“พรีเมียร์ โพรดักส์” เทรดวันแรกราคาเกือบซิลลิ่ง ด้านผู้บริหารชี้จากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานดี นักลงทุนสนใจลงทุนจำนวนมากจากจองล้นถึง 19 เท่าภาวะตลาดเอื้อ คาดปีนี้มีรายได้จากไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 300 ล้านบาท ขณะธุรกิจหลักโตต่อเนื่องหนุนรายได้รวมปีนี้โต 20% จากปีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นวันแรกของบริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPP ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยเปิดตลาดที่ 14 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 9 บาท หรือเพิ่มขึ้น 180% จากราคาจองที่ 5 บาท ระหว่างวันราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 14.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.60 บาท กลับมาปิดตลาดที่ระดับ 12.30 บาท เพิ่มขึ้น 7.30 บาท หรือเพิ่มขึ้น 146% มูลค่าซื้อขาย 1,909.44 ล้านบาท
นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพร์ดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPP เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทเปิดซื้อขายออกมาอยู่ที่ 14 บาทต่อหุ้น ซึ่งเพิ่มขึ้น 180% ซึ่งถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเกินความคาดหมายของบริษัท โดยส่วนตัวมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจาก หุ้นของบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีรายได้ และกำไรเติบโตต่อเนื่องและมีการจ่ายเงินปันผลที่ชัดเจน และในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นนั้น นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองซื้อหุ้นสูงกว่าจำนวนหุ้นจัดสรรให้ถึง 19 เท่า ทำให้นักลงทุนไม่ได้รับจัดสรรหุ้นมีการเข้ามาซื้อหุ้นในกระดาน
นอกจากนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวดี ซึ่งส่วนตัวมองว่าราคาหุ้นของบริษัทน่าจะมีการทรงตัวในระดับนี้ได้ โดยผลประกอบการปี 2555 บริษัทจะยังไม่มีการจ่ายเงินปันผลจากที่ยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่แต่ภายในไตรมาส 1/56 บริษัทจะล้างขาดทุนสะสมที่มีจำนวน 90 ล้านบาท ได้หมด เพราะนำเงินจากกำไรปี 55 ส่วนใหญ่มาล้าง และรวมกับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้บางส่วน
ทั้งนี้ ปี 2556 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2555 ที่คาดว่าจะมีรายได้โตประมาณ 50% จากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 916.14 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรกปี 2555 มีรายได้รวม 993.51 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 300 ล้านบาท เพราะบริษัทจะมีการขายไฟฟ้าอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันที่ขายแล้ว 1 แห่ง ทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม รวม 15 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทในการผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมด้านระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบสำรองน้ำ และธุรกิจผลิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างนั้น มีการเติบโตตามอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปีนี้มีการเติบโตที่สูง ส่วนแผนการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา
น.ส.พัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPP กล่าวว่า หุ้นของ PPP เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งสถาบันต้องการที่จะเข้ามาลงทุนจำนวนมาก จากที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต และปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากโรงงานผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เพิ่มอีก 2 โรงงาน จากปัจจุบันที่รับรู้แล้ว 1 แห่ และบริษัทมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยส่วนตัวมองว่า PPP เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว