“เจ๊ฉอด” โต้เอไทม์ขาลง เคลียร์ปิดคลื่นฮอตเวฟ เพราะสัญญาหมด และมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ อีกทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายหลักฟังวิทยุลดลง แจงถ้าอาร์เอสคู่แข่งได้สัมปทานคลื่นไป ก็เป็นเรื่องปกติ ปัดตอบ “ดีเจเจ๊แหม่ม” ลาออก เพราะมีปัญหาภายใน แอ่นรับตนอาจไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีที่สุด
หลังจากประกาศยุบคลื่นฮอตเวฟ 91.5 ไป ทั้งที่เปิดดำเนินการมากว่า 20 ปี จนทำเอาแฟนรายการช็อกและเสียดาย แถมยังมีปัญหามะรุมมะตุ้มจากกรณีที่ “ดีเจเจ๊แหม่ม” หักดิบลาออก พร้อมแฉว่ามีปัญหาภายใน ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “เอไทม์” ตกที่นั่งขาลง ล่าสุด “เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” จัดงานแถลงข่าว A-Time Big Happening 2013 ขึ้นที่ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น โรงแรม Centara Grand @ Central World พร้อมขนเหล่าดีเจจาก 3 คลื่นดัง Chill FM 89, 94 EFM, Green Wave 106.5 FM กว่า 40 ชีวิตมาเปิดตัว พร้อมเผยถึงโปรเจกต์ต่างๆ ของเอไทม์ในปีนี้ งานนี้เจ๊ฉอดก็เลยถือโอกาสเคลียร์ประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นแบบม้วนเดียวจบ
“การคืนฮอตเวฟก็เป็นเรื่องที่คุยกันมานานแล้ว ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์อะไรสำหรับพวกเราทีมงาน ในเรื่องของวิทยุอย่างที่ทราบกันว่ามันมีปัญหาในการรอคอยความชัดเจนต่างๆ มาตั้งนานแล้ว ระหว่างระยะเวลาที่รอคอยค่ะ ในแง่ของอุปกรณ์เทคนิคต่างๆ มันก็ไม่สามารถพัฒนาหรือปรับปรุงอะไรได้ เราเป็นเอกชนเราก็ไม่สามารถที่จะไปลงทุนอะไรได้ สถานีเองก็ไม่สามารถลงทุนอะไรได้ ก็จะมีปัญหาเรื่องของอุปกรณ์มาโดยตลอด”
“อีกอย่างหนึ่งในแง่ของวัยรุ่น วัยรุ่นของเราไปไกลมากแล้วในเรื่องของเทคโนโลยี มีเดียในรูปแบบอื่นๆ เข้ามาเยอะมาก เราก็พบว่าคนฟังในกลุ่มวัยรุ่นมันลดน้อยลง ก็เลยคิดว่าถ้าเราจะมีคลื่นวิทยุหนึ่งคลื่นเพื่อตอบโจทย์วัยรุ่นจริงๆ มันน่าจะไม่ใช่วิทยุแล้วล่ะ แต่มันจะออกมาในรูปแบบไหนเราก็ต้องติดตามกันต่อไป”
“และพอดีสัญญามันหมดตรงช่วงนี้พอดีค่ะ ถ้าทำต่อไปอีกมันต้องต่อสัญญาไป ก็เลยคิดว่ามันเป็นเวลาที่จะหยุดตรงนี้ไว้ก่อน เพื่อจะได้ดูว่าเราจะมีอะไรมาเสริมกับกลุ่มคนฟังที่เป็นวัยรุ่นของเรา ทุกวันนี้ต้องบอกว่า คนฟังวิทยุเปลี่ยนแปลงไป ในแง่ของอายุอย่างเดียวก็ไม่ใช่นะคะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้เด็กก็ฟัง กรีนเวฟเยอะมาก อาจจะเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์เข้ามาด้วย ไม่ถึงขั้นว่าวัยรุ่นไม่ฟังเอไทม์เอาซะเลย กรีนเวฟกลุ่มคนฟังอายุน้อยลง วัยรุ่นโทรศัพท์เข้ามาเยอะมาก”
บอกถ้าคู่แข่งอาร์เอสได้สัมปทานคลื่นฮอตเวฟไปก็เป็นเรื่องปกติ
“คือ หลังจากที่เราคืนคลื่นไป มันก็ต้องแล้วแต่สถานีแล้วค่ะ เขาจะตัดสินใจให้ใครทำต่อ ความจริงมันก็มีอยู่กันไม่กี่ค่ายนะมันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เราว่ามันคือการเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาโยงกันไปมา ถ้าถามพวกเราก็อย่างที่เห็นค่ะ ว่ายังอยู่กันปกติ”
พร้อมโต้ “เอไทม์” ขาลง แจงจัดกิจกรรมมากมายไม่ได้เงินจะทำทำไม
“รายได้ของทุกคลื่นยังเป็นปกติอยู่ค่ะ วันนี้ยังพูดเรื่องตัวเลขไม่ได้มากเพราะว่าบริษัทเราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ว่าพอจะพูดได้ว่าไม่ได้มีอะไรที่เป็นอย่างที่ทุกคนพูดนะคะ ก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี ที่ยืนยันแบบนี้เพราะว่ากิจกรรมที่มากมายขนาดนี้ ถ้าทำแล้วไม่ได้สตางค์เราจะทำทำไม”
“ตัวเลขของมีเดียปีที่ผ่านมา มันดีกว่าปีก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เราก็ยังอยู่ในชั้นนำของกลุ่มของวิทยุที่ทำรายได้โดดเด่นที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องของการเอาหลายๆ เรื่องมาประกอบกันมากกว่า เพราะว่างานกิจกรรมทุกอย่างยังมีเหมือนเดิม บุคลากรก็อาจจะมีการออกบ้างปกติเหมือนกัน แล้วก็การที่บุคลากรแต่ละคนออกก็มีเหตุผลเฉพาะตัว ไม่ได้เกี่ยวกันกับอะไรเลยนะคะ ไม่ได้มีเปอร์เซ็นต์อะไรมากมาย”
ปัดตอบเรื่อง “ดีเจเจ๊แหม่ม” ลาออก ยันแค่เรื่องขัดแย้งส่วนบุคคล
“ในกรณีนี้เราตอบไปแล้วว่ามันเป็นการขัดแย้งส่วนบุคคลนะคะ เราก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของทุกคน ถ้าจะตอบเรื่องนี้โดยสรุปแล้วเราว่าบริษัทเอไทม์มีเดียอาจไม่ใช่บริษัทที่มีการบริหารดีที่สุด หรือเราอาจไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีที่สุด แต่ว่าเราเคารพในการตัดสินใจของทุกคน”
“สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจเสมอในการบริหารที่บริษัทเอไทม์นะคะ เราไม่มีเด็กของใคร มีคนของใคร ทุกคนก็ทำงานกันไปตามความสามารถของตัวเอง ถ้าหากว่าเรามีเรื่องการเมืองในบริษัท เอไทม์ ก็คงอยู่ไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ บุคลากรที่เราเห็นแปดสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ที่นี่มานานแล้ว เด็กใหม่มีอยู่น้อยมาก อันนั้นก็แล้วแต่นะคะ เราก็ต้องบอกว่าคนอีกหลายร้อยคนยังทำงานกับเราปกติ เราก็เลยไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติอะไร”