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากพฤติกรรมความชอบส่วนตัว บ้านเมืองจะเสียหาย ใครจะเป็นจะตายก็ช่างมัน
ยุคบักเหลี่ยมพี่ชายนำพาบ้านเมืองจมปลักติดกับดักนโยบายประชานิยม ชาวบ้านแทบไม่ต้องคิดอ่านทำอะไร ตื่นเช้าดูว่าจะมีของฟรีลวงโลกอย่างไรบ้าง พวกห่วงใยบ้านเมืองกังวลเช่นกันว่าประเทศเสี่ยงล่มจมหรือยัง
อยู่มานานเกือบ 2 ปี ไม่มีผลงานมาแถลงชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่าเป็นมรรคผลอย่างไร มีแต่เรื่องระยำตำบอนซ้ำซาก พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรมให้อาชญากรก่อการร้าย อาชญากรการเมืองนั่งหน้าสลอนในสภาฯ เป็นเครือข่ายรอรับคำสั่งจากบักเหลี่ยมร้ายให้เร่งเดินหน้าขายชาติตัดแผ่นดินให้กัมพูชา และโจรแยกดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคไต้ตั้งนครรัฐปัตตานี
ยุคบักเหลี่ยมบ้านเมืองหายนะด้วยการขายทรัพย์สินของชาติ ยุคแม่นางโพยข้าวเน่าน่าจะสร้างความพินาศล่มจมมากกว่า ทำเป็นระบบ เช่นทำลายอุตสาหกรรม การเกษตรปลูกข้าว การค้าขาย ส่งผลให้ข่าวเน่าในโกดังทั่วประเทศ หาทางระบายผ่านโครงการข้าวราคาถูกให้คนไทยกินลดความฉลาด
เป็นยุคคนไทยวางเฉย ยิ่งกว่าสภาพ “กบต้ม” ปล่อยให้บักเหลี่ยมและแม่นางโพยสั่งการขี้ข้าให้ปู้ยี่ปู้ยำประเทศ เงินหมดคลังก็วางแผนกู้ 2.2 ล้านล้านบาทเอามาถลุง ให้หนี้สินพอกพูนลูกหลานไทยต้องใช้หนี้นานกว่า 50 ปี
มีเสียงเตือนว่าถ้ายังกู้ไม่เลิก หนี้สินพุ่งสู่ระดับ 60-70 เปอร์เซ็นต์ของขีดความสามารถในการผลิตด้านเศรษฐกิจ สิ้นสภาพของความมั่นคง เสี่ยงต่อการล้มละลายไม่ต่างจากอาร์เจนตินาและกรีซ ต้องขายทรัพย์สินชาติใช้หนี้
แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังเฉย คุ้นชินกับราคาน้ำมัน 2 ลิตรร้อยบาท ติดอันดับ 5 ของโลก ทั้งๆ ที่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทยังรับไม่ครบ ผู้ประกอบการรายเล็กต้องหาทางเลิกจ้าง สร้างปัญหาต่อเนื่องทั้งเศรษฐกิจ สังคม
อาชญากรการเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมจะขายชาติ เสียทั้งดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติให้กัมพูชา ใกล้จะเสีย 3 จังหวัดชายแดนภาคไต้ คนไทยก็เฉย ทำเป็นธุระไม่ใช่! นี่คือความพิสดารของคนไทยในยุคที่ยอมให้ผู้นำสติปัญญาเอ๋อบริหารบ้านเมือง โดยมีบริวารบักเหลี่ยมเป็นลูกมือ
แต่ละวันผ่านไป มีแต่ลีลาลิงหลอกเจ้า สับขาหลอก เสียงคร่ำครวญโหยหวนให้ช่วยพากลับบ้าน มีมาเป็นระยะๆ จากคนแดนไกล โฮ่ย! เรียกซะโก้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงคือคนหนีคุก หนีหมายศาล มีชนักปักหลัง อาชญากรรมเกี่ยวโยงกับการทุจริตสารพัด เป็นทั้งนายหน้าของมหาอำนาจขายแผ่นดินเกิด
ลูกเล่นลีลาในสภา โดยขี้ข้าบักเหลี่ยม เริ่มซ้ำซาก เวียนวน สับขาหลอก สลับคนเล่น ทำเอาคนรู้ทันจับทางได้แล้ว! ที่จริงไม่ได้หวังจะสำเร็จเรื่องนิรโทษกรรม แก้รัฐธรรมนูญ เพียงแต่เป็นเล่ห์เหลี่ยมตบตาชาวบ้าน หวังยื้อเวลาเพื่อเขมือบงบประมาณและเงินกู้มหาศาลโดยยกโครงการต่างๆ มาเป็นฉากบังหน้า
บักเหลี่ยมรู้ตัวดีว่าชาตินี้ไม่มีวันได้กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยแบบเท่ห์ๆ อีกแล้ว ต่อให้กลับมาได้ ต้องแวดล้อมโดยหน่วยรักษาความปลอดภัย สู้อยู่ต่างประเทศ เป็นนายหน้าขายชาติ รับบทประธานาธิบดีเร่ร่อน สั่งการขี้ข้า ได้งานบ้าง ไม่ได้บ้าง ต้องทำใจ ยังดีกว่าต้องอยู่ในคุก หรือสิ้นลมหายใจ
แต่บักเหลี่ยมเป็นคนเจ้าคิด เจ้าแค้น เจ้าอาฆาต ชาวบ้านยังไม่ลืมคำประกาศ “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ อย่าหวังว่าคนอื่นจะอยู่อย่างมีความสุข” ดังนั้นบ้านเมืองจึงอยู่ภายไต้อิทธิพลของเครือข่ายอาชญากร ปล้นทรัพย์สินแผ่นดินทุกวัน น่าแปลกที่พวกมีอำนาจวางเฉย ตำรวจ อัยการ บางส่วนก็สยบหวังได้ดี
ดูสภาพแล้วยังไม่มีใครจะขวางความพยายามทำชาติให้ล่มจม! ธนาคารของรัฐ 3 แห่งเสี่ยงต่อการเจ๊ง โดยเฉพาะ ธกส. ในนโยบายทำลายข้าวไทย! การแหกปากเพื่อแหกตาชาวบ้านเรื่องพลังงานขาดแคลนเป็นเพียงพวกหลอกขายน้ำมันจิ้งเหลนอ้างว่าช่วยขยายจ้าวโลก! เห็นนักหลอกลวงต้มตุ๋น
ทุกวันนี้บ้านเมืองไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เสื่อมกับทรุด คนไทยไม่ใช่กบต้มอีกแล้ว เป็นยิ่งกว่าคางคกโดนรถทับบี้แบนแห้งตายกลางถนน! ถ้าการกู้เงิน สร้างหนี้ก้อนโตสำเร็จ เท่ากับผลักดันให้ประเทศไทยอยู่บนเส้นทางสู่หายนะ
ทุกวันนี้ยังมีคนไทยรักชาติเหลืออีกเท่าไหร่ นอนหลับสบายไม่มีฝันร้ายบ้างหรือ เมื่อเห็นขบวนการขายชาติเร่งมือล้างผลาญแผ่นดินเกิดโดยคำบัญชาของคนหนีคุก?!