พระนครศรีอยุธยา - นายอำเภออุทัย กรุงเก่า พร้อมปศุสัตว์อำเภอเข้าตรวจสอบควายประทาน และควายในวัดโตนดเตี้ย ทั้งหมด 9 ตัว เผยเตรียมฝังไมโครชิปควายทั้งหมดป้องกันคนร้ายขโมยซ้ำซาก ขณะที่ทางวัดเตรียมตั้งกล้องวงจรปิด ด้านตำรวจคุม 9 ผู้ต้องหาขโมยควายฝากขังต่อศาลกรุงเก่าแล้ว พร้อมคัดค้านการประกัน
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่วัดโตนดเตี้ย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภออุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภออุทัย ได้เข้าตรวจควายประทาน และควายที่อยู่ในวัดโตนดเตี้ย จำนวน 9 ตัว โดยนายเรวัต เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องไปยังกรมปศุสัตว์เพื่อขอไมโครชิปมาติดที่ควายทั้งหมด นอกจากนี้ ได้ทำตั๋วตำหนิรูปพรรณสัตว์เพื่อป้องการโจรกรรมของคนร้ายด้วย
ด้านพระครูเกษมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย ได้ประชุมกับคณะกรรมการวัดเพื่อเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมภายในวัด บริเวณรอบๆ วัด และที่บริเวณคอกควายอีกประมาณ 4-5 ตัว เพื่อเพิ่มมาตรการป้องกันการลักควาย และการโจรกรรมสิ่งของในวัด
ขณะที่วันเดียวกันนี้ ได้มีประชาชน และหน่วยงานต่างๆ เดินทางเข้ามาสอบถามเรื่องให้การช่วยเหลือในการเลี้ยงควายของวัด และเตรียมที่จะขยายคอกควายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจาก “ทองกวาว” เป็นควายไทยสายพันธุ์ที่สวยงาม มีการผสมพันธุ์ตกลูกออกมาหลายตัว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสายพันธุ์ควายไทยเอาไว้ และจากการเกิดคดีคนร้ายลักควายประทานของวัด ทำให้ขณะนี้เกิดกระแส และความสำคัญของควายไทยเริ่มมีการเรียนรู้ความสำคัญของควายไทยมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก “ทองกวาว” ที่ถูกขโมยไปได้กลับมาแล้วพบว่าวันนี้ ควาย “ปิ่นอนงค์” ลูกของทองกวาว ยังคงเดินตามคลอเคลียไม่ยอมห่างแม่ทองกวาว ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศความรักของควายแม่ลูกสร้างความอิ่มอกอิ่มใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ด้าน พ.ต.ท.สมยศ คำอยู่ พนักงานสอบผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่ลักควายทั้ง 3 คน และกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกต้องข้อกล่าวหารับซื้อของโจร จำนวน 9 คน ได้ส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว และได้คัดค้านการประกันตัวในกลุ่มของผู้ต้องหาที่เข้าไปลักควาย คือ นายทองแดง สินสิบ อายุ 52 ปี นายสุระชัย สุดา อายุ 32 ปี และนายประเสริฐ แสนหาร อายุ 21 ปี ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่รับซื้อของโจรไม่คัดค้านประกันตัว
