xs
xsm
sm
md
lg

เตือนหุ้นไทยเสี่ยงมี.ค.-เม.ย.ดิ่งถึง100จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- นักวิเคราะห์ เตือนนักลงทุน มี.ค.-เม.ย.ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง จากความกังวลสหรัฐกลับมาพิจารณาขยายเพดานหนี้ –ต่างชาติขายทำกำไรหลังได้กำไรหุ้น-ค่าบาทจากซื้อสะสมในช่วงปลายปีทีผ่านมา ระบุหนักสุด 100 จุด เชื่อหลังเม.ย.ดัชนีตลาดหุ้นไทยวิ่งต่อ ด้านบล.เคจีไอ คาดสิ้นปีอยู่ที่ 1,680 จุด ขณะบล.บัวหลวงประเมิน1.64 พันจุด ล่าสุดดัชนีหุ้นไทยทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 ปีอีกครั้ง ปิดที่ 1,546.64 จุด

วานนี้ (20 ก.พ.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.บัวหลวง และบลจ.วรรณ จัดเสวนา "กูรูฟันธง หุ้นไทยไปต่อหรือไม่" ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ ฯ
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGIกล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (20ก.พ.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก นักลงทุนเข้ามาเก็งไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกาศผลออกมา เช่น หุ้นค้าปลีก และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ผลประกอบการออกมาดี ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ได้มีการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ทางบล.เคจีไอ คาดว่าในการประชุมครั้งหน้าของกนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจาก ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่จะชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และเรื่องการที่สหรัฐจะมีการหารือในเรื่องการขยายเพดานหนี้ โดยคาดว่าปีนี้จะมีการปรับลงอีก ประมาณ 0.25-0.50%
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมีนาคมและ เดือนเมษายนนี้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการลงทุน จากที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวลดลง มีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการที่สหรัฐอเมริกาจะกลับมาพิจารณาในการขยายเพดานหนี้ ซึ่งจะต้องเจรจาให้จบภายในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ หาก ในเดือนเมษายนยังไม่สามารถตกลงกันได้อาจจะมีผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงประมาณ 30-50 จุด ประกอบกับที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หลังจากช่วงเดือนเมษายนแล้วหากไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบ ประกอบกับเงินสภาพคล่องที่มีอยู่สูงในโลกนั้น ทำให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย โดยบริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,680 จุด P/E ที่ 14 เท่า และคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้เพิ่มขึ้น 16%
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)หรือ BLS กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากที่ยังไม่มีข่าวร้ายเข้ามากระทบ ซึ่งการที่กนง.คงดอกเบี้ย นั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่อการลงทุนในหุ้น แต่ในช่วงระยะสั้นอาจจะเป็นสัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจมีการพักฐานระยะสั้น จากที่เดือนมีนาคมและเมษายน ดัชนีจะมีการปรับตัวลดลงเพราะ เรื่องปัญหาหนี้สหรัฐ ซึ่งจะปรับลงประมาณ 7% หรือ 80-100 จุด ได้ โดยจะมีแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ เพราะ ตั้งแต่พฤศจิกายน ถึงปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเข้ามาพอสมควร และมีกำไรจากราคาหุ้นประมาณ 7-8% แล้ว บวกกับมีกำไรจากค่าเงินบาทอีก 2-3 %
จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวลดลงระยะสั้นนั้นถือว่าเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะเข้าไปลงทุนในหุ้น ซึ่งนักลงทุนควรเลือกลงทุนเป็นรายตัว โดยปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของการลงทุนในหุ้นตั้งแต่ SET 51-SET100 จากที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมาก โดยควรเลือกหุ้นทมีปัจจัยพื้นฐานดี มีกำไรเติบโตในอนาคต โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,640 จุด
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมองว่าหุ้นที่น่าลงทุนเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงุทนภาครัฐ การบริโภคในประเทศ ส่วนครึ่งปีหลัง ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจโลก จากมองว่าจะกลับมาดี เช่น หุ้นกลังงาน ด้านต้นน้ำ แก๊ส ถ่านหิน
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงปีนี้ปีหน้าถือว่ายังดีอยู่ ซึ่งมองว่า ปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,600 จุด และ คาดว่าปีหน้าจะอยู่ที่ 1,720 จุด แต่การลงทุนในหุ้นก็จะลงทุนยากขึ้น จากที่มีความผันผวนสูง
ด้านบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ 1,546.64 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ 0.95% มูลค่าการซื้อขายรวม 63,091.92 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิต่อเนื่องอีก 356.38 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น