“เรืองไกร” โต้จองล้างจองผลาญ ปชป. อ้างทำผิดจริงจนต้องร้องเรียน ขุดแถลงตั้ง 31 กุนซือผิด กม.ชัด เล็งถอดเทปปราศรัย “จุรินทร์” หวังถึงขั้นยุบพรรค “พร้อมพงศ์” จ่อยื่น กกต.เหตุ “จูดี้” ถูกด่าขโมยวิทยุสมัยเรียนนอก “องอาจ” ยันไม่เคยป้ายสี พร้อมแจง กกต.แสดงความบริสุทธิ์ “อภิสิทธิ์” เผย “ชวนนท์” มีลุ้นนั่งรองผู้ว่าฯ ร่วม “จุมพล - อัศวิน - กนก - ผุสดี”
วานนี้ (10 มี.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ยื่นเรื่องร้องเรียน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ฝ่ายเดียว และหวังสกัดกั้นการรับรองผลการเลือกตั้งว่า สาเหตุที่ต้องยื่นตรวจสอบ เพราะเห็นว่ามีการกระทำขัดต่อกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องที่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมหน้าตั้งแต่หัวหน้าพรรคยันผู้บริหารพรรค ว่าจะตั้งทีมที่ปรึกษาถึง 31 คน ทั้งที่กฎหมายกำหนดให้ตั้งที่ปรึกษาได้เพียง 9 คน พรรคประชาธิปัตย์ น่าจะรู้ข้อกฎหมายดีว่าทำอะไรได้แค่ไหน อีกทั้ง นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังนำรูปภาพของทั้ง 31 คนไปโพสต์ลงเฟซบุ๊คอีก ซึ่งกรณีลักษณะแบบนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยมีบรรทัดฐานไว้แล้ว และไม่ว่าจะเกิดกับพรรคไหนตนร้องหมด ไม่เช่นนั้นตนจะร้อง กกต.เอาผิดนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ อย่างนั้นหรือ
“ที่บอกว่าผมจับผิดนั้นถูก เพราะคุณทำผิด แต่ถ้าทำถูกแล้วไปจับผิดค่อยมาด่าผม แต่นี่เห็นว่าทำผิดก็ต้องร้องเรียน เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำไมถึงรอดได้ตลอด ไม่เหมือนคุณสมัคร (นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ) หรือพรรคการเมืองอื่น และไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ ผมกำลังถอดเทปการปราศรัยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์อย่างละเอียด เพราะเห็นว่าเข้าข่ายความผิดถึงขั้นยุบพรรค ส่วนพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการก็เรื่องของเขา แต่ผมก็ดำเนินการในส่วนของผม” นายเรืองไกรกล่าว
ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะอดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ในมาตรา 49 กำหนดถึงอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. และมาตรา 57 การแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมือง มีเงินเดือน สามารถแต่งตั้งได้ 9 คนเท่านั้น แต่การเปิดแถลงข่าวของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะตั้งทีมที่ปรึกษาถึง 31 คน ดูผิวเผินอาจไม่มีปัญหา เพราะเป็นการเปิดตัวทีมงาน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วตั้งไม่ได้ การเปิดตัวบนเวทีเช่นนั้นอาจเข้าข่ายการสร้างความเข้าใจผิด ซึ่งมีผลต่อคะแนนนิยมในตัวผู้สมัครได้ จึงมีผลต่อการลงคะแนน ทราบว่ามีผู้ยื่นร้องแล้ว
** พท.จ่อยื่น ปชป.ด่า “จูดี้” ขโมยวิทยุ
ที่พรรคเพื่อไทย ในระหว่างการแถลงข่าว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เปิดคลิปวีดีโอการปราศรัยช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงผู้ว่า กทม. โดยอ้างว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ 9 คนกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามมาตรา 57 ในกรณีการใส่ร้ายป้ายสี ใช้วาทะกรรมทางการเมืองกล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหาว่าไปขโมยของในช่วงที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ
จากนั้น นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 มี.ค.ะได้ข้อสรุปว่าจะยื่นต่อ กกต.เพื่อเอาผิดกับพรรคประชาธิปัตย์เมื่อใด ยืนยันการตรวจสอบครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการเตะถ่วงหรือขี้แพ้ชวนตีแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่มีการตัดต่อคลิปวีดีโอด้วย
** “องอาจ” เหน็บพูดความจริงแทงใจ
อีกด้าน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตลอดเวลาการหาเสียงในฐานะเป็น ผอ.ได้พยายามระมัดระวังไม่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นใด แต่พยายามรณรงค์หาเสียงตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และอยู่ในกรอบของกฎหมาย สำหรับข้อกล่าวหาว่าใส่ร้ายป้ายสี ขอยืนยันว่าการปราศรัยส่วนมากเน้นเรื่องความจริงเป็นหลักการเสนอข้อมูลบนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสีแต่อย่างใด แต่อาจมีคนบางกลุ่มไม่พอใจความจริง ก็อาจมองเป็นอย่างอื่น อยู่ที่ดุลยพินิจ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นรณรงค์หาเสียงบนพื้นฐานความจริง จึงไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสีแต่อย่างใด
ส่วนข้อกล่าวหาอื่นที่พรรคเพื่อไทยและบุคคลอื่นแสดงความจำนงจะไปยื่นคำร้องเพื่อไม่ให้รับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่า กทม.นั้น นายองอาจ กล่าวว่า ทางพรรคและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังไม่รับทราบคำร้องว่ามีรายละเอียดอย่างไร นอกเหนือจากที่ปรากฏตามข่าวเท่านั้น แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องไปที่ กกต.มีการสอบสวนเรื่องนี้ พรรคก็พร้อมที่จะไปให้ข้อมูลที่เป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของ กกต.
** “มาร์ค” แย้ม “ชวนนท์” คั่วรองผู้ว่าฯ
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยกำลังรวบรวมคำปราศรัยบนเวทีหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ กว่า 7 ชั่วโมงเพื่อยื่นเรื่องร้อง กกต.ว่า พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ร้องเรียน แต่ยืนยันว่าทุกคำปราศรัยเป็นความจริง ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี แต่ถ้าไปตัดต่อก็ขอให้ระวัง เพราะโทษการกลั่นแกล้งจะหนักกว่า ทั้งนี้ กกต.เป็นผู้รับเรื่อง แต่เข้าใจว่าเรื่องที่ยื่นทีหลังคงพิจารณาหลังการรับรองผลผลการเลือกตั้งไปแล้ว และหาก กกต. รับเรื่องแล้ว ก็คงจะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ไปชี้แจง ซึ่งเรามีสิทธิ์ที่จะรับทราบว่า พรรคเพื่อไทยนำข้อมูลใดไปร้องเรียนบ้าง
ขณะที่ความคืบหน้าในการวางบุคคลากรไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่า ระหว่างนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กำลังพูดคุยกับบุคคลที่อยู่ในข่าย และคงต้องพูดคุยกันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการจัดวางตัวบุคคลคืบหน้าไปมาก แต่ทุกคนต้องคุยกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก่อน ทั้งนี้การเปิดเผยรายชื่อทีมผู้บริหารอาจจะไม่ครบทั้ง 18 ตำแหน่ง แต่จะเปิดเผยตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.พร้อมกัน ส่วนตำแหน่งเลขา ผู้ช่วย และที่ปรึกษา อาจไม่ประกาศพร้อมกัน เพราะมีจำนวนมาก และต้องรอให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งก่อน เพราะต้องให้มีสถานะผู้ว่าฯกทม.ก่อน โดยขณะนี้ไม่มีอุปสรรคในการพิจารณารายชื่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดี
** “อัศวิน ขวัญเมือง” โผล่คั่วรองผู้ว่าฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของรายชื่อรองผู้ว่าฯกทม.ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์พิจารณาอยู่ในขณะนี้ อาทิ นายจุมพล สำเภาพล รองปลัด กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตที่ปรึกษา สบ.10 รอง ผบ.ตร. นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนรองผู้ว่าฯกทม.ผู้หญิง 1 ตำแหน่งที่นายอภสิทธิ์เคยกล่าวไว้นั้น นอกจาก นางผุสดี ตามไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ แล้วยังมีรายชื่อบุคคลภายนอกพรรคที่อยู่ระหว่างทาบทามด้วย.
วานนี้ (10 มี.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ยื่นเรื่องร้องเรียน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ฝ่ายเดียว และหวังสกัดกั้นการรับรองผลการเลือกตั้งว่า สาเหตุที่ต้องยื่นตรวจสอบ เพราะเห็นว่ามีการกระทำขัดต่อกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องที่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมหน้าตั้งแต่หัวหน้าพรรคยันผู้บริหารพรรค ว่าจะตั้งทีมที่ปรึกษาถึง 31 คน ทั้งที่กฎหมายกำหนดให้ตั้งที่ปรึกษาได้เพียง 9 คน พรรคประชาธิปัตย์ น่าจะรู้ข้อกฎหมายดีว่าทำอะไรได้แค่ไหน อีกทั้ง นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังนำรูปภาพของทั้ง 31 คนไปโพสต์ลงเฟซบุ๊คอีก ซึ่งกรณีลักษณะแบบนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยมีบรรทัดฐานไว้แล้ว และไม่ว่าจะเกิดกับพรรคไหนตนร้องหมด ไม่เช่นนั้นตนจะร้อง กกต.เอาผิดนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ อย่างนั้นหรือ
“ที่บอกว่าผมจับผิดนั้นถูก เพราะคุณทำผิด แต่ถ้าทำถูกแล้วไปจับผิดค่อยมาด่าผม แต่นี่เห็นว่าทำผิดก็ต้องร้องเรียน เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำไมถึงรอดได้ตลอด ไม่เหมือนคุณสมัคร (นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ) หรือพรรคการเมืองอื่น และไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ ผมกำลังถอดเทปการปราศรัยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์อย่างละเอียด เพราะเห็นว่าเข้าข่ายความผิดถึงขั้นยุบพรรค ส่วนพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการก็เรื่องของเขา แต่ผมก็ดำเนินการในส่วนของผม” นายเรืองไกรกล่าว
ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะอดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ในมาตรา 49 กำหนดถึงอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. และมาตรา 57 การแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมือง มีเงินเดือน สามารถแต่งตั้งได้ 9 คนเท่านั้น แต่การเปิดแถลงข่าวของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะตั้งทีมที่ปรึกษาถึง 31 คน ดูผิวเผินอาจไม่มีปัญหา เพราะเป็นการเปิดตัวทีมงาน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วตั้งไม่ได้ การเปิดตัวบนเวทีเช่นนั้นอาจเข้าข่ายการสร้างความเข้าใจผิด ซึ่งมีผลต่อคะแนนนิยมในตัวผู้สมัครได้ จึงมีผลต่อการลงคะแนน ทราบว่ามีผู้ยื่นร้องแล้ว
** พท.จ่อยื่น ปชป.ด่า “จูดี้” ขโมยวิทยุ
ที่พรรคเพื่อไทย ในระหว่างการแถลงข่าว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เปิดคลิปวีดีโอการปราศรัยช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงผู้ว่า กทม. โดยอ้างว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ 9 คนกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามมาตรา 57 ในกรณีการใส่ร้ายป้ายสี ใช้วาทะกรรมทางการเมืองกล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหาว่าไปขโมยของในช่วงที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ
จากนั้น นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 มี.ค.ะได้ข้อสรุปว่าจะยื่นต่อ กกต.เพื่อเอาผิดกับพรรคประชาธิปัตย์เมื่อใด ยืนยันการตรวจสอบครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการเตะถ่วงหรือขี้แพ้ชวนตีแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่มีการตัดต่อคลิปวีดีโอด้วย
** “องอาจ” เหน็บพูดความจริงแทงใจ
อีกด้าน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตลอดเวลาการหาเสียงในฐานะเป็น ผอ.ได้พยายามระมัดระวังไม่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นใด แต่พยายามรณรงค์หาเสียงตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และอยู่ในกรอบของกฎหมาย สำหรับข้อกล่าวหาว่าใส่ร้ายป้ายสี ขอยืนยันว่าการปราศรัยส่วนมากเน้นเรื่องความจริงเป็นหลักการเสนอข้อมูลบนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสีแต่อย่างใด แต่อาจมีคนบางกลุ่มไม่พอใจความจริง ก็อาจมองเป็นอย่างอื่น อยู่ที่ดุลยพินิจ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นรณรงค์หาเสียงบนพื้นฐานความจริง จึงไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสีแต่อย่างใด
ส่วนข้อกล่าวหาอื่นที่พรรคเพื่อไทยและบุคคลอื่นแสดงความจำนงจะไปยื่นคำร้องเพื่อไม่ให้รับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่า กทม.นั้น นายองอาจ กล่าวว่า ทางพรรคและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังไม่รับทราบคำร้องว่ามีรายละเอียดอย่างไร นอกเหนือจากที่ปรากฏตามข่าวเท่านั้น แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องไปที่ กกต.มีการสอบสวนเรื่องนี้ พรรคก็พร้อมที่จะไปให้ข้อมูลที่เป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของ กกต.
** “มาร์ค” แย้ม “ชวนนท์” คั่วรองผู้ว่าฯ
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยกำลังรวบรวมคำปราศรัยบนเวทีหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ กว่า 7 ชั่วโมงเพื่อยื่นเรื่องร้อง กกต.ว่า พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ร้องเรียน แต่ยืนยันว่าทุกคำปราศรัยเป็นความจริง ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี แต่ถ้าไปตัดต่อก็ขอให้ระวัง เพราะโทษการกลั่นแกล้งจะหนักกว่า ทั้งนี้ กกต.เป็นผู้รับเรื่อง แต่เข้าใจว่าเรื่องที่ยื่นทีหลังคงพิจารณาหลังการรับรองผลผลการเลือกตั้งไปแล้ว และหาก กกต. รับเรื่องแล้ว ก็คงจะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ไปชี้แจง ซึ่งเรามีสิทธิ์ที่จะรับทราบว่า พรรคเพื่อไทยนำข้อมูลใดไปร้องเรียนบ้าง
ขณะที่ความคืบหน้าในการวางบุคคลากรไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่า ระหว่างนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กำลังพูดคุยกับบุคคลที่อยู่ในข่าย และคงต้องพูดคุยกันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการจัดวางตัวบุคคลคืบหน้าไปมาก แต่ทุกคนต้องคุยกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก่อน ทั้งนี้การเปิดเผยรายชื่อทีมผู้บริหารอาจจะไม่ครบทั้ง 18 ตำแหน่ง แต่จะเปิดเผยตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.พร้อมกัน ส่วนตำแหน่งเลขา ผู้ช่วย และที่ปรึกษา อาจไม่ประกาศพร้อมกัน เพราะมีจำนวนมาก และต้องรอให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งก่อน เพราะต้องให้มีสถานะผู้ว่าฯกทม.ก่อน โดยขณะนี้ไม่มีอุปสรรคในการพิจารณารายชื่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดี
** “อัศวิน ขวัญเมือง” โผล่คั่วรองผู้ว่าฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของรายชื่อรองผู้ว่าฯกทม.ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์พิจารณาอยู่ในขณะนี้ อาทิ นายจุมพล สำเภาพล รองปลัด กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตที่ปรึกษา สบ.10 รอง ผบ.ตร. นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนรองผู้ว่าฯกทม.ผู้หญิง 1 ตำแหน่งที่นายอภสิทธิ์เคยกล่าวไว้นั้น นอกจาก นางผุสดี ตามไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ แล้วยังมีรายชื่อบุคคลภายนอกพรรคที่อยู่ระหว่างทาบทามด้วย.