"ทอท.-บวท." เตรียมแผนรับวิกฤติพม่าหยุดส่งก๊าซ บวท.เตรียมมาตรการรับไฟตก 3 ศูนย์ควบคุมการบินหลัก ทุ่งมหาเมฆ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ทั้งระบบไฟฟ้าสำรองและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพร้อมจ่ายไฟแทนทันที มั่นใจเรดาร์ไม่จอดับแน่นอน นัดแอร์ไลน์รับทราบแผนเพื่อความมั่นใจ ด้านสุวรรณภูมิระบุ DCAP ผลิตไฟเองจากแหล่งก๊าซอ่าวไทย ไม่กระทบแต่มีแผนสำรอง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ได้ทำแผนเตรียมความพร้อมระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤติพลังงานกรณีแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในพม่าจะหยุดส่งก๊าซมาไทยระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 2556 แล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหากระทบต่อการให้บริการ
นาวาอากาศตรีประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท.กล่าวว่า จากการสอบถามการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แจ้งว่าโอกาสไฟฟ้าดับในพื้นที่กทม.มีน้อยมาก แต่กรณีแรงดันไฟฟ้าตกจะกระทบพื้นที่อยู่ห่างจากสถานส่งกำลังไฟฟ้า และหากจะมีการตัดกระแสไฟจะแจ้งให้บวท.ทราบล่วงหน้า ซึ่งบวท.ได้เตรียมพร้อมในกรณีแรงดันไฟฟ้าจากกฟน.ตกทำให้จ่ายไฟฟ้าให้บวท.ต่ำกว่า 375 โวลท์ ในส่วนหลัก คือ สำนักงานใหญ่ทุ่งมหาเมฆ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และ ศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน
โดยแผนรองรับที่สำนักงานใหญ่ทุ่งมหาเมฆ ในวันทำการปกติเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมด วันเสาร์-อาทิตย์ จะให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสลับกันทำงาน เพื่อลดความเสียหายของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หากแรงดันไฟฟ้าตกหรือไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เกิน 3
วันจะประสานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองที่อาคารปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการจราจรทางอากาศ และลดการใช้ไฟในสำนักงาน และกรณีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลนแต่แรงดันไฟฟ้าของกฟน.ไม่ต่ำกว่า 365 โวลท์ ระบบไฟฟ้าปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าทั่วไป และระบบ UPS สามารถรับไฟฟ้าโดยตรงจาก กฟน.
ส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะรับไฟฟ้าจาก ทอท.ซึ่งรับกระแสไฟฟ้าจาก กฟน. 2 แหล่งจ่ายและผลิตไฟฟ้าเองจาก DCAP โดยทอท.ได้ให้บวท.มีความสำคัญลำดับแรกกรณีที่ต้องลดการใช้พลังงาน และหาก DCAP ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของบวท.จะจ่ายกระแสไฟฟ้าแทนทั้งหมด โดยทั้งอาคารหอบังคับการบิน อาคารเรดาร์สถานีเครื่องช่วยการเดินอากาศมีระบบกระแสสไฟฟ้าสำรองทั้งหมด ซึ่งที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะมีการบริหารลักษณะเดียวกัน โดยที่ดอนเมือง ทอท.รับกระแสไฟฟ้าจาก กฟน. 3 แหล่งจ่าย
สำหรับศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน นั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งว่า อาจมีกระแสไฟฟ้าดับหรือแรงดันไฟฟ้าตกเป็นช่วงๆ เนื่องจากมีระยะสายส่งไกล ดังนั้นบวท.ได้จัดสำรองน้ำมันสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไว้เต็มระบบ เพื่อลดความเสี่ยงพร้อมทั้งประสานสถานีปตท.ใกล้เคียงในการจัดส่งน้ำมันให้ตลอดเวลา ซึ่งจะทดสอบความพร้อมของระบบในวันที่ 3 เมษายนจากปกติที่มีการทดลองดับไฟฟ้าเดือนละ2 ครั้ง
ส่วนศูนย์การบินส่วนภูมิภาคนั้น ไม่ได้รับผลกระทบ โดยศูนย์ที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน รับไฟฟ้าจากเขื่อนพลังงาน เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนน้ำพอง โรงไฟฟ้าแม่เมาะ และรับไฟฟ้าจากประเทศลาว ส่วนภาคใต้ รับไฟฟ้าจากเขื่อนรัชประภา เขื่อนบางลาง และแหล่งจ่ายก๊าซในอ่าวไทย
นาวาอากาศตรีประจักษ์กล่าวว่า มั่นใจว่าแผนรองรับทั้งหมดจะทำให้การให้บริการจราจรทางอากาศยานทุกสนามบินไม่มีปัญหาแน่นอน โดยหลังจากนี้ซักซ้อมกรณีไฟตกและการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในกรณีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และจะเชิญตัวแทนสายการบินมาชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจถึงความพร้อมและมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
นางสาววิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิผลิตไฟฟ้าเอง โดยDCAP ซึ่งใช้ก๊าซจากแหล่งอ่าวไทย จึงไม่มีผลกระทบจากกรณีพม่าหยุดจ่ายก๊าซ โดยปัจจุบันสุวรรณภูมิใช้ไฟฟ้าประมาณ 83 เมกะวัตต์ต่อวัน เท่ากับจังหวัดอ่างทองทั้งจังหวัด ซึ่งกำลังการผลิตของ DCAP ยังมีมากกว่าปริมาณการใช้ปกติ และมีระบบการผลิตไฟฟ้าสำรองของตัวเองด้วย แต่ทั้งนี้ ทอท.ได้มีมาตรการประหยัดพลังงานและประสานแหล่งจ่ายไฟอ่อนนุชและหนองจอกไว้สำรองด้วย ซึ่งทุกมาตรการได้มีชี้แจงกับสายการบิน ผู้ประกอบการในสนามบินให้รับทราบตรงกันแล้ว.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ได้ทำแผนเตรียมความพร้อมระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤติพลังงานกรณีแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในพม่าจะหยุดส่งก๊าซมาไทยระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 2556 แล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหากระทบต่อการให้บริการ
นาวาอากาศตรีประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท.กล่าวว่า จากการสอบถามการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แจ้งว่าโอกาสไฟฟ้าดับในพื้นที่กทม.มีน้อยมาก แต่กรณีแรงดันไฟฟ้าตกจะกระทบพื้นที่อยู่ห่างจากสถานส่งกำลังไฟฟ้า และหากจะมีการตัดกระแสไฟจะแจ้งให้บวท.ทราบล่วงหน้า ซึ่งบวท.ได้เตรียมพร้อมในกรณีแรงดันไฟฟ้าจากกฟน.ตกทำให้จ่ายไฟฟ้าให้บวท.ต่ำกว่า 375 โวลท์ ในส่วนหลัก คือ สำนักงานใหญ่ทุ่งมหาเมฆ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และ ศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน
โดยแผนรองรับที่สำนักงานใหญ่ทุ่งมหาเมฆ ในวันทำการปกติเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมด วันเสาร์-อาทิตย์ จะให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสลับกันทำงาน เพื่อลดความเสียหายของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หากแรงดันไฟฟ้าตกหรือไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เกิน 3
วันจะประสานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองที่อาคารปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการจราจรทางอากาศ และลดการใช้ไฟในสำนักงาน และกรณีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลนแต่แรงดันไฟฟ้าของกฟน.ไม่ต่ำกว่า 365 โวลท์ ระบบไฟฟ้าปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าทั่วไป และระบบ UPS สามารถรับไฟฟ้าโดยตรงจาก กฟน.
ส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะรับไฟฟ้าจาก ทอท.ซึ่งรับกระแสไฟฟ้าจาก กฟน. 2 แหล่งจ่ายและผลิตไฟฟ้าเองจาก DCAP โดยทอท.ได้ให้บวท.มีความสำคัญลำดับแรกกรณีที่ต้องลดการใช้พลังงาน และหาก DCAP ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของบวท.จะจ่ายกระแสไฟฟ้าแทนทั้งหมด โดยทั้งอาคารหอบังคับการบิน อาคารเรดาร์สถานีเครื่องช่วยการเดินอากาศมีระบบกระแสสไฟฟ้าสำรองทั้งหมด ซึ่งที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะมีการบริหารลักษณะเดียวกัน โดยที่ดอนเมือง ทอท.รับกระแสไฟฟ้าจาก กฟน. 3 แหล่งจ่าย
สำหรับศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน นั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งว่า อาจมีกระแสไฟฟ้าดับหรือแรงดันไฟฟ้าตกเป็นช่วงๆ เนื่องจากมีระยะสายส่งไกล ดังนั้นบวท.ได้จัดสำรองน้ำมันสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไว้เต็มระบบ เพื่อลดความเสี่ยงพร้อมทั้งประสานสถานีปตท.ใกล้เคียงในการจัดส่งน้ำมันให้ตลอดเวลา ซึ่งจะทดสอบความพร้อมของระบบในวันที่ 3 เมษายนจากปกติที่มีการทดลองดับไฟฟ้าเดือนละ2 ครั้ง
ส่วนศูนย์การบินส่วนภูมิภาคนั้น ไม่ได้รับผลกระทบ โดยศูนย์ที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน รับไฟฟ้าจากเขื่อนพลังงาน เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนน้ำพอง โรงไฟฟ้าแม่เมาะ และรับไฟฟ้าจากประเทศลาว ส่วนภาคใต้ รับไฟฟ้าจากเขื่อนรัชประภา เขื่อนบางลาง และแหล่งจ่ายก๊าซในอ่าวไทย
นาวาอากาศตรีประจักษ์กล่าวว่า มั่นใจว่าแผนรองรับทั้งหมดจะทำให้การให้บริการจราจรทางอากาศยานทุกสนามบินไม่มีปัญหาแน่นอน โดยหลังจากนี้ซักซ้อมกรณีไฟตกและการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในกรณีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และจะเชิญตัวแทนสายการบินมาชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจถึงความพร้อมและมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
นางสาววิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิผลิตไฟฟ้าเอง โดยDCAP ซึ่งใช้ก๊าซจากแหล่งอ่าวไทย จึงไม่มีผลกระทบจากกรณีพม่าหยุดจ่ายก๊าซ โดยปัจจุบันสุวรรณภูมิใช้ไฟฟ้าประมาณ 83 เมกะวัตต์ต่อวัน เท่ากับจังหวัดอ่างทองทั้งจังหวัด ซึ่งกำลังการผลิตของ DCAP ยังมีมากกว่าปริมาณการใช้ปกติ และมีระบบการผลิตไฟฟ้าสำรองของตัวเองด้วย แต่ทั้งนี้ ทอท.ได้มีมาตรการประหยัดพลังงานและประสานแหล่งจ่ายไฟอ่อนนุชและหนองจอกไว้สำรองด้วย ซึ่งทุกมาตรการได้มีชี้แจงกับสายการบิน ผู้ประกอบการในสนามบินให้รับทราบตรงกันแล้ว.