xs
xsm
sm
md
lg

5เม.ย.กทม.-ใต้เสี่ยงไฟดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พลังงานถกรับมือพม่าหยุดจ่ายก๊าซฯ พบ 5 เม.ย.น่าห่วงสุด เสี่ยงไฟตกพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคใต้บางส่วน เหตุไฟสำรวจเหลือต่ำมากแค่ 600 เมกะวัตต์ อ้างต้นทุนพุ่ง ค่าไฟฟ้างวดหน้าจ่อขึ้นอีก 48 สตางค์/หน่วย "ปู" ถอดสูททำงาน มั่นใจไฟมีพอใช้ หากทุกคนช่วยกันประหยัด สหพันธุ์คุ้มครองผู้บริโภคอัดรัฐเล่นลิเก ปล่อยข่าวหวังขึ้นค่าไฟ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15 น. วานนี้ (20 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และได้สั่งให้เจ้าหน้าบนตึกไทยคู่ฟ้า ปรับลดอุณหภูมิภายในห้องต่างๆ ของตึกไทยคู่ฟ้าไปอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งปกติจะเปิดอยู่ที่ 23 องศาเซลเซียส แต่หากต้องรับรองแขกจำนวนมากจะปรับอุณหภูมิที่ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีมติให้ทุกหน่วยงานราชการรณรงค์ประหยัดพลังงานโดยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น และลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเหลือ 25 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้นำร่องเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยราชการ โดยไม่สวมสูทมาทำงานด้วย

จากนั้นเวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยบรรดารัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมก็พร้อมใจกันไม่สวมสูท เพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงาน

สำหรับการประชุมเรื่องการรับรองสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานระหว่างกระทรวงพลังงานกับ บมจ.ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีมติให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสำรองน้ำมันเตาและดีเซลเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับกรณีก๊าซธรรมขาติพม่าแหล่งยาดานาที่อาจจะต้องหยุดซ่อมยาวกว่าแผน หลังจากล่าสุดจะต้องหยุดจ่ายก๊าซฯ ระหว่าง 5-13 เม.ย.2556

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการประเมิน พบว่าวันที่ 5 เม.ย. จะเป็นวันที่เสี่ยงต่อไฟตกมากสุด เนื่องจากพบสำรองไฟฟ้าพร้อมใช้ (Hot Standby) ต่ำสุดเพียง 600 เมกะวัตต์ และระยะเวลาหยุดซ่อมดังกล่าว ส่งผลให้ กฟผ. ต้องปรับโรงไฟฟ้าบางแห่งมาใช้น้ำมันเตารวม 86 ล้านลิตร และดีเซล 47 ล้านลิตรรวม 133 ล้านลิตร ส่งผลกระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft รวม 2.20 สตางค์ต่อหน่วย แต่เนื่องจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ได้นำไปคิดในค่าไฟรอบม.ค.-เม.ย.2556 แล้ว 1.70 สตางค์ต่อหน่วย จึงเหลือที่จะต้องนำไปรวมกับรอบหน้า (พ.ค.-ส.ค.56) 0.48 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นอัตราที่ไม่มากนัก

“วันที่ 4 เม.ย.จริงๆ กำลังสำรองต่ำสุดเพียง 550 เมกะวัตต์ แต่ทางพม่าเลื่อนให้อีก 1 วัน ทำให้ไปหยุด 5 เม.ย. ซึ่งคาดว่าความต้องการใช้ไฟสูงสุด (พีค) จะอยู่ที่ 2.63 หมื่นเมกะวัตต์ สำรอง 600 เมกะวัตต์ ถ้าเรารักษาระดับพีคไม่ให้สูงเกินกว่า 2.7 หมื่นเมกะวัตต์ก็จะไม่เสี่ยงไฟดับ ดังนั้น ในวันที่ 5 เม.ย. จะมีการณรงค์การประหยัดพลังงาน เพื่อปลุกให้ประชาชนตื่นตัวต่อปัญหาดังกล่าวในช่วง 14.00-14.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่ากฟผ.กล่าวว่า วันที่ 5 เม.ย. ยอมรับว่าสำรองผลิตไฟฟ้าต่ำมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ไฟเพิ่ม แต่โรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบปีนี้จากผู้ผลิตไฟรายเล็กหรือ SPP เพียง 300 กว่าเมกะวัตต์เท่านั้น ประกอบกับเขื่อนปีนี้น้ำน้อยจึงนำมาเป็นสำรองพร้อมจ่ายได้ต่ำกว่าปกติ ซึ่งการหยุดจ่ายก๊าซฯ ช่วงดังกล่าวกรณีเลวร้ายสุดพื้นที่เสี่ยงจะเกิดไฟตกจะเป็นบริเวณกรุงเทพฯ และพื้นภาคใต้บางส่วน

“ท่อก๊าซฯ แหล่งยาดานาเกิดปัญหา ก็ทำให้เยตะกุนหยุดจ่ายไปด้วย เพราะค่าความร้อนต้องนำมาผสมกันรวม 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันที่หายไป กระทบต่อไฟฟ้าหายไป 6,000 เมกะวัตต์ แต่สามารถเดินราชบุรีมาเป็นน้ำมันเตาได้ทันทีเลย หายไป 4,100 เมะวัตต์ ขณะที่กำลังผลิตไฟจริงรวม 3.3 หมื่นเมกะวัตต์ ถ้าเกิดพีคสูงสุดไม่เกิน 2.7 หมื่นเมกะวัตต์ที่คาดว่าจะเกิดปีนี้ ก็น่าจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเกินก็อาจจะเกิดไฟตกบางจุดในกรุงเทพฯ และภาคใต้ได้ เพราะ 2 พื้นที่นี้ใกล้กับแหล่งผลิตไฟที่ต้องหยุดในภาคตะวันตก โดยเฉพาะภาคใต้จะต้องส่งไฟจากส่วนอื่นไปแทน ซึ่งเป็นระยะทางยาวในระบบส่ง”นายสุทัศน์กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2557 โรงไฟฟ้าเกิดใหม่ของ กฟผ. จะมีเข้าระบบ 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าจะนะยูนิต 2 และโรงไฟฟ้าวังน้อย ยูนิต 4 แต่หากความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นมาก ไทยก็ยังคงเสี่ยงกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันไทยยังต้องพึ่งพิงก๊าซฯ ผลิตไฟมากสุดถึง 70% ซึ่งจะเห็นว่าประเทศมาเลเซียที่มีแหล่งก๊าซฯ เป็นของตนเอง ยังต้องกระจายความเสี่ยงไปพึ่งถ่านหินผลิตไฟแล้วถึง 40% ขณะที่ไทยพึ่งพิงถ่านหินผลิตไฟเพียง 18% เท่านั้น การคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคตไทยจะลำบากและที่สุดประชาชนจะต้องใช้ไฟแพงเพราะก๊าซฯ จะต้องนำเข้าในรูปของเหลว (แอลเอ็นจี) ที่มีราคาสูงมาก

เมื่อเวลา 15.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ในการแก้ปัญหา เรื่องไฟสำรอง เรายังมีพลังงานสำรองบางส่วนอยู่ แต่อาจจะมีปัญหาติดขัดบ้าง และไฟตกในบางพื้นที่ แต่ถ้าเรามาร่วมกันรณรงค์ประหยัดพลังงานตั้งแต่วันนี้ ก็อาจจะมีพลังงานสำรองได้เพียงพอ อาจจะไม่เกิดผลกระทบมากในวันที่ 5 เม.ย. ส่วนวันอื่นมีการแก้ปัญหาได้แล้ว

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้เตรียมสั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด โดยเฉพาะในพื้นที่ของกรุงเทพฯ และภาคใต้ รับมือด้วยการสำรองเงินสด เพื่อใช้ในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะใช้กับเครื่องปั่นไฟฟ้า เพื่อสำรองไฟกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และให้มีการประหยัดการใช้ไฟฟ้า ส่วนการรักษาพยาบาลให้มีการวางแผนเรื่องการรับผู้ป่วย เช่น ในรพ.ชุมชน จากเดิมกระจายอยู่ในแต่ละตึก ให้รวมกันในตึกเดียวจนเต็ม ก่อนค่อยกระจาย เพื่อประหยัดไฟฟ้า และพลังคนในดูแลคนให้ทั่วถึงมากขึ้น รวมการส่งต่อผู้ป่วยที่ต้องมีการวางแผนให้ดี และยังจะเจรจากับการไฟฟ้าให้จัดลำดับความสำคัญของหน่วยงานของกระทรวงฯ ไว้ในลำดับต้นๆ ของการจ่ายกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงพยาบาล ซึ่งต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วย

วันเดียวกันนี้ ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษ์ นางจิราพร ลิ้มปานานนท์ และนายประสาท มีแต้ม คณะกรรมการอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ได้ร่วมกันแถลงข่าวหัวข้อ "เราผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ไม่ง้อก๊าซ" และในประเด็นร้อนช่วงเดือน เม.ย. อาจปิดไฟ ไม่มีไฟฟ้าใช้ มีคำถามว่าจริงหรือ ทำไมต้องยืมจมูกเขาหายใจ มีความพยายามแค่ไหนที่หน่วยงานของไทยจะผลิตเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนโดยไม่พึ่งพาก๊าซจากพม่าและมาเลเซีย

นายบุญยืน ศิริพันธุ์ ประธานสหพันธุ์คุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไรเลยกับวิฤกติพลังงาน เพราะรู้แล้วว่าการที่รัฐบาลพูดอย่างนี้ เพราะต้องการขึ้นค่าไฟ ปีที่แล้วก็พูดแบบนี้ โรงไฟฟ้าจะปิดซ่อม ท่อก๊าซจะปิดซ่อม ใช้ไฟฟ้าสูงสุด สุดท้ายสรุปคือ สร้างโรงไฟฟ้าใหม่จากถ่านหิน และขึ้นค่าไฟ แต่ไม่มีนโยบายจะแก้ไขปัญหาพลังงานเพื่อการพึ่งพาตนเองเลย มีความรู้สึกว่ารัฐบาลทำตัวเป็นลิเก ประกาศไฟฟ้าจะขาด ถอดเสื้อสูทแก้ผ้า แต่ยังใช้ก๊าซฯ ยังผูกขาดพลังงาน ทั้งนี้ เห็นว่า รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ควรเป็นตัวอย่างติดตั้งโซ่ล่าเซลล์ ผลิตไฟฟ้าใช้เอง ผลิตไฟฟ้าจากแสงแดดบนหลังคาได้

ส่วนเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมาภิบาล สภาเครือข่ายการเมืองภาคพลเมือง นำโดย พญ. กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนาย รักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผนดินขอให้ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล กรณีที่ให้ข่าวว่าพม่าจะหยุดส่งก๊าซฯ ให้ไทย จะมีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยเห็นว่าเป็นการให้ข่าวให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ทั้งๆ ที่เป็นความผิดพลาดในการทำสัญญาระหว่างไทยกับพม่า ที่ให้ ปตท. ผูกขาดการนำเข้า
กำลังโหลดความคิดเห็น