xs
xsm
sm
md
lg

ปปช.ขยายผล3นักธุรกิจ นอมินี “เพิ่มทองอินทร์”ยึดเพิ่ม 3.4 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(4 มี.ค.56) นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการป.ป.ช.ได้สั่งอายัดที่ดินของศาสตราจารย์สมบัติ จันทรวงศ์ นักวิชาการชื่อดัง เพิ่มเติมอีก 4 แปลง จำนวน 4 ไร่ มูลค่า 3.4 ล้านบาท ในจังหวัดนครนายก หลังจากศาสตราจารย์ สมบัติ ซึ่งถูกปป.ป.ช.อายัดเงินในบัญชีไปแล้ว 11.9 ล้านบาท เป็นผู้ยอมรับเองว่าเป็นนอมินี หรือ ถือครองที่ดินทั้ง 4 แปลง แทนนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา พล.อ.เสถียร ซึ่งจากการสอบสวนของ ป.ป.ช.ทราบว่า ศาสตรารย์สมบัติ ได้นำสมุดบัญชีเงินฝากยืนยันว่า มีเงินที่เป็นของตัวเอง จำนวน 6 แสนกว่าบาทนั้น และขอให้ ป.ป.ช.ถอนการอายัดในส่วนนี้ ซึ่ง ป.ป.ช.เห็นว่าชี้แจงที่มาของเงินได้ จึงสั่งถอนอายัด
นอกจากนี้ การไต่สวนของป.ป.ช.ยังพบว่า มีบุคคลที่เป็นนักธุรกิจ อีก 3 คน เข้าข่ายเป็นนอมินี หรือ ถือครองทรัพย์สินแทนครอบครัวของอดีตปลัดกลาโหม ซึ่งป.ป.ช.อยู่ระหว่างขยายผล ขณะเดียวกันยังรับทราบว่า ภรรยาพลเอกเสถียร ประกาศขายโรงแรม 2 แห่งที่จังหวัดอุบลราชธานีจริง ซึ่งหากการสอบสวนพบว่า หากโรงแรมทั้ง 2 แห่ง เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ ป.ป.ช.สามารถสั่งเพิกถอนการโอนได้ และหากใครซื้อต่อแล้วมีเจตนาให้การช่วยเหลือก็จะเข้าข่ายความผิดไปด้วย แต่หากพบว่าโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ได้มาโดยมรดก หรือไม่เกี่ยวข้องกับคดี ก็ไม่มีปัญหา
การขยายผลอายัดที่ดินเพิ่มเติมครั้งนี้ สืบเนื่องจากคดีที่ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่าบัญชีการเงินของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เคลื่อนไหวผิดปกติมากถึง 100 ล้านบาท ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จึงสั่งอายัดเงินและทรัพย์สินชั่วคราว รวม 65 ล้านบาท เป็นทั้งเงินสดในบัญชีธนาคาร และทรัพย์สิน ที่ดิน 9 แปลง, รถยนต์ 2 คัน โดยทรัพย์ทั้งหมด อยู่ในชื่อของนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา และร้อยเอกหญิง ณิชาพัฒน์ บุตรสาวบุญธรรม พล.อ.เสถียร
อีกด้านสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เปิดเผยคำพูดของ แหล่งข่าว ป.ป.ช.เปิดเผย ว่า ในการไต่สวนคดีที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 65 ล้านบาทนั้นอนุกรรมการได้พบข้อมูลว่ามีคนใกล้ชิด อย่างน้อย 3 คนอาจถือครองทรัพย์สินแทนพล.อ.เสถียรและภรรยา หนึ่งในนั้นคือนายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งอนุกรรมการป.ป.ช.กำลังตรวจสอบความเชื่อมโยงการถือครองทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าว
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. อนุกรรมการไต่สวนคดีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ร่ำรวยผิดปกติ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เมื่อผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่า จ.ส.อ.จรัมพร ไชยรัตน์ ซึ่งมีชื่อถือหุ้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรุณาภรณ์ สหกิจ 1997 จำนวน 1,500,000 บาท เป็นนอมินีของพล.อ.เสถียร หรือไม่?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่า ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งอายัดที่ดิน ใน จ.นครนายก 4 แปลง มูลค่า 3.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินที่ นายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำเงินจำนวน 18 ล้านบาทที่ได้จากนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ไปซื้อไว้
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. อายัดที่ดิน จำนวน 9 แปลง แบ่งเป็น
ที่ดินในชื่อ นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์
1. โฉนดเลขที่ 9112 ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
2. นส. ๓ ก เลขที่ 55 ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
3. โฉนดที่ดินเลขที่ 11821 ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี
4. โฉนดที่ดินเลขที่ 11811 ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี
ที่ดินของ นางสาวณิชาพัฒน์ เพิ่มทองอินทร์
1 น.ส. 3 ก เลขที่ 1136 ตำบลพะลาน อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
2. โฉนดที่ดินเลขที่ 3657 ตำบลวารินชาราบ(ธาตุ) อำเภอวารินชาราบ จังหวัดอุบลราชธานี
3. โฉนดที่ดินเลขที่ 3658 ตำบลวารินชาราบ(ธาตุ) อำเภอวารินชาราบ จังหวัดอุบลราชธานี
4. โฉนดที่ดินเลขที่ 13402 ตำบลไหล่ทุ่ง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี
5. โฉนดที่ดินเลขที่ 213694 ตำบลอนุสาวรีย์ อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร พร้อมทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นเลขที่ 9/255 ซอยลาดปลาเค้า 79 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
รวมทั้งสิ้น 13 แปลง
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีนายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ถือครองทรัพย์สินแทนครอบครัว พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โดย นายสมบัติ ระบุว่าจะยื่นขอลาจากตำแหน่งวิชาการและอาจารย์ มธ. ต่อศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. ว่า ขอชื่นชม นายสมบัติ ที่แสดงสปิริตด้วยการลาออกทั้งที่ไม่ใช่ผู้ที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) สอบสวนเพียงแต่เป็นผู้รับฝากเงินไว้เท่านั้น แต่ก็ได้แสดงความรับผิดชอบออกมา
สำหรับกรณี นายสมบัติ เพียงแต่รับฝากเงินไว้เท่านั้นและไม่ใช่ผู้ที่ถูก ปปช.สอบสวน โดยเจ้าตัวระบุว่าไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งตนไม่ออกความเห็นในเรื่องดังกล่าวเพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ในแง่กฎหมายนั้นการที่จะมีความผิดจะเกิดก็ต่อเมื่อเป็นในลักษณะร่วมกันฟอกเงินหรือสนับสนุนการกระทำความผิดในช่วงก่อนกระทำความผิดหรือขณะกระทำความผิด ตัวอย่างเช่น การรับซื้อของโจรซึ่งการเอาผิดทางกฎหมายทำได้ใน 2 กรณีคือ ผู้รับซื้อรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการกระทำความผิดและรับซื้อของโจรไว้ และการรับซื้อของโจรทั้งๆที่รู้ว่าเป็นของที่ขโมยมา แต่กรณีของ นายสมบัติ เป็นการรับฝากเงิน ซึ่งขอให้รอดูผลสอบสวนของปปช.ว่าข้อเท็จจริงออกมาเป็นอย่างไร
“กรณีของอาจารย์สมบัติถือเป็นบทเรียนของข้าราชการ ใครมาฝากอะไร ก็ต้องระวังให้มาก เวลามีใครมาฝากอะไร ก็ต้องแปลกใจ มาฝากไว้กับเราทำไม ทำไมไม่ไปฝากไว้กับคนในครอบครัวหรือญาติ” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น