ASTVผู้จัดการรายวัน - “อาร์เอส” ปรับทัพธุรกิจวิทยุ รีแบรนด์สกายไฮเป็น“คูลลิซึม” คว้าคลื่น 91.5 จากจีเอ็มเอ็ม ทุ่ม 120 ล้าน โหมตลาดเต็มศึก ต่อยอดสู่แพลทฟอร์มอื่น มั่นใจส่งสิ้นปีรายได้รวมทะลุ 600 ล้านบาท โตขึ้น 50%
นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึม จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้สกายไฮได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ เพราะธุรกิจสื่อวิทยุกำลังเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะพฤติกรรมการรับฟังของผู้บริโภค ที่หันไปรับฟังทางช่องทางอื่นๆมากขึ้น
ดังนั้นปีนี้บริษัทพร้อมที่จะขยายแบรนด์ไปสู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่ ภายใต้แบรนด์คูลที่ประสบความสำเร็จจากคลื่นคูล ฟาเรนไฮท์ ที่เป็นอันดับ1ของสถานีเพลงไทย
เริ่มจากการเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น คูลลิซึม มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ไปยังแพลทฟอร์มอื่นๆมากกว่าการจำกัดอยู่แค่ธุรกิจด้านสื่อวิทยุเพียงอย่างเดียว ล่าสุดปีนี้ยังเพิ่มคลื่นวิทยุอีก 1 คลื่น คือ คูลเซลเซียส 91.5 ออกอากาศมาตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เป็นคลื่นเพลงสากลที่มีโพซิชั่นเดียวกับคูลฟาเรนไฮท์ ที่เป็นคลื่นเพลงฟัง จับกลุ่มวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้น นำเสนอคอนเท้นท์พิเศษจากต่างประเทศ คือ การรายงานอันดับเพลงอเมริกัน ท็อป 40 โดยพิธีกรชื่อดัง Ryan Seacrest จากฮอลลีวูด ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 14.00-18.00น. มั่นใจว่าภายใน 2 ปีจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มเพลงฟังสากลได้ จากปัจจุบันมีกลุ่มเพลงสากลในตลาดอยู่แล้ว 5 คลื่น รวมคูลเซลเซียสแล้ว
“ที่เลือกคลื่น91.5นั้น เนื่องจากมองที่คุณภาพการส่งสัญญาณเป็นหลัก โดยเป็นการเข้าไปทำสัญญาสัมปทานคลื่นนี้ต่อจากรายเดิมที่หมดสัญญาลง ขณะที่สัญญาสัมปทานครั้งนี้อยู่ที่ 2 ปี โดยค่าสัมปทานนั้นอยู่ในอัตราปกติในตลาด
ทั้งนี้มองว่าภายในปีแรกจะสามารถคืนทุนและมีกำไรจากคลื่นนี้ได้ ถือเป็นการปรับแผนธุรกิจรองรับเออีซีที่จะขึ้นในอนาคต รวมถึงเพื่อรองรับการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆที่มีความเป็นไปได้ต่อไป เช่น แซทเทิลไลท์ เป็นต้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คลื่น 91.5 นี้เดิมเป็นคลื่นฮอตเวฟ ของค่ายเอไทม์-มีเดียในเครือแกรมมี่
ปีนี้ใช้งบตลาด 120 ล้านบาท สร้างประสบการณ์และอารมณ์ร่วมของผู้บริโภคกับแบรนด์ แบบ 360 องศาครอบคลุมทุกไลส์สไตล์ และทุกช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มช่องการรับฟังของคลื่นคูล ฟาเรนไฮท์แล้วทางเว็บไซต์คูลฟาเรนไฮท์ และแอพลิเคชั่นบนไอโฟน แอนดรอยด์และบีบี โดยภายในเดือนมี.ค.จะเพิ่มช่องทางดังกล่าวสำหรับกลุ่มคนฟังคลื่นคูลเซลเซียสด้วย ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่คูลจะมีการหารายได้โฆษณาบนสื่อออนไลน์อย่างจริงจัง ตั้งเป้าไว้ที่ 10 ล้านบาท คูลฟาเรนไฮท์มีฐานผู้ฟังผ่านทางออนไลน์ถึง 1.5 ล้านคนต่อเดือน และฟังผ่านแอพลิเคชั่นราว 8 แสนคน
นายคมสันต์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมธุรกิจสื่อวิทยุปีนี้ค่อนข้างอิ่มตัว หรือเติบโตใกล้เคียงปีก่อน 6% มูลค่ารวม 6,300 ล้านบาท ปีนี้ไม่น่าถึง 6,500 ล้านบาท สำหรับสกายไฮปีที่แล้วเติบโต 20% มาจากการแย่งแชร์จากคลื่นอื่นๆรวมถึงการปรับราคาโฆษณาขึ้นอีก 20-30% มาเป็น 5,000 บาทต่อ 30 วินาที
ดยปีนี้มองว่าทั้งบริษัทจะมีรายได้รวมที่ 600 ล้านบาท โตจากปีก่อน 50% มาจากคลื่นคูลฟาเรนไฮท์ 450 ล้านบาทจากปีก่อนมีรายได้ที่ 380 ล้านบาท ส่วนคลื่นคูลเซลเซียสตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 130 กว่าล้านบาท
และอีก 1 ธุรกิจ คือ คูลละติจูด กับการดีไซน์ทริปการท่องเที่ยวให้แก่ลูกค้าอีก 20 ล้านบาท
จากข้อมูลของทางนีลสันพบว่า ช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ผลสำรวจกลุ่มคลื่นวิทยุเอฟเอ็มในกรุงเทพฯที่มีกลุ่มผู้ฟัง อายุ 20-34 ปีขึ้นไป อันดับ 1 คือ 93 คูลฟาเรนไฮท์ แชร์ 52.3% เข้าถึงผู้ฟังกว่า 597,000 คน 2.ซี๊ดส์ 97.5 เอฟเอ็ม มีแชร์ 13.8% 3.เวอร์จิ้นฮิตส์ 95.5 เอฟเอ็ม แชร์ 11.9% 4.103.5 เอฟเอ็มวัน มีแชร์ 11% และ5.106.5 กรีนเวฟ มีแชร์ 4.6% และ6.94อี เอฟเอ็ม มีแชร์ 2.8%
นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึม จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้สกายไฮได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ เพราะธุรกิจสื่อวิทยุกำลังเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะพฤติกรรมการรับฟังของผู้บริโภค ที่หันไปรับฟังทางช่องทางอื่นๆมากขึ้น
ดังนั้นปีนี้บริษัทพร้อมที่จะขยายแบรนด์ไปสู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่ ภายใต้แบรนด์คูลที่ประสบความสำเร็จจากคลื่นคูล ฟาเรนไฮท์ ที่เป็นอันดับ1ของสถานีเพลงไทย
เริ่มจากการเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น คูลลิซึม มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ไปยังแพลทฟอร์มอื่นๆมากกว่าการจำกัดอยู่แค่ธุรกิจด้านสื่อวิทยุเพียงอย่างเดียว ล่าสุดปีนี้ยังเพิ่มคลื่นวิทยุอีก 1 คลื่น คือ คูลเซลเซียส 91.5 ออกอากาศมาตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เป็นคลื่นเพลงสากลที่มีโพซิชั่นเดียวกับคูลฟาเรนไฮท์ ที่เป็นคลื่นเพลงฟัง จับกลุ่มวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้น นำเสนอคอนเท้นท์พิเศษจากต่างประเทศ คือ การรายงานอันดับเพลงอเมริกัน ท็อป 40 โดยพิธีกรชื่อดัง Ryan Seacrest จากฮอลลีวูด ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 14.00-18.00น. มั่นใจว่าภายใน 2 ปีจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มเพลงฟังสากลได้ จากปัจจุบันมีกลุ่มเพลงสากลในตลาดอยู่แล้ว 5 คลื่น รวมคูลเซลเซียสแล้ว
“ที่เลือกคลื่น91.5นั้น เนื่องจากมองที่คุณภาพการส่งสัญญาณเป็นหลัก โดยเป็นการเข้าไปทำสัญญาสัมปทานคลื่นนี้ต่อจากรายเดิมที่หมดสัญญาลง ขณะที่สัญญาสัมปทานครั้งนี้อยู่ที่ 2 ปี โดยค่าสัมปทานนั้นอยู่ในอัตราปกติในตลาด
ทั้งนี้มองว่าภายในปีแรกจะสามารถคืนทุนและมีกำไรจากคลื่นนี้ได้ ถือเป็นการปรับแผนธุรกิจรองรับเออีซีที่จะขึ้นในอนาคต รวมถึงเพื่อรองรับการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆที่มีความเป็นไปได้ต่อไป เช่น แซทเทิลไลท์ เป็นต้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คลื่น 91.5 นี้เดิมเป็นคลื่นฮอตเวฟ ของค่ายเอไทม์-มีเดียในเครือแกรมมี่
ปีนี้ใช้งบตลาด 120 ล้านบาท สร้างประสบการณ์และอารมณ์ร่วมของผู้บริโภคกับแบรนด์ แบบ 360 องศาครอบคลุมทุกไลส์สไตล์ และทุกช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มช่องการรับฟังของคลื่นคูล ฟาเรนไฮท์แล้วทางเว็บไซต์คูลฟาเรนไฮท์ และแอพลิเคชั่นบนไอโฟน แอนดรอยด์และบีบี โดยภายในเดือนมี.ค.จะเพิ่มช่องทางดังกล่าวสำหรับกลุ่มคนฟังคลื่นคูลเซลเซียสด้วย ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่คูลจะมีการหารายได้โฆษณาบนสื่อออนไลน์อย่างจริงจัง ตั้งเป้าไว้ที่ 10 ล้านบาท คูลฟาเรนไฮท์มีฐานผู้ฟังผ่านทางออนไลน์ถึง 1.5 ล้านคนต่อเดือน และฟังผ่านแอพลิเคชั่นราว 8 แสนคน
นายคมสันต์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมธุรกิจสื่อวิทยุปีนี้ค่อนข้างอิ่มตัว หรือเติบโตใกล้เคียงปีก่อน 6% มูลค่ารวม 6,300 ล้านบาท ปีนี้ไม่น่าถึง 6,500 ล้านบาท สำหรับสกายไฮปีที่แล้วเติบโต 20% มาจากการแย่งแชร์จากคลื่นอื่นๆรวมถึงการปรับราคาโฆษณาขึ้นอีก 20-30% มาเป็น 5,000 บาทต่อ 30 วินาที
ดยปีนี้มองว่าทั้งบริษัทจะมีรายได้รวมที่ 600 ล้านบาท โตจากปีก่อน 50% มาจากคลื่นคูลฟาเรนไฮท์ 450 ล้านบาทจากปีก่อนมีรายได้ที่ 380 ล้านบาท ส่วนคลื่นคูลเซลเซียสตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 130 กว่าล้านบาท
และอีก 1 ธุรกิจ คือ คูลละติจูด กับการดีไซน์ทริปการท่องเที่ยวให้แก่ลูกค้าอีก 20 ล้านบาท
จากข้อมูลของทางนีลสันพบว่า ช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ผลสำรวจกลุ่มคลื่นวิทยุเอฟเอ็มในกรุงเทพฯที่มีกลุ่มผู้ฟัง อายุ 20-34 ปีขึ้นไป อันดับ 1 คือ 93 คูลฟาเรนไฮท์ แชร์ 52.3% เข้าถึงผู้ฟังกว่า 597,000 คน 2.ซี๊ดส์ 97.5 เอฟเอ็ม มีแชร์ 13.8% 3.เวอร์จิ้นฮิตส์ 95.5 เอฟเอ็ม แชร์ 11.9% 4.103.5 เอฟเอ็มวัน มีแชร์ 11% และ5.106.5 กรีนเวฟ มีแชร์ 4.6% และ6.94อี เอฟเอ็ม มีแชร์ 2.8%