“สุริยะใส” ระบุ คำปราศรัย “ไร้รอยต่อ” ของ “นายกฯยิ่งลักษณ์” ส่อผิดกฎหมายเลือกตั้ง และ รัฐธรรมนูญ ใช้ตำแหน่งให้คุณให้โทษผู้สมัคร จงใจให้ประชาชนเข้าใจผิด ถ้าเลือกผู้ว่าฯ กทม.เบอร์อื่น หลายโครงการทำไม่ได้และมีปัญหากับรัฐบาล เตรียมให้ฝ่าย กม.ดูข้อเท็จจริง อาจยื่น กกต.สอบพฤติการณ์ดังกล่าว
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า การเดินสายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเพื่อช่วยหาเสียงให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทยกำลังส่อว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะปราศรัยในทำนองว่า ถ้าเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 จะใช้นโยบายรัฐบาลกับ กทม.ประสานกันแบบไร้รอยต่อ
นายสุริยะใส กล่าวว่า การปราศรัยเช่นนี้ หมายความว่า รัฐบาลคิดทำอะไร สร้างอะไร ก็จะเชื่อมโยงโครงการนั้นเข้าด้วยกัน โดยไม่มีปัญหาโต้แย้งซึ่งกันและกันเลย เช่น จะได้รถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกหลายสาย จะได้รถเมล์ฟรี จะได้โครงการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสิ้น เพราะการใช้งบประมาณในโครงการใหญ่ๆ เช่นนี้ ถึงแม้ผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นบุคคลอื่นหรือพรรคอื่นมาเป็นก็ต้องทำอยู่แล้ว เพราะมีโครงการมาก่อน ลำพังแต่การใช้งบประมาณของ กทม.จะทำไม่ได้อย่างแน่นอน
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี เป็นการพูดหาเสียงให้ผู้สมัครหมายเลข 9 โดย เป็นการไปแสดงตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี ดังจะเห็นได้จากคำพูดของ พิธีกรบนเวที ได้เรียกเชิญด้วยคำว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ซึ่งการพูดหาเสียงในฐานะนายกรัฐมนตรีก็เท่ากับเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะที่เป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตามความหมายใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
นอกจากนี้ในการนำเสนอนโยบายการทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ คือผู้สมัครหมายเลข 9 ที่เรียกว่า การทำงานแบบไร้รอยต่อ พร้อมยกตัวอย่างโครงการรถไฟฟ้า ติดตั้งไฟส่องสว่าง รักษา 30 บาทรักษาทุกโรค เหล่านี้เมื่อประชาชนได้ฟังแล้ว ย่อมจะเข้าใจได้ว่า ถ้าเลือกเบอร์ 9 จะใช้นโยบายทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ แต่ถ้าเลือกเบอร์อื่น การทำงานก็จะมีรอยต่อคือ ไม่สามารถประสานกันได้ ถ้าเลือกเบอร์ 9 จะได้สิ่งต่างๆ ที่เสนอไว้ให้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเลือกเบอร์อื่นๆ จะไม่ได้สิ่งใดทั้งสิ้น ถ้าเบอร์ 9 ได้รับเลือกเป็นผู้ว่า กทม.ขออะไรไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร่วมมือกัน ประสานงานกัน หรือขอสนับสนุนงบประมาณหรือโครงการใดๆ สามารถขอได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าไปเลือกเบอร์อื่นๆ ได้รับเลือกก็จะขออะไรมิได้เลย
“คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์อาจเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือ การนำเสนอให้กับประชาชนในเรื่องต่างๆ คือ เรื่องขนส่งทางรางก็ดี การบริการสาธารณะต่างๆ ก็ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องจัดให้กับประชาชนตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว”
นายสุริยะใส กล่าวว่า ดังนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครหมายเลข 9 ด้วยวิธีการนำเสนอนโยบายทำงานแบบไร้รอยต่อ จึงเป็นการพูดเพื่อหวังผล ให้เป็นคุณช่วยเหลือพรรคพวกคือผู้สมัคร หมายเลข 9 ที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น และยังมีผลในทางกลับกัน ก็คือเมื่อประชาชนฟังแล้วเชื่อตามที่นายกรัฐมนตรีพูด ก็จะเป็นโทษกับผู้อื่นๆ คือไม่เลือกผู้สมัครหมายเลขอื่นๆ อันเป็นการจูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อและลงคะแนนให้ผู้สมัครหมายเลข 9 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ในเรื่องนี้กลุ่มกรีนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงและประมวลหลักฐานทั้งหมดถ้าพบเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งใน 2-3 วันนี้