เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง โชว์ผลงานปี 55 กำไรสุทธิ 158 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 272 ล้านบาท ในปี 2554 หรือเติบโตกว่า 158% เหตุมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ผลจากการลดค่าใช้จ่ายด้านบริหาร แถมมีกำไรจากเงินลงทุนในสินทรัพย์เข้ามาเสริม ด้านผู้บริหารเปิดแผนธุรกิจปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายจากวัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักแตะ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อน และเตรียมขยายไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มยอดขาย และมาร์จิ้น
นายนันท์มนัส โพธิ์แดง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2555 ก่อนการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี มีกำไรสุทธิ 158.50 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในปี 2554 ที่ 272.14 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 158% เนื่องจากผลการดำเนินงานทุกด้านที่ปรับตัวดีขึ้น โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ทำให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นกว่า 60 ล้านบาท และมีกำไรจากมูลค่าของเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารลงได้กว่า 80 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ GEN ในปี 2556 นี้ บริษัทมีแผนที่จะเน้นการขายเสาเข็ม และวัสดุก่อสร้างที่เป็นธุรกิจหลักให้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านๆ มา โดยคาดว่าจะมียอดขายแตะระดับ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15% ขณะเดียวกัน บริษัทก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และสามารถลดต้นทุนการผลิตของบริษัทลง
ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ผู้ถือหุ้นเคยให้ความเห็นชอบในการลงทุน ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารหลักผู้ให้สินเชื่อของโครงการ ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นรับทราบในทันทีที่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
นายนันท์มนัส โพธิ์แดง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2555 ก่อนการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี มีกำไรสุทธิ 158.50 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในปี 2554 ที่ 272.14 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 158% เนื่องจากผลการดำเนินงานทุกด้านที่ปรับตัวดีขึ้น โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ทำให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นกว่า 60 ล้านบาท และมีกำไรจากมูลค่าของเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารลงได้กว่า 80 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ GEN ในปี 2556 นี้ บริษัทมีแผนที่จะเน้นการขายเสาเข็ม และวัสดุก่อสร้างที่เป็นธุรกิจหลักให้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านๆ มา โดยคาดว่าจะมียอดขายแตะระดับ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15% ขณะเดียวกัน บริษัทก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และสามารถลดต้นทุนการผลิตของบริษัทลง
ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ผู้ถือหุ้นเคยให้ความเห็นชอบในการลงทุน ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารหลักผู้ให้สินเชื่อของโครงการ ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นรับทราบในทันทีที่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว