00 เข้าทางตรงจะถึงเส้นชัยแล้วจริงๆสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ทั้งสองพรรคใหญ่ไม่ว่าจะเป็น “จูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย และ “ชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากปชป.แน่นอนว่านาทีนี้ต่างฝ่ายต้องงัดกลยุทธ์ทีเด็ดเพื่อทำให้ตัวเองได้เข้าป้าย อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าฝ่ายพรรค “เผาไทย” กำลังผวาอย่างหนัก เพราะรู้กันอยู่แล้วเรื่องเก๋าเกมก็ต้องยกให้ฝ่าย “แมลงสาบ” เขาละ ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะอยู่มาได้นานขนาดนี้หรือ
00 อย่างไรก็ดีจะว่าไปแล้วมันก็เป็นความจริงเหมือนกันสำหรับเรื่อง “เผากรุง” และพรรคเพื่อไทย หัวโจกคนเสื้อแดง และ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นเจ้าของคนพวกนี้คงจะปฏิเสธความจริงเหล่านี้ไปไม่ได้หรอก ขณะเดียวกันมันก็ช่วยไม่ได้ทำให้ชาวบ้านที่พอถูกสะกิดอารมณ์โกรธแบบนี้ขึ้นมาอีก ทำให้กระแสของ จูดี้ ถึงได้ “แผ่วปลาย”ไงละ
00 สังเกตหรือไม่ว่าบรรดาหัวโจกแดงคนสำคัญไม่ว่าจะเป็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ ช่วงนี้เห็นนักข่าวแทบจะเอาหนังสือพิมพ์คลุมหัวปิดหน้า เพราะไม่อยากเป็นข่าวต้องเก็บตัวเงียบ เพราะกลัวว่าคนกรุงจะจำเรื่องเก่าๆเกิดอารมณ์โมโหมีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ นี่แหละถึงได้บอกว่าทำไมคนพวกนี้ถึงได้ “หายหัว” กันไปหมด ผิดกับตอนแรกๆที่ห้าวขึ้นรถแห่โบกไม้โบกมือช่วยปราศรัยแทบทุกเวที อย่าว่าแต่อะไรเลย แม้แต่ “โจรแม้ว” ยังกบดานเงียบเลย !!
00 ความเคลื่อนไหวของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการหารือกับนายกฯมาเลย์ นาจิบ ราซัค ในวันที่ 28 ก.พ.เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจากับโจรใต้ ทำให้น่าจับตาว่าจะทำให้บทบาทของมาเลย์มีอิทธิพลเหนือไทย อีกทั้งการเจรจาดังกล่าวเป็นแค่การสร้างภาพฉาบฉวยทางการเมืองตามถนัดเท่านั้น เพื่อให้สอดรับกับคำพูดที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า “สถานการณ์ดีขึ้น” หรือมาถูกทางแล้ว สารพัด แต่ที่สำคัญหากมีการเจรจาจริงตามที่เป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มพูโล” หรือแม้กระทั่ง กลุ่ม "บีอาร์เอ็น" ถามว่าเป็นของจริงหรือ “ปั่นราคา” กันแน่ !!
00 เริ่มเดินหน้าเบิกร่องกันแล้วสำหรับมหกรรมกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพราะล่าสุดที่ประชุมครม.ได้ไฟเขียวแผนยุทธศาสตร์อภิโปรเจกต์เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเดินเครื่องเต็มตัวในเดือนมี.ค.นี้แน่นอน และนี่ไง “ดีแต่กู้” ส่วนจะ “กู้มาโกง” อย่างที่เคยเยาะเย้ยคนอื่นหรือไม่มันชักเข้าเค้าทุกทีแล้ว และงานนี้แม่งานใหญ่ยังเป็น “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง กำกับทุกขั้นตอน และเชื่อว่าไม่ว่าจะปรับครม.อีกกี่หนก็ยังเหนียว ตราบใดที่นายกฯปูยังอยู่
00 สำหรับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รายนี้หลังจาก “เดินตัวลีบ” ขึ้นเขาพระวิหารไปพบเขมรก็สวดกันขรม งานนี้นอกเหนือจากดูแล้วเสียศักดิ์ศรีของชาติแล้ว ยังทำให้ไทยเสียเปรียบในศาลโลกเรื่อง “อาณาบริเวณ” รอบปราสาท เพราะท่าทางที่ “เสี่ยโอ๋” เดินขึ้นไปนั้นเดินอ้อมไปตามคำชี้นิ้วของเขมร ไม่กล้าเปิด “ประตูเหล็ก” ขึ้นไป และที่สำคัญกลายเป็นว่าฝ่ายเราเป็นการไปตาม “คำเชิญ”ของอีกฝ่าย ความหมายก็คือเรา “เป็นแขก” ไม่ใช่เจ้าของบ้าน จบกัน ทุด !!
00 อย่างไรก็ดีจะว่าไปแล้วมันก็เป็นความจริงเหมือนกันสำหรับเรื่อง “เผากรุง” และพรรคเพื่อไทย หัวโจกคนเสื้อแดง และ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นเจ้าของคนพวกนี้คงจะปฏิเสธความจริงเหล่านี้ไปไม่ได้หรอก ขณะเดียวกันมันก็ช่วยไม่ได้ทำให้ชาวบ้านที่พอถูกสะกิดอารมณ์โกรธแบบนี้ขึ้นมาอีก ทำให้กระแสของ จูดี้ ถึงได้ “แผ่วปลาย”ไงละ
00 สังเกตหรือไม่ว่าบรรดาหัวโจกแดงคนสำคัญไม่ว่าจะเป็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ ช่วงนี้เห็นนักข่าวแทบจะเอาหนังสือพิมพ์คลุมหัวปิดหน้า เพราะไม่อยากเป็นข่าวต้องเก็บตัวเงียบ เพราะกลัวว่าคนกรุงจะจำเรื่องเก่าๆเกิดอารมณ์โมโหมีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ นี่แหละถึงได้บอกว่าทำไมคนพวกนี้ถึงได้ “หายหัว” กันไปหมด ผิดกับตอนแรกๆที่ห้าวขึ้นรถแห่โบกไม้โบกมือช่วยปราศรัยแทบทุกเวที อย่าว่าแต่อะไรเลย แม้แต่ “โจรแม้ว” ยังกบดานเงียบเลย !!
00 ความเคลื่อนไหวของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการหารือกับนายกฯมาเลย์ นาจิบ ราซัค ในวันที่ 28 ก.พ.เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจากับโจรใต้ ทำให้น่าจับตาว่าจะทำให้บทบาทของมาเลย์มีอิทธิพลเหนือไทย อีกทั้งการเจรจาดังกล่าวเป็นแค่การสร้างภาพฉาบฉวยทางการเมืองตามถนัดเท่านั้น เพื่อให้สอดรับกับคำพูดที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า “สถานการณ์ดีขึ้น” หรือมาถูกทางแล้ว สารพัด แต่ที่สำคัญหากมีการเจรจาจริงตามที่เป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มพูโล” หรือแม้กระทั่ง กลุ่ม "บีอาร์เอ็น" ถามว่าเป็นของจริงหรือ “ปั่นราคา” กันแน่ !!
00 เริ่มเดินหน้าเบิกร่องกันแล้วสำหรับมหกรรมกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพราะล่าสุดที่ประชุมครม.ได้ไฟเขียวแผนยุทธศาสตร์อภิโปรเจกต์เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเดินเครื่องเต็มตัวในเดือนมี.ค.นี้แน่นอน และนี่ไง “ดีแต่กู้” ส่วนจะ “กู้มาโกง” อย่างที่เคยเยาะเย้ยคนอื่นหรือไม่มันชักเข้าเค้าทุกทีแล้ว และงานนี้แม่งานใหญ่ยังเป็น “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง กำกับทุกขั้นตอน และเชื่อว่าไม่ว่าจะปรับครม.อีกกี่หนก็ยังเหนียว ตราบใดที่นายกฯปูยังอยู่
00 สำหรับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รายนี้หลังจาก “เดินตัวลีบ” ขึ้นเขาพระวิหารไปพบเขมรก็สวดกันขรม งานนี้นอกเหนือจากดูแล้วเสียศักดิ์ศรีของชาติแล้ว ยังทำให้ไทยเสียเปรียบในศาลโลกเรื่อง “อาณาบริเวณ” รอบปราสาท เพราะท่าทางที่ “เสี่ยโอ๋” เดินขึ้นไปนั้นเดินอ้อมไปตามคำชี้นิ้วของเขมร ไม่กล้าเปิด “ประตูเหล็ก” ขึ้นไป และที่สำคัญกลายเป็นว่าฝ่ายเราเป็นการไปตาม “คำเชิญ”ของอีกฝ่าย ความหมายก็คือเรา “เป็นแขก” ไม่ใช่เจ้าของบ้าน จบกัน ทุด !!