ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดทีวีโฮมชอปปิ้งระอุ เซ็นทรัลควงแขนไอซีซีและซูมิโตโม กระโดดร่วมวงอีกราย ชื่อ ช้อปแชแนล ทุ่มงบ 600 ล้านบาทลุยเบื้องต้น คาดหวังรายได้ 3,000 ล้านบาทในอีก 5 ปี เชื่อมั่นตลาดนี้เติบโตดี
นางสาวยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ห้างเซ็นทรัลได้ร่วมมือกับทางบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุ่น ตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท โดยเซ็นทรัลถือหุ้น 30% , ไอ.ซี.ซี.ถือหุ้น 30% และซูมิโตโมถือหุ้น 40% เพื่อรุกธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไทยชื่อว่า ช้อป ชาแนล โดยมีนายชิเกรุ โอฮาชิ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและประธานฝ่ายบริหารสูงสุด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดังกล่าวและก่อตั้งสถานี Shop Channel ที่ญี่ปุ่นจนขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ นางสาวยุวดี ร่วมแถลงข่าวกับนายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ ไอ.ซ.ีซี.ฯ นายชิเกรุ โอฮาชิ นายเคนจิ ชินโมริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการทั่วไป แผนกสินค้าค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ บริษัท ซูมิโตโม คอร์เปอเรชั่น ญี่ปุ่น
โดยรายการดังกล่าวจะออกอากาศ 24 ชั่วโมงผ่านทางช่องสัญญาณดาวเทียมพีเอสไอ ช่อง 62 ระบบซีแบนด์ จะเริ่มประมาณเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มเป็นทางการเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นในอนาคตจะออกอากาศหลายช่องทาง ทั้งเว๊บไซต์และช่องทางอื่นๆ โดยลงทุนสร้างสตูดิโอเพื่อผลิตรายการออกอากาศ และอุปกรณ์ตามคำแนะนำของญี่ปุ่น
เป้าหมายของช้อปชาแนลในช่วง 5 ปีแรกนี้จะมียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนในปีแรกนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท จากสินค้าที่มีการจำหน่ายในช่องทางนี้ประมาณ 150 – 200 เอสเคยูในช่วงแรก ราคาสินค้าเฉลี่ยตั้งแต่ 1,000 -20,000 บาท ซึ่งสินค้า 70% จะมาจากทางซูมิโตโมญี่ปุ่นสรรหามาจากญี่ปุ่น ส่วนอีก 30% มาจากทางฟากเซ็นทรัลกับไอซีซี มีหลากหลาย เช่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า อาหาร เครื่องประดับ สิ่งทอไทย สินค้าโอท้อป เป็นต้น ซึ่งจะไม่มีวางขายในช่องทางค้าปลีก อื่น
ขณะที่ในญี่ปุ่นนั้น ช้อปชาแนล เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 30% หลังจากทำมานาน 16 ปีแล้ว มีสินค้า 700 – 1,000 รายการ และมีสินค้าใหม่เฉลี่ย 40% ทุกอาทิตย์ ออกอากาศสดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ เชาวราษฎร์ ประธานเจ้ารหน้าที่ฝ่ายปฎิบัตการ กล่าวว่า ตลาดรวมทีวีชอปปิ้งในไทยมีประมาณ 8,000 – 10,000 ล้านบาท เมื่อก่อนนี้เติบโตน้อยมากประมาณ 10-15% เพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ เพราะการยอมรับต่อการขายสินค้าช่องทางนี้ยังมีน้อยมาก ซึ่งในไทยมีเพียงไม่กี่รายที่ทำตลาดนี้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีรายใหญ่เข้ามาทำตลาดนี้มากขึ้น ทำให้ความน่าเชื่อถือเริ่มดีขึ้น สินค้าต้องมีคุณภาพ และต้องสร้างความแตกต่างในตัวสินค้าและการบริการ ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปธุกริจนี้จะเติบโตมากขึ้น
ในอนาคตบริษัทฯจะมีการขยายช่องทางในการออกอากาศด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางผู้ประกอบการเคเบิ้ลจำนวนมาก รวมทั้งค่ายซีทีเอชด้วย แต่ยังไม่สรุป
ผ้ประกอบการราใหญ่ในตลาดนี้เช่น ทีวีไดเร็ค ค่ายจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ที่ร่วมทุนกับทางเกาหลี ค่ายทรูซีเล็คของทรูวิชั่นส์ที่ร่วมทุนกับทางเซเว่นอีเลฟเว่น เดอะมอลล์และเกาหลีเช่นกัน
นายบุญเกียรติ กล่าวว่า ธุรกิจนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เชื่อว่าด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ประกอบกับความเจริญเติบโตของธุรกิจทีวีดาวเทียมในไทยจะเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มว่า จะขยายตัวต่อเนื่องจะส่งอผลดีต่อธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งอย่างมาก ธุรกิจนี้จะได้รับความสนใจไม่แพ้ธุรกิจอื่น นอกจากนี้มีผู้ให้ความสนใจที่จะลงทุนในธุกรกิจด้านนี้มากขึ้นแล้ว ทางคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ก็ยังเปิดโอกาสให้มีการเปิดตลาดทีวีดิจิตอล 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นหนทางให้การขยายฐานการตลาดของทีวีโฮมชอปปิ้งเพิ่มมากขึ้นด้วย
นางสาวยุวดีกล่าวว่า ทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไป ลุกค้าสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว เราจำเป็นต้องหาสินค้าที่มีคุณภาพและทันสมัยตอบสนองความต้องการลูกค้าอยู่สมอ ดังนั้นการร่วมทำธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าให้กับลูกค้าได้ด้วย
นางสาวยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ห้างเซ็นทรัลได้ร่วมมือกับทางบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุ่น ตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท โดยเซ็นทรัลถือหุ้น 30% , ไอ.ซี.ซี.ถือหุ้น 30% และซูมิโตโมถือหุ้น 40% เพื่อรุกธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไทยชื่อว่า ช้อป ชาแนล โดยมีนายชิเกรุ โอฮาชิ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและประธานฝ่ายบริหารสูงสุด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดังกล่าวและก่อตั้งสถานี Shop Channel ที่ญี่ปุ่นจนขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ นางสาวยุวดี ร่วมแถลงข่าวกับนายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ ไอ.ซ.ีซี.ฯ นายชิเกรุ โอฮาชิ นายเคนจิ ชินโมริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการทั่วไป แผนกสินค้าค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ บริษัท ซูมิโตโม คอร์เปอเรชั่น ญี่ปุ่น
โดยรายการดังกล่าวจะออกอากาศ 24 ชั่วโมงผ่านทางช่องสัญญาณดาวเทียมพีเอสไอ ช่อง 62 ระบบซีแบนด์ จะเริ่มประมาณเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มเป็นทางการเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นในอนาคตจะออกอากาศหลายช่องทาง ทั้งเว๊บไซต์และช่องทางอื่นๆ โดยลงทุนสร้างสตูดิโอเพื่อผลิตรายการออกอากาศ และอุปกรณ์ตามคำแนะนำของญี่ปุ่น
เป้าหมายของช้อปชาแนลในช่วง 5 ปีแรกนี้จะมียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนในปีแรกนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท จากสินค้าที่มีการจำหน่ายในช่องทางนี้ประมาณ 150 – 200 เอสเคยูในช่วงแรก ราคาสินค้าเฉลี่ยตั้งแต่ 1,000 -20,000 บาท ซึ่งสินค้า 70% จะมาจากทางซูมิโตโมญี่ปุ่นสรรหามาจากญี่ปุ่น ส่วนอีก 30% มาจากทางฟากเซ็นทรัลกับไอซีซี มีหลากหลาย เช่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า อาหาร เครื่องประดับ สิ่งทอไทย สินค้าโอท้อป เป็นต้น ซึ่งจะไม่มีวางขายในช่องทางค้าปลีก อื่น
ขณะที่ในญี่ปุ่นนั้น ช้อปชาแนล เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 30% หลังจากทำมานาน 16 ปีแล้ว มีสินค้า 700 – 1,000 รายการ และมีสินค้าใหม่เฉลี่ย 40% ทุกอาทิตย์ ออกอากาศสดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ เชาวราษฎร์ ประธานเจ้ารหน้าที่ฝ่ายปฎิบัตการ กล่าวว่า ตลาดรวมทีวีชอปปิ้งในไทยมีประมาณ 8,000 – 10,000 ล้านบาท เมื่อก่อนนี้เติบโตน้อยมากประมาณ 10-15% เพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ เพราะการยอมรับต่อการขายสินค้าช่องทางนี้ยังมีน้อยมาก ซึ่งในไทยมีเพียงไม่กี่รายที่ทำตลาดนี้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีรายใหญ่เข้ามาทำตลาดนี้มากขึ้น ทำให้ความน่าเชื่อถือเริ่มดีขึ้น สินค้าต้องมีคุณภาพ และต้องสร้างความแตกต่างในตัวสินค้าและการบริการ ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปธุกริจนี้จะเติบโตมากขึ้น
ในอนาคตบริษัทฯจะมีการขยายช่องทางในการออกอากาศด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางผู้ประกอบการเคเบิ้ลจำนวนมาก รวมทั้งค่ายซีทีเอชด้วย แต่ยังไม่สรุป
ผ้ประกอบการราใหญ่ในตลาดนี้เช่น ทีวีไดเร็ค ค่ายจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ที่ร่วมทุนกับทางเกาหลี ค่ายทรูซีเล็คของทรูวิชั่นส์ที่ร่วมทุนกับทางเซเว่นอีเลฟเว่น เดอะมอลล์และเกาหลีเช่นกัน
นายบุญเกียรติ กล่าวว่า ธุรกิจนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เชื่อว่าด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ประกอบกับความเจริญเติบโตของธุรกิจทีวีดาวเทียมในไทยจะเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มว่า จะขยายตัวต่อเนื่องจะส่งอผลดีต่อธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งอย่างมาก ธุรกิจนี้จะได้รับความสนใจไม่แพ้ธุรกิจอื่น นอกจากนี้มีผู้ให้ความสนใจที่จะลงทุนในธุกรกิจด้านนี้มากขึ้นแล้ว ทางคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ก็ยังเปิดโอกาสให้มีการเปิดตลาดทีวีดิจิตอล 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นหนทางให้การขยายฐานการตลาดของทีวีโฮมชอปปิ้งเพิ่มมากขึ้นด้วย
นางสาวยุวดีกล่าวว่า ทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไป ลุกค้าสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว เราจำเป็นต้องหาสินค้าที่มีคุณภาพและทันสมัยตอบสนองความต้องการลูกค้าอยู่สมอ ดังนั้นการร่วมทำธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าให้กับลูกค้าได้ด้วย