xs
xsm
sm
md
lg

เทเวศฯถกรีอินชัวเรอร์ จ่าย2พันล.แดงเผา"เซน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ศาลแพ่งพิพากษาสั่งเทเวศประกันภัย จ่ายเงินประกันห้างเซนถูกเผาทำลายจำนวน 1,977 ล้านบาท ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง 19 พ.ค.2553 นอกจากนี้ยังสั่งให้เมืองไทยประกันชีวิตจ่ายเงินค่าประกันให้จุฬาลงกรณ์อีก 1.7 ล้าน ด้านเทเวศประกันภัย ยันไม่เพิกเฉยกรณีเพลิงไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์-เซน อ้างกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด พร้อมตั้งสำรองค่าสินไหมทดแทนแล้ว ย้ำฐานะการเงินของบริษัทยังมั่นคง ล่าสุดประสานงานกับบริษัทรับประกันภัยต่อ เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงานต่อไป

ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ผบ..1212/2555 ที่บริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย เพื่อขอให้ชำระค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยก่อการร้าย กรณีเกิดเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าเซน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ภายหลังเหตุการณ์การกระชับพื้นที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

โดยเทเวศประกันภัย(จำเลย) ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพรับประกันภัย ปัดความรับผิดตามกรมธรรม์ จนทำให้บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด (โจทก์) ได้รับความเสียหาย จึงเห็นควรให้จ่ายค่าเสียหายในเชิงลงโทษอีกกว่า 329 ล้านบาท รวมยอดที่บริษัท เทเวศ ต้องจ่ายให้บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด จำนวน 1,977 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับแต่วันฟ้อง รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 1,977 ล้านบาท

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการที่ห้างเซนเกิดเพลิงไหม้ ไม่ได้เป็นการกระทำจากเหตุก่อการร้าย จึงพิพากษาให้บริษัทเทเวศชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ห้างเซนเป็นจำนวนเงินดังกล่าว

***เทเวศฯรอคดีสิ้นสุดก่อนจ่าย

ด้านนายชาติชาย ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด [มหาชน] กล่าวว่า ตามที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้บริษัทจ่ายชดเชยสินไหมให้แก่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด จากเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553จำนวนรวม 1,977,305,182.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2555 นั้น

โดยบริษัทขอชี้แจงว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมือง อันส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และอาคารศูนย์การค้าดังกล่าวในโซนห้างสรรพสินค้าเซนได้ทำประกันไว้กับบริษัทเทเวศฯ จำนวน 2 กรมธรรม์ คือ กรมธรรม์ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน และกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินคุ้มครองภัยก่อการร้าย เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความสูญเสียและเสียหายต่อผู้เอาประกันจำนวนมากและไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าสาเหตุของความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากภัยในลักษณะใด และอยู่ภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ฉบับใด

ดังนั้น ผู้เอาประกันภัยจึงได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางศาลเพื่อหาข้อยุติ จนกระทั่งในวันนี้ (5 มีนาคม 2556) ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้บริษัท เทเวศฯ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์ตามกรมธรรม์ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน และกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินคุ้มครองภัยก่อการร้าย เนื่องจากศาลเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจลาจล ไม่เป็นการก่อความไม่สงบของประชาชนถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาล ไม่เป็นการก่อการร้าย และศาลให้กรมธรรม์ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เข้ารับผิดชอบก่อนแล้วกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินคุ้มครองภัยก่อการร้ายจึงค่อยรับผิดชอบตามลำดับ

ณ ขณะนี้ บริษัท เทเวศฯ ยังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์ ดังนั้น จึงยังไม่สามารถแจ้งเหตุผลและรายละเอียดของคำพิพากษาดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามบริษัท เทเวศฯ ดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยด้วยหลักธรรมาภิบาลเสมอมา และเคารพในคำวินิจฉัยของศาล แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดและในการรับประกันภัยตามกรมธรรม์ทั้งสองฉบับนี้ บริษัท เทเวศฯ ได้กระจายความเสี่ยงโดยจัดให้มีการประกันภัยต่อไปยังบริษัทรับประกันภัยต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Re-insurer) หลายบริษัท

ดังนั้น บริษัท เทเวศฯ จึงจำเป็นต้องปรึกษาและประสานงานกับบริษัทรับประกันภัยต่อ (Reinsurer)เพื่อขอแนวทางในการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้กรณีเพลิงไหม้อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริษัทมิได้เพิกเฉยต่อผู้เอาประกันภัย ได้ตั้งสำรองค่าสินไหมทดแทนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฐานะการเงินของบริษัทฯ ยังคงมีความมั่นคง ดังนั้น คำพิพากษาดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท เทเวศฯ แต่อย่างใด

***ประกันต่อต่างประเทศมองก่อการ้าย

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการประกันภัย กล่าวว่า สำหรับกรณีของเทเวศประกันภัยเชื่อว่าคงจะมีการประกันภัยต่อกับบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ (Re-insurer) โดยที่ทางบริษัทเทเวศเองรับความเสี่ยงจากทั้ง 2 กรณีประมาณ 20% และเชื่อว่าบริษัทเทเวศน่าจะมีความสามารถชำระสินไหมตามที่ศาลแพ่งมีคำสั่งได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินในครั้งนี้ยังอยู่ในชั้นศาลเบื้องต้น บริษัทเทเวศยังสามารถยื่นอุธรณ์ต่ออีกได้ แต่คงจะต้องดูทีท่าของบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศด้วย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการยื่นเรื่องต่อสู้ไปจนถึงศาลฏีกา

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวตามประสบการณ์แล้วเชื่อว่า บริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศจะยังคงมองเหตุการณ์ชุมนุม และความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากการจลาจล เนื่องจากสาเหตุของเพลิงไหม้ไม่ได้มาจากอุบัติเหตุ ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งตามเงื่อไขของกรมธรรม์แบบสากลจะไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองอยู่แล้ว

"ประกันภัยต่อต่างประเทศเท่าที่เข้าใจจะมองเหตุการณ์นั้นเป็นเรื่องของการจลาจลและก่อการร้าย และความเสียหายที่เกิดขึ้นจะไม่ได้รับความคุ้มครอง ยิ่งถ้าความเสียหายเกิดในพื้นที่การชุมนุมด้วยแล้วก็น่าจะตีความได้แบบนั้น รวมถึงการที่รัฐบาลในยุคนั้นมีการประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าเป็นการก่อการร้ายก็ยิ่งทำให้บริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศนำไปเป็นเหตุประกอบการตัดสินใจมากขึ้น ซึ่งก็เป็นความคิดของบริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศ และถ้าถึงขั้นสุดท้ายแล้วยังยืนยันแบบนั้นก็คงจะต้องเป็นเรื่องของเทเวศกับประกันภัยต่อต่างประเทศที่จะต้องไกล่เกลี่ยกัน แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีคำตัดสินถึงชั้นศาลฏีกาแล้วทางเทเวศก็ต้องรับผิดชอบ"
กำลังโหลดความคิดเห็น