โพลระบุรัฐบาลต้องป้องกัน เตรียมความพร้อมและหามาตรการรองรับที่ชัดเจน กรณีพม่าหยุดส่งก๊าซช่วง เม.ย. รองลงมากลัวจะเกิดความวุ่นวาย ภาคธุรกิจและประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน พร้อมอยากให้ประเทศไทยมีแหล่งพลังงานของตนเองที่เพียงพอไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สอบถามความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,226 คน ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ. กรณีพม่าแจ้งหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 4-12 เม.ย.นี้ เพื่อซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติยาดานา จำเป็นต้องปิดระบบก๊าซทั้งหมดเป็นผลให้หลายฝ่ายเริ่มวิตก หวั่นว่าไฟฟ้าในประเทศไทยจะดับทั้งประเทศ โดยอันดับ 1 ประชาชนมองว่า เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลควรเร่งหาทางป้องกัน เตรียมความพร้อมและหามาตรการรองรับที่ชัดเจน 58.12% อันดับ 2 กลัวจะเกิดความวุ่นวาย ภาคธุรกิจต่างๆ และประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน 27.52% อันดับ 3 อยากให้ประเทศไทยมีแหล่งพลังงานของตนเองที่เพียงพอ ไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่น 14.36%
อย่างไรก็ตาม หากไฟดับจริง พบว่าอันดับ 1 ประชาชนค่อนข้างมั่นใจในการรับมือของรัฐบาล 43.45% อันดับ 2 ไม่ค่อยมั่นใจ 36.86% เพราะประเทศไทยมีการใช้ไฟฟ้าปริมาณมากขึ้น เมื่อเกิดข้อผิดพลาดอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ฯลฯ อันดับ 3 ไม่มั่นใจ 10.88% เพราะรัฐบาลไม่มีแผนรองรับที่ชัดเจน ทั้งกระทรวงพลังงาน กฟผ. ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อนฯลฯ อันดับ 4 มั่นใจมาก 8.81% เพราะเชื่อว่ารัฐบาลได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรง ฯลฯ
ทั้งนี้ รัฐบาลควรเตรียมพร้อมรับมืออย่างไร โดยอันดับ 1 ระบุสั่งการลงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เพื่อเตรียมรับมือและมีมาตรการป้องกันในเรื่องนี้โดยเร่งด่วน 51.40% อันดับ 2 ปชส.ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดไฟ ประหยัดพลังงานตั้งแต่ตอนนี้ พร้อมแนะวิธีการรับมือกรณีไฟดับ ไฟตก 33.18% อันดับ 3 ติดตามข้อมูลข่าวสารจากประเทศพม่าอย่างต่อเนื่องและแจ้งให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง 15.42% ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันดับ 1 จะต้องมีมาตรการรองรับหรือเตรียมหาพลังงานสำรอง เพื่อมาทดแทนให้กับประชาชน 51.67% อันดับ 2 ให้ความรู้ คำแนะนำและแจ้งเตือนประชาชนให้ช่วยกันประหยัดไฟ /เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม 31.45% อันดับ 3 เฝ้าระวังและติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง รายงานผลให้กับรัฐบาลได้รู้ความคืบหน้าตลอดเวลา 16.88%
ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ควรรับมือดังนี้ อันดับ 1 มีมาตรการรองรับหรือเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ แหล่งผลิตไฟฟ้าสำรอง การป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ถ้าเกิดไฟดับ ไฟตกจริง / เข้มงวดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย 53.98% อันดับ 2 ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจัง ลดกำลังการผลิต ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการหยุดส่งก๊าซ 28.79% อันดับ 3 จัดเตรียมเวรยาม พนักงานหรือเจ้าหน้าที่อยู่ประจำการณ์ในช่วงที่ไฟฟ้าอาจจะดับลงได้ 17.23% ส่วนวิธีการรับมือของประชาชน อันดับ 1 ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป 53.83% อันดับ 2 ทำตามคำแนะนำของภาครัฐ /เตรียมอาหารแห้ง ถังแก๊ส เทียน ตะเกียง ไฟฉาย ไว้ในยามฉุกเฉิน 26.63% อันดับ 3 ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ช่วยกันประหยัดไฟ ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น 19.54%
"อนาคตพลังงานของไทย อันดับ 1 อาจไม่พอใช้ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกไม่นานก็หมดไป 46.85% อันดับ 2 ควรหาพลังงานสำรองหรือพลังงานอื่นๆ มาทดแทน 21.44% อันดับ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐบาลจะต้องรณรงค์ให้คนไทยทุกคนรู้จักการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด /ใช้เฉพาะที่จำเป็น 19.92% อันดับ 4 จะต้องมีการควบคุมการใช้ไฟฟ้าในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ 11.79%".
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สอบถามความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,226 คน ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ. กรณีพม่าแจ้งหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 4-12 เม.ย.นี้ เพื่อซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติยาดานา จำเป็นต้องปิดระบบก๊าซทั้งหมดเป็นผลให้หลายฝ่ายเริ่มวิตก หวั่นว่าไฟฟ้าในประเทศไทยจะดับทั้งประเทศ โดยอันดับ 1 ประชาชนมองว่า เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลควรเร่งหาทางป้องกัน เตรียมความพร้อมและหามาตรการรองรับที่ชัดเจน 58.12% อันดับ 2 กลัวจะเกิดความวุ่นวาย ภาคธุรกิจต่างๆ และประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน 27.52% อันดับ 3 อยากให้ประเทศไทยมีแหล่งพลังงานของตนเองที่เพียงพอ ไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่น 14.36%
อย่างไรก็ตาม หากไฟดับจริง พบว่าอันดับ 1 ประชาชนค่อนข้างมั่นใจในการรับมือของรัฐบาล 43.45% อันดับ 2 ไม่ค่อยมั่นใจ 36.86% เพราะประเทศไทยมีการใช้ไฟฟ้าปริมาณมากขึ้น เมื่อเกิดข้อผิดพลาดอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ฯลฯ อันดับ 3 ไม่มั่นใจ 10.88% เพราะรัฐบาลไม่มีแผนรองรับที่ชัดเจน ทั้งกระทรวงพลังงาน กฟผ. ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อนฯลฯ อันดับ 4 มั่นใจมาก 8.81% เพราะเชื่อว่ารัฐบาลได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรง ฯลฯ
ทั้งนี้ รัฐบาลควรเตรียมพร้อมรับมืออย่างไร โดยอันดับ 1 ระบุสั่งการลงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เพื่อเตรียมรับมือและมีมาตรการป้องกันในเรื่องนี้โดยเร่งด่วน 51.40% อันดับ 2 ปชส.ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดไฟ ประหยัดพลังงานตั้งแต่ตอนนี้ พร้อมแนะวิธีการรับมือกรณีไฟดับ ไฟตก 33.18% อันดับ 3 ติดตามข้อมูลข่าวสารจากประเทศพม่าอย่างต่อเนื่องและแจ้งให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง 15.42% ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันดับ 1 จะต้องมีมาตรการรองรับหรือเตรียมหาพลังงานสำรอง เพื่อมาทดแทนให้กับประชาชน 51.67% อันดับ 2 ให้ความรู้ คำแนะนำและแจ้งเตือนประชาชนให้ช่วยกันประหยัดไฟ /เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม 31.45% อันดับ 3 เฝ้าระวังและติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง รายงานผลให้กับรัฐบาลได้รู้ความคืบหน้าตลอดเวลา 16.88%
ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ควรรับมือดังนี้ อันดับ 1 มีมาตรการรองรับหรือเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ แหล่งผลิตไฟฟ้าสำรอง การป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ถ้าเกิดไฟดับ ไฟตกจริง / เข้มงวดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย 53.98% อันดับ 2 ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจัง ลดกำลังการผลิต ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการหยุดส่งก๊าซ 28.79% อันดับ 3 จัดเตรียมเวรยาม พนักงานหรือเจ้าหน้าที่อยู่ประจำการณ์ในช่วงที่ไฟฟ้าอาจจะดับลงได้ 17.23% ส่วนวิธีการรับมือของประชาชน อันดับ 1 ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป 53.83% อันดับ 2 ทำตามคำแนะนำของภาครัฐ /เตรียมอาหารแห้ง ถังแก๊ส เทียน ตะเกียง ไฟฉาย ไว้ในยามฉุกเฉิน 26.63% อันดับ 3 ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ช่วยกันประหยัดไฟ ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น 19.54%
"อนาคตพลังงานของไทย อันดับ 1 อาจไม่พอใช้ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกไม่นานก็หมดไป 46.85% อันดับ 2 ควรหาพลังงานสำรองหรือพลังงานอื่นๆ มาทดแทน 21.44% อันดับ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐบาลจะต้องรณรงค์ให้คนไทยทุกคนรู้จักการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด /ใช้เฉพาะที่จำเป็น 19.92% อันดับ 4 จะต้องมีการควบคุมการใช้ไฟฟ้าในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ 11.79%".