ASTVผู้จัดการรายวัน - คำนูณ"บอกใบ้ "บิ๊กจิ๋ว"คัมแบ็ก สานฝันตั้ง "รัฐปัตตานี" ปชป.แฉ ศอ.บต. ดันออก พ.ร.ฎ.ตั้งองค์กรมหาชนแก้ไฟใต้ สอดรับแนวคิดที่มี "แม้ว"เป็นเงาทมึนอยู่เบื้องหลัง "มาร์ค"ซัด "ภราดร"อย่าด่วนสรุป จี้ "ปู"พูดความจริงหากพี่ชายไม่มีเอี่ยว สมช.เตรียมเปิดตัว 15 คนคุยบีอาร์เอ็นรอบ 2 สัปดาห์หน้า เผย 9 กลุ่มโจรใต้ขอร่วมวงเจรจา
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "คำนูณ สิทธิสมาน" ถึงสถานการณ์การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยบอกใบ้ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในวัย 81 ปี
"แม้จะยังไม่ลงตัว แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า พล.อ.ชวลิต จะกลับมาเป็นรองนายกฯ ในวัย 81 เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ดอกไม้หลากสี มหานครปัตตานี ให้เป็นจริง แรงหนุนส่วนหนึ่ง เชื่อว่ามาจากแกนนำ BRN ที่เข้าร่วมกระบวนการพูดคุยสันติภาพ"
**แฉพ.ร.ฏ.องค์กรมหาชนเอื้อนครปัตตานี
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ แถลงถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) จัดตั้งสถาบันส่งเสริมการฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่นและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (องค์กรมหาชน) พ.ศ. ... ที่จะบังคับใช้ในจังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และสงขลา ในบางพื้นที่ว่า ตนทราบมาว่า รัฐบาลจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเร่งด่วน เพื่อประกาศใช้ในราชกิจานุเบกษา แต่ตนอยากขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ทบทวนเรื่องนี้ เนื่องจากเพราะองค์กรดังกล่าวจะมีภารกิจซ้ำซ้อนกับศอ.บต. และการจัดนำเงินของรัฐบาลเป็นรายปีมาให้กับองค์กรมหาชนนั้น ง่ายต่อการทุจริต และการนำเงินไปสนับสนุนโจรแบ่งแยกดินแดน ที่สำคัญจะเป็นองค์กรที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เชื่อมโยงองค์กรต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ถูกครอบงำได้ง่าย นอกจากนี้ องค์กรมหาชน มีผู้บริหารเพียง 8 คน และผอ. 1 คน ยากต่อการตรวจสอบ เพราะไม่มีระเบียบให้ ส.ส.เข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณได้
“องค์กรมหาชนที่ตั้งขึ้น ไปสอดคล้องกับแนวคิดนครรัฐปัตตานี ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลัง ถ้าเมื่อไรที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.นิพัฒน์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศอ.บต. รับงานมาจากพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องกลับไปถามประชาชนทั้ง 65 ล้านคนก่อนว่า การจัดตั้งเขตปกครองพิเศษนครรัฐปัตตานี ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ หรือนี่เป็นเพียงการไถ่บาปของคนที่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ”นายถาวรกล่าว
นอกจากนี้ ตนทราบมาว่า จะมีการซื้อโรงแรมชางลี จ.ยะลา ซึ่งเป็นโรงแรมที่ปิดกิจการไปแล้ว เพื่อนำมาปรับปรุงใหม่ทั้งหมด จึงอยากถามไปยังพ.ต.อ.ทวีว่าจริงหรือไม่ และในสัปดาห์หน้า ตนจะประชุมส.ส.ภาคใต้ ของพรรค เพื่อหาแนวทางตัดสินใจร่วมกันว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งคาดว่าจะยื่นเป็นญัตติเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพราะต้องการชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
**" มาร์ค"ตบปาก"ภราดร"อย่าด่วนสรุป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงเรื่องนครปัตตานี แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่ตอบรับ เพราะเขาต้องการความเป็นธรรม และต้องการมีส่วนร่วม แต่สูตรสำเร็จที่พูดกันอยู่ขณะนี้ เป็นเชิงสัญลักษณ์มากกว่า หากตั้งสมมุติฐานผิดก็จะแก้ปัญหาไม่ได้ ตนไม่ได้บอกว่าการมีรูปแบบกระจายอำนาจพิเศษไม่ควรทำ แต่ในช่วงที่จะเริ่มต้นการพูดคุยยังไม่มีความชัดเจนว่าฝ่ายที่มาคุยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้หรือไม่ การไปพูดล่วงหน้าจะยิ่งทำให้การทำงานยากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงาน ต้องรู้ถึงความละเอียดอ่อนของปัญหา พล.ท.ภราดร ก็ต้องทบทวน เพราะสมช. มีบทบาทมาตลอด ถ้ามั่นคงในแนวทางที่เคยทำปัญหาจะไม่เกิด
"เคยทราบมาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีความสนใจเรื่องโอกาสทางธุรกิจในพื้นที่ที่คาบเกี่ยวอยู่ จึงอยากเตือนว่าการดำเนินนโยบายความมั่นคงการต่างประเทศ อย่าเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจมาเป็นตัวนำ ส่วนรัฐบาลจะมีการทบทวนสิ่งเหล่านี้หรือไม่อยู่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องยืนยันผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนกรณีที่นายกฯ ปฏิเสธกับสื่อต่างชาติว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะผู้นำมาเลเชียก็ยอมรับในเรื่องนี้แล้ว จึงอยากให้นายกฯ พูดความจริงกับประชาชน เพราะถ้าไม่พูดความจริง สุดท้ายคำพูดก็จะไม่มีความหมาย ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญของประเทศหลายอย่างที่นายกฯ ต้องมีความชัดเจนและให้ความจริงกับประชาชน"
**"กรณ์"ยกฟอล์กแลนด์เป็นครูเตือนสติ"ปู"
นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล โดยเปรียบเทียบกับประชามติของประชากรบนเกาะฟอล์กแลนด์ ดินแดนของอังกฤษ ที่อยู่ห่างจากแผ่นดินแม่กว่า 13,000 กิโลเมตร โดยยกเหตุการณ์หลายกรณีที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการต่อสู้คดีอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อนบนปราสาทพระวิหาร เรื่องการเจรจาปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยเกรงว่าประเทศไทยต้องเสียพื้นที่เหล่านี้ไป
**"เหลิม"ป้อง"ภราดร"ไทยมีรัฐเดียว-ไม่แบ่ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.ท.ภราดร ระบุบทสรุปสุดท้ายในการแก้ปัญหาภาคใต้คือการตั้ง "มหานครรัฐปัตตานี" ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า ตนได้สอบถามเลขาธิการสมช.แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น เป็นการแปลความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ เลอะเทอะ ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย แล้วใครจะมาเรียกร้อง การลงนามกับนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นวันก่อน ก็ไม่ได้มีการเขียนข้อเสนอนี้ มีแค่กระดาษเปล่า ยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดเรื่องดังกล่าวแน่นอน
เมื่อถามว่า รัฐบาลได้ให้นโยบายกับคณะกรรมการที่จะไปเจรจากับแกนนำกลุ่มต่างๆ อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ให้เจรจาทำอย่างไรก็ได้ให้สงบเรียบร้อย ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรง และจะแบ่งแยกดินแดนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะรัฐไทยเป็นรัฐเดียวตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ตอนนี้พวกเพ้อฝันอิจฉา เพราะเรามาถูกทางแล้ว ทั่วโลกชื่นชมการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพูดคุยนายฮัสซัน ตอยิบ จนนำมาสู่เงื่อนไขการตั้งมหานครรัฐปัตตานี ร.ต.อ.เฉลิมย้อนถามว่า ใครบอก พ.ต.ท.ทักษิณรักบ้านรักเมือง จึงได้ไปประสานกับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ช่วยเรื่องนี้ เพราะท่านเป็นตำรวจเก่า รู้ดีว่าถ้ามาเลเซียไม่ให้ที่พักพิง ไม่สนับสนุน การแก้ปัญหาก็ทำได้ง่าย ส่วนแนวคิดตั้งมหานครปัตตานี ไม่มีใครคิด ยืนยันว่าไม่มี
**"ภราดร"ปัดตั้งมหานครปัตตานี
พล.ท.ภารดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นแห่งชาติ (สมช.) กล่าวก่อนเข้าประชุมเป็นการภายในของสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อหารือถึงข้อเสนอในการหารือกับกลุ่มบีอาร์เอ็นวันที่ 28 มี.ค.ว่า ยังไม่ไปถึงข้อเสนอเรื่องรัฐปัตตานี แต่เป็นเพียงการประเมินว่าฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบอาจมีความประสงค์จะสื่อสารมาในลักษณะนั้น ส่วนเรื่องรูปแบบการปกครองพิเศษ ก็ยังไม่มีการตกผลึก เพราะเมื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยื่นข้อเสนอมา หน่วยงานความมั่นคงต้องหารือก่อนและส่งให้ทางรัฐสภาพิจารณาต่อไป
สำหรับจุดยืนของรัฐบาลไทยต่อข้อเสนอเรื่องรัฐปัตตานี จะยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ส่วนเรื่องเรื่องการปกครองท้องถิ่นจะออกมาในรูปแบบใด คงยังไม่มีสามารถตอบได้ เพราะต้องหารือร่วมกับอีกหลายฝ่าย โดยเฉพาะต้องสอบถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ต้องเห็นพ้องต้องกัน และรับความเห็นจากรัฐสภาด้วย ดังนั้น กว่าเรื่องจะจบคงอีกนาน
ส่วนประเด็นการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นจะเข้ามาตรา 190 หรือไม่นั้น จะเป็นการพูดคุยที่ไม่มีข้อตกลง ไม่มีการบันทึกความเข้าใจ ไม่มีข้อผูกมัดและสัญญาใดๆ ยืนยันว่าไม่มีการลงนามอะไรเพิ่ม ซึ่งทางสมช.ได้หารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว
** ประชุมคัดเลือก 15 คนคุยรอบ 2
พล.ท.ภราดรกล่าวภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายชื่อคณะอนุกรรมการที่จะไปร่วมประชุมกันฝ่ายละ 15 คน แต่ในขณะนี้รายชื่อที่มียังเกินอยู่ และตนจะคัดเลือกให้เหลือ 15 คน ว่าจะเป็นใครบ้าง สำหรับประเด็นแรกที่จะคุยกัน คือ เรื่องของการหาทางออกเรื่องลดความรุนแรง ซึ่งหมายความว่าทางฝ่ายกองกำลังของเรายังไม่ได้ส่งตัวแทนเข้ามา เนื่องจากเป็นเรื่องของการปูทาง โดยจะใช้ในส่วนของภาคพลเรือน ฝ่ายประชาสังคม รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศก็จะส่งตัวแทนของร่วมพูดคุยด้วย
เมื่อถามว่าใน15คนของฝ่ายกลุ่มบีอาร์เอ็นจะมีการส่งแกนนำระดับใดมาหารือกับทางฝ่ายไทย เลขาธิการสมช. กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเห็นรายชื่อทั้งสองฝ่าย โดยคณะทำงานฝ่ายไทยจะมีตนเป็นหัวหน้าคณะถาวร แต่ในส่วนของลูกทีมจะมีการสับเปลี่ยนกันไปตามประเด็นที่จะพูดคุย แต่ยังคงมีตัวยืนหลักประมาณ 2-3 คน ซึ่งกรอบเจรจายังคงยืนอยู่ในหลักสันติวิธี ภายใต้รัฐธรรมนูญไทยเป็นหลัก ตามนโยบายที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มอบหมาย ส่วนรายละเอียด เมื่อมีการพูดคุยกัน ข้อเสนอของแต่ละฝ่ายจะเริ่มปรากฏชัด และจะกำหนดเป็นข้อยุติได้
เมื่อถามว่า มีกระแสว่า ในที่สุดการเจรจาจะนำไปสู่รัฐปัตตานี พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในข้อเท็จจริง รัฐปัตตานี เป็นการประเมินสถานการณ์ว่าเขาจะต้องหยิบยกมาพูดคุยกับเรา ที่ตรงนี้ยังไม่รู้ว่าข้อยุติในการปกครองที่เหมาะสมที่จะเขาจะหยิบยกมาจะเป็นอย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับการพูดคุย
***"ปู"นัดหารือกรอบถกบีอาร์เอ็น
นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการรายงานต่อนายกฯ ในวันพฤหัสที่ 14มี.ค.นี้ โดยเป็นการประชุมภายในกับนายกฯ เพื่อดูในกรอบต่างๆ ที่จะไปพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ร่วมกับสมช. และผบ.ทบ. แต่ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่พูดไปถึงเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นที่ปรากฎเป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลยึดหลักไม่มีการแบ่งแยกดินแดนใช่หรือไม่ นายสุรนันท์ กล่าวว่า ยึดหลักอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
**"นพดล"โต้"แม้ว"สั่งตั้งนครปัตตานี
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีเกี่ยวข้องกับการตั้งมหานครปัตตานี เพราะเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าว และขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการลงทุนด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊ส ตามที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแถลงข่าวโจมตีว่า พ.ต.ท.ทักษิณสั่งให้เดินหน้าตั้งมหานครปัตตานีเพื่อหวังผลประโยชน์ในบ่อน้ำมันและแก๊สในอ่าวไทย
“นายถาวรคงมีเวลาว่างในช่วงเป็นฝ่ายค้าน จึงแต่งนิยายขึ้นมา การจะตั้งหรือไม่ตั้งนครปัตตานี เป็นเรื่องที่คนที่เกี่ยวข้องจะไปพิจารณา ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีข้อเสนอของใครชัดเจน และนายถาวรไม่ควรมาบิดเบือนสร้างวาทกรรมให้คนกลัวแนวคิดนี้ เพื่อหวังผลทางการเมืองและโยนให้เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเรื่องเท็จและเหลวไหลทั้งสิ้น” นายนพดลกล่าว
ทั้งนี้ นายนพดลย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการลงทุนด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊ส หากนายถาวรมีหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีหุ้นในธุรกิจพลังงาน เช่น ในปตท. หรือในประเทศเพื่อนบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณจะยกหุ้นให้ทั้งหมด และจะบริจาคเงิน 10 ล้านบาทสมทบมูลนิธิคนปัญญาอ่อนอีกด้วย ถ้าไม่มีหลักฐาน นายถาวรควรรักษาเกียรติโดยออกมาขอโทษว่าพูดเท็จไปแล้วและขอให้เลิกนิสัยสร้างเรื่องเท็จใส่ร้ายผู้อื่นและหันมาร่วมมือกันแก้ปัญหานำสันติสุขมาสู่ภาคใต้จะดีกว่า
**9 กลุ่มเล็งร่วมวงเจรจาดับไฟใต้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ทางพล.ท.ภราดร ในฐานะหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ไทย พร้อมคณะจะเดินทางไปยังมาเลเซีย เพื่อพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ พล.ท.ภราดร ได้ลงนามร่วมแสดงเจตจำนงในการริเริ่มกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับนายฮัดซัน ตอยิบ รองเลขาธิการกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ศูนย์ฝึกตำรวจเมื่อวันที่ 28 กพ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทางมาเลเซียแจ้งทางฝ่ายไทยว่า มีกลุ่มที่ต้องการเข้าร่วมการเจรจา 9 กลุ่ม ประกอบด้วย พูโลเก่า, พูโลใหม่, พูโล 88 (รวม), บีอาร์เอ็น-คองเกรส, บีอาร์เอ็น-โคออดิเนท, บีไอพีพี, จีเอ็มไอพี (ขบวนการมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี), จีเอ็มพี, จียูพี (กลุ่มอูลามาปัตตานี) เนื่องจากกลุ่มต่างๆ ไม่อยากตกขบวน จึงพยายามติดต่อเข้มาพูดคุยหลายกลุ่ม เพราะกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เข้ามาเจรจากับไทยถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงสุดในพื้นที่ ซึ่งยอมออกมาตามการบีบของมาเลเซียให้พูดคุยกับไทย
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางการไทยแล้ว กลุ่มบีอาร์เอ็นบอกเราว่า สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้มีการก่อเหตุที่เบาบางลงแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า แกนนำที่มาพูดคุยกับเราสามารถควบคุมการปฏิบัติการของกำลังทหารของขบวนการได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในการจัดทำโรดแมปเพื่อนำไปสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่า ต้องใช้เวลาและต้องพูดคุยกับแกนนำซึ่งคุมกำลังทหารของขบวนการ และอาร์เคเค เพื่อหยุดการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ให้เกิดภาพชัดเจน โดยการพูดคุยไม่สามารถทำอย่างเปิดเผยได้ เพราะคนเหล่านั้นมีหมายจับ เช่น ดุลเลาะห์ แวมานอ แกนนำบีอาร์เอ็นคุมฝ่ยทหาร อดีตอุสต๊าด รร.ญิฮาดวิทยา ที่หนีหมายจับของประเทศไทยไปตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่คณะการพูดคุยของไทยจะไปเจรจาในทางลับ รวมถึงบุคคลสำคัญที่คุมระดับปฏิบัติการในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในประเทศไทย
**คุมเข้มวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาสว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในทุกจุด โดยเฉพาะตามสถานที่ชุมชน สวนสาธารณะ สถานที่ราชการและโรงเรียน รวมถึงมีการตั้งจุดตรวจลอยทั้งถนนสายหลักและสายรอง เพื่อเรียกตรวจรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกคัน
อย่างไรก็ตาม การดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในครั้งนี้ เนื่องจากทาง กอ.รมนงภาค 4 ส่วนหน้า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น เนื่องในวันสัญลักษณ์หรือวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "คำนูณ สิทธิสมาน" ถึงสถานการณ์การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยบอกใบ้ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในวัย 81 ปี
"แม้จะยังไม่ลงตัว แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า พล.อ.ชวลิต จะกลับมาเป็นรองนายกฯ ในวัย 81 เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ดอกไม้หลากสี มหานครปัตตานี ให้เป็นจริง แรงหนุนส่วนหนึ่ง เชื่อว่ามาจากแกนนำ BRN ที่เข้าร่วมกระบวนการพูดคุยสันติภาพ"
**แฉพ.ร.ฏ.องค์กรมหาชนเอื้อนครปัตตานี
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ แถลงถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) จัดตั้งสถาบันส่งเสริมการฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่นและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (องค์กรมหาชน) พ.ศ. ... ที่จะบังคับใช้ในจังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และสงขลา ในบางพื้นที่ว่า ตนทราบมาว่า รัฐบาลจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเร่งด่วน เพื่อประกาศใช้ในราชกิจานุเบกษา แต่ตนอยากขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ทบทวนเรื่องนี้ เนื่องจากเพราะองค์กรดังกล่าวจะมีภารกิจซ้ำซ้อนกับศอ.บต. และการจัดนำเงินของรัฐบาลเป็นรายปีมาให้กับองค์กรมหาชนนั้น ง่ายต่อการทุจริต และการนำเงินไปสนับสนุนโจรแบ่งแยกดินแดน ที่สำคัญจะเป็นองค์กรที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เชื่อมโยงองค์กรต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ถูกครอบงำได้ง่าย นอกจากนี้ องค์กรมหาชน มีผู้บริหารเพียง 8 คน และผอ. 1 คน ยากต่อการตรวจสอบ เพราะไม่มีระเบียบให้ ส.ส.เข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณได้
“องค์กรมหาชนที่ตั้งขึ้น ไปสอดคล้องกับแนวคิดนครรัฐปัตตานี ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลัง ถ้าเมื่อไรที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.นิพัฒน์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศอ.บต. รับงานมาจากพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องกลับไปถามประชาชนทั้ง 65 ล้านคนก่อนว่า การจัดตั้งเขตปกครองพิเศษนครรัฐปัตตานี ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ หรือนี่เป็นเพียงการไถ่บาปของคนที่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ”นายถาวรกล่าว
นอกจากนี้ ตนทราบมาว่า จะมีการซื้อโรงแรมชางลี จ.ยะลา ซึ่งเป็นโรงแรมที่ปิดกิจการไปแล้ว เพื่อนำมาปรับปรุงใหม่ทั้งหมด จึงอยากถามไปยังพ.ต.อ.ทวีว่าจริงหรือไม่ และในสัปดาห์หน้า ตนจะประชุมส.ส.ภาคใต้ ของพรรค เพื่อหาแนวทางตัดสินใจร่วมกันว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งคาดว่าจะยื่นเป็นญัตติเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพราะต้องการชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
**" มาร์ค"ตบปาก"ภราดร"อย่าด่วนสรุป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงเรื่องนครปัตตานี แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่ตอบรับ เพราะเขาต้องการความเป็นธรรม และต้องการมีส่วนร่วม แต่สูตรสำเร็จที่พูดกันอยู่ขณะนี้ เป็นเชิงสัญลักษณ์มากกว่า หากตั้งสมมุติฐานผิดก็จะแก้ปัญหาไม่ได้ ตนไม่ได้บอกว่าการมีรูปแบบกระจายอำนาจพิเศษไม่ควรทำ แต่ในช่วงที่จะเริ่มต้นการพูดคุยยังไม่มีความชัดเจนว่าฝ่ายที่มาคุยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้หรือไม่ การไปพูดล่วงหน้าจะยิ่งทำให้การทำงานยากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงาน ต้องรู้ถึงความละเอียดอ่อนของปัญหา พล.ท.ภราดร ก็ต้องทบทวน เพราะสมช. มีบทบาทมาตลอด ถ้ามั่นคงในแนวทางที่เคยทำปัญหาจะไม่เกิด
"เคยทราบมาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีความสนใจเรื่องโอกาสทางธุรกิจในพื้นที่ที่คาบเกี่ยวอยู่ จึงอยากเตือนว่าการดำเนินนโยบายความมั่นคงการต่างประเทศ อย่าเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจมาเป็นตัวนำ ส่วนรัฐบาลจะมีการทบทวนสิ่งเหล่านี้หรือไม่อยู่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องยืนยันผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนกรณีที่นายกฯ ปฏิเสธกับสื่อต่างชาติว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะผู้นำมาเลเชียก็ยอมรับในเรื่องนี้แล้ว จึงอยากให้นายกฯ พูดความจริงกับประชาชน เพราะถ้าไม่พูดความจริง สุดท้ายคำพูดก็จะไม่มีความหมาย ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญของประเทศหลายอย่างที่นายกฯ ต้องมีความชัดเจนและให้ความจริงกับประชาชน"
**"กรณ์"ยกฟอล์กแลนด์เป็นครูเตือนสติ"ปู"
นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล โดยเปรียบเทียบกับประชามติของประชากรบนเกาะฟอล์กแลนด์ ดินแดนของอังกฤษ ที่อยู่ห่างจากแผ่นดินแม่กว่า 13,000 กิโลเมตร โดยยกเหตุการณ์หลายกรณีที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการต่อสู้คดีอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อนบนปราสาทพระวิหาร เรื่องการเจรจาปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยเกรงว่าประเทศไทยต้องเสียพื้นที่เหล่านี้ไป
**"เหลิม"ป้อง"ภราดร"ไทยมีรัฐเดียว-ไม่แบ่ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.ท.ภราดร ระบุบทสรุปสุดท้ายในการแก้ปัญหาภาคใต้คือการตั้ง "มหานครรัฐปัตตานี" ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า ตนได้สอบถามเลขาธิการสมช.แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น เป็นการแปลความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ เลอะเทอะ ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย แล้วใครจะมาเรียกร้อง การลงนามกับนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นวันก่อน ก็ไม่ได้มีการเขียนข้อเสนอนี้ มีแค่กระดาษเปล่า ยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดเรื่องดังกล่าวแน่นอน
เมื่อถามว่า รัฐบาลได้ให้นโยบายกับคณะกรรมการที่จะไปเจรจากับแกนนำกลุ่มต่างๆ อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ให้เจรจาทำอย่างไรก็ได้ให้สงบเรียบร้อย ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรง และจะแบ่งแยกดินแดนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะรัฐไทยเป็นรัฐเดียวตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ตอนนี้พวกเพ้อฝันอิจฉา เพราะเรามาถูกทางแล้ว ทั่วโลกชื่นชมการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพูดคุยนายฮัสซัน ตอยิบ จนนำมาสู่เงื่อนไขการตั้งมหานครรัฐปัตตานี ร.ต.อ.เฉลิมย้อนถามว่า ใครบอก พ.ต.ท.ทักษิณรักบ้านรักเมือง จึงได้ไปประสานกับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ช่วยเรื่องนี้ เพราะท่านเป็นตำรวจเก่า รู้ดีว่าถ้ามาเลเซียไม่ให้ที่พักพิง ไม่สนับสนุน การแก้ปัญหาก็ทำได้ง่าย ส่วนแนวคิดตั้งมหานครปัตตานี ไม่มีใครคิด ยืนยันว่าไม่มี
**"ภราดร"ปัดตั้งมหานครปัตตานี
พล.ท.ภารดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นแห่งชาติ (สมช.) กล่าวก่อนเข้าประชุมเป็นการภายในของสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อหารือถึงข้อเสนอในการหารือกับกลุ่มบีอาร์เอ็นวันที่ 28 มี.ค.ว่า ยังไม่ไปถึงข้อเสนอเรื่องรัฐปัตตานี แต่เป็นเพียงการประเมินว่าฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบอาจมีความประสงค์จะสื่อสารมาในลักษณะนั้น ส่วนเรื่องรูปแบบการปกครองพิเศษ ก็ยังไม่มีการตกผลึก เพราะเมื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยื่นข้อเสนอมา หน่วยงานความมั่นคงต้องหารือก่อนและส่งให้ทางรัฐสภาพิจารณาต่อไป
สำหรับจุดยืนของรัฐบาลไทยต่อข้อเสนอเรื่องรัฐปัตตานี จะยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ส่วนเรื่องเรื่องการปกครองท้องถิ่นจะออกมาในรูปแบบใด คงยังไม่มีสามารถตอบได้ เพราะต้องหารือร่วมกับอีกหลายฝ่าย โดยเฉพาะต้องสอบถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ต้องเห็นพ้องต้องกัน และรับความเห็นจากรัฐสภาด้วย ดังนั้น กว่าเรื่องจะจบคงอีกนาน
ส่วนประเด็นการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นจะเข้ามาตรา 190 หรือไม่นั้น จะเป็นการพูดคุยที่ไม่มีข้อตกลง ไม่มีการบันทึกความเข้าใจ ไม่มีข้อผูกมัดและสัญญาใดๆ ยืนยันว่าไม่มีการลงนามอะไรเพิ่ม ซึ่งทางสมช.ได้หารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว
** ประชุมคัดเลือก 15 คนคุยรอบ 2
พล.ท.ภราดรกล่าวภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายชื่อคณะอนุกรรมการที่จะไปร่วมประชุมกันฝ่ายละ 15 คน แต่ในขณะนี้รายชื่อที่มียังเกินอยู่ และตนจะคัดเลือกให้เหลือ 15 คน ว่าจะเป็นใครบ้าง สำหรับประเด็นแรกที่จะคุยกัน คือ เรื่องของการหาทางออกเรื่องลดความรุนแรง ซึ่งหมายความว่าทางฝ่ายกองกำลังของเรายังไม่ได้ส่งตัวแทนเข้ามา เนื่องจากเป็นเรื่องของการปูทาง โดยจะใช้ในส่วนของภาคพลเรือน ฝ่ายประชาสังคม รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศก็จะส่งตัวแทนของร่วมพูดคุยด้วย
เมื่อถามว่าใน15คนของฝ่ายกลุ่มบีอาร์เอ็นจะมีการส่งแกนนำระดับใดมาหารือกับทางฝ่ายไทย เลขาธิการสมช. กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเห็นรายชื่อทั้งสองฝ่าย โดยคณะทำงานฝ่ายไทยจะมีตนเป็นหัวหน้าคณะถาวร แต่ในส่วนของลูกทีมจะมีการสับเปลี่ยนกันไปตามประเด็นที่จะพูดคุย แต่ยังคงมีตัวยืนหลักประมาณ 2-3 คน ซึ่งกรอบเจรจายังคงยืนอยู่ในหลักสันติวิธี ภายใต้รัฐธรรมนูญไทยเป็นหลัก ตามนโยบายที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มอบหมาย ส่วนรายละเอียด เมื่อมีการพูดคุยกัน ข้อเสนอของแต่ละฝ่ายจะเริ่มปรากฏชัด และจะกำหนดเป็นข้อยุติได้
เมื่อถามว่า มีกระแสว่า ในที่สุดการเจรจาจะนำไปสู่รัฐปัตตานี พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในข้อเท็จจริง รัฐปัตตานี เป็นการประเมินสถานการณ์ว่าเขาจะต้องหยิบยกมาพูดคุยกับเรา ที่ตรงนี้ยังไม่รู้ว่าข้อยุติในการปกครองที่เหมาะสมที่จะเขาจะหยิบยกมาจะเป็นอย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับการพูดคุย
***"ปู"นัดหารือกรอบถกบีอาร์เอ็น
นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการรายงานต่อนายกฯ ในวันพฤหัสที่ 14มี.ค.นี้ โดยเป็นการประชุมภายในกับนายกฯ เพื่อดูในกรอบต่างๆ ที่จะไปพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ร่วมกับสมช. และผบ.ทบ. แต่ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่พูดไปถึงเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นที่ปรากฎเป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลยึดหลักไม่มีการแบ่งแยกดินแดนใช่หรือไม่ นายสุรนันท์ กล่าวว่า ยึดหลักอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
**"นพดล"โต้"แม้ว"สั่งตั้งนครปัตตานี
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีเกี่ยวข้องกับการตั้งมหานครปัตตานี เพราะเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าว และขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการลงทุนด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊ส ตามที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแถลงข่าวโจมตีว่า พ.ต.ท.ทักษิณสั่งให้เดินหน้าตั้งมหานครปัตตานีเพื่อหวังผลประโยชน์ในบ่อน้ำมันและแก๊สในอ่าวไทย
“นายถาวรคงมีเวลาว่างในช่วงเป็นฝ่ายค้าน จึงแต่งนิยายขึ้นมา การจะตั้งหรือไม่ตั้งนครปัตตานี เป็นเรื่องที่คนที่เกี่ยวข้องจะไปพิจารณา ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีข้อเสนอของใครชัดเจน และนายถาวรไม่ควรมาบิดเบือนสร้างวาทกรรมให้คนกลัวแนวคิดนี้ เพื่อหวังผลทางการเมืองและโยนให้เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเรื่องเท็จและเหลวไหลทั้งสิ้น” นายนพดลกล่าว
ทั้งนี้ นายนพดลย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการลงทุนด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊ส หากนายถาวรมีหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีหุ้นในธุรกิจพลังงาน เช่น ในปตท. หรือในประเทศเพื่อนบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณจะยกหุ้นให้ทั้งหมด และจะบริจาคเงิน 10 ล้านบาทสมทบมูลนิธิคนปัญญาอ่อนอีกด้วย ถ้าไม่มีหลักฐาน นายถาวรควรรักษาเกียรติโดยออกมาขอโทษว่าพูดเท็จไปแล้วและขอให้เลิกนิสัยสร้างเรื่องเท็จใส่ร้ายผู้อื่นและหันมาร่วมมือกันแก้ปัญหานำสันติสุขมาสู่ภาคใต้จะดีกว่า
**9 กลุ่มเล็งร่วมวงเจรจาดับไฟใต้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ทางพล.ท.ภราดร ในฐานะหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ไทย พร้อมคณะจะเดินทางไปยังมาเลเซีย เพื่อพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ พล.ท.ภราดร ได้ลงนามร่วมแสดงเจตจำนงในการริเริ่มกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับนายฮัดซัน ตอยิบ รองเลขาธิการกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ศูนย์ฝึกตำรวจเมื่อวันที่ 28 กพ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทางมาเลเซียแจ้งทางฝ่ายไทยว่า มีกลุ่มที่ต้องการเข้าร่วมการเจรจา 9 กลุ่ม ประกอบด้วย พูโลเก่า, พูโลใหม่, พูโล 88 (รวม), บีอาร์เอ็น-คองเกรส, บีอาร์เอ็น-โคออดิเนท, บีไอพีพี, จีเอ็มไอพี (ขบวนการมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี), จีเอ็มพี, จียูพี (กลุ่มอูลามาปัตตานี) เนื่องจากกลุ่มต่างๆ ไม่อยากตกขบวน จึงพยายามติดต่อเข้มาพูดคุยหลายกลุ่ม เพราะกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เข้ามาเจรจากับไทยถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงสุดในพื้นที่ ซึ่งยอมออกมาตามการบีบของมาเลเซียให้พูดคุยกับไทย
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางการไทยแล้ว กลุ่มบีอาร์เอ็นบอกเราว่า สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้มีการก่อเหตุที่เบาบางลงแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า แกนนำที่มาพูดคุยกับเราสามารถควบคุมการปฏิบัติการของกำลังทหารของขบวนการได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในการจัดทำโรดแมปเพื่อนำไปสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่า ต้องใช้เวลาและต้องพูดคุยกับแกนนำซึ่งคุมกำลังทหารของขบวนการ และอาร์เคเค เพื่อหยุดการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ให้เกิดภาพชัดเจน โดยการพูดคุยไม่สามารถทำอย่างเปิดเผยได้ เพราะคนเหล่านั้นมีหมายจับ เช่น ดุลเลาะห์ แวมานอ แกนนำบีอาร์เอ็นคุมฝ่ยทหาร อดีตอุสต๊าด รร.ญิฮาดวิทยา ที่หนีหมายจับของประเทศไทยไปตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่คณะการพูดคุยของไทยจะไปเจรจาในทางลับ รวมถึงบุคคลสำคัญที่คุมระดับปฏิบัติการในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในประเทศไทย
**คุมเข้มวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาสว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในทุกจุด โดยเฉพาะตามสถานที่ชุมชน สวนสาธารณะ สถานที่ราชการและโรงเรียน รวมถึงมีการตั้งจุดตรวจลอยทั้งถนนสายหลักและสายรอง เพื่อเรียกตรวจรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกคัน
อย่างไรก็ตาม การดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในครั้งนี้ เนื่องจากทาง กอ.รมนงภาค 4 ส่วนหน้า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น เนื่องในวันสัญลักษณ์หรือวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น