xs
xsm
sm
md
lg

“พรีเมียร์ โพรดักส์” เคาะช่วงราคา IPO 4.96-5.00 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พรีเมียร์ โพรดักส์ เคาะกรอบราคาขายหุ้น IPO ที่ 4.96-5.00 บาท/หุ้น พร้อมได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเรียบร้อยแล้ว ประเมินตั้งราคาจูงใจหวังเอาใจผู้ถือหุ้นใหม่หลังธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้าน “สุรเดช บุณยวัฒน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจปีนี้ PPP โชว์ผลงานโดดเด่นหลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครบทั้ง 3 โครงการ

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ เปิดเผยว่า ได้กำหนดช่วงราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) ของ บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 82.5 ล้านหุ้นแล้ว ในช่วงราคาเสนอขายหุ้นละ 4.96 - 5.00 บาท

โดยบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนจากสำนักงาน ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การตั้งราคาดังกล่าวเมื่อเทียบกับ P/E ปัจจุบันของบริษัทจดทะเบียนและหมวดธุรกิจที่นำมาเปรียบเทียบจะมีส่วนลดประมาณ 20% ซึ่งจะมีการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นจากนักลงทุน (Book Building) โดยราคาขายสุดท้ายจะอยู่ที่ผลการ Book Build ของนักลงทุนสถาบัน

ทั้งนี้ P/E ของบริษัทฯ จะปรับลงได้อีกมากจากการเติบโตของผลประกอบการในปีนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อนอย่างชัดเจน จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมในโครงการที่ 2 และ 3 ซึ่งมีขนาดโรงละ 5 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในต้นไตรมาส 2 ปี 2556 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อเนื่อง

“เรากำหนดช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่ระดับราคา 4.96 - 5.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาเหมาะสมและมีส่วนลดให้นักลงทุนในระดับที่น่าพอใจ หากพิจารณาจากผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้เติบโตกว่าร้อยละ 55 ในขณะที่กำไรเติบโตกว่าร้อยละ 77 จากงวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจหลักของบริษัทคือธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้านระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำ และกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่สดใส ประการสำคัญ ในปีนี้บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้ทั้ง 3 โรง ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนให้ P/E ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจน และจะให้การตอบรับต่อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท พรีเมียร์โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างดี” นางสาวพัชพรกล่าว

นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่ากรอบราคาหุ้น IPO ที่กำหนดในครั้งนี้จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จูงใจให้หุ้นของ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะกำหนดไว้ที่ P/E ที่เหมาะสมและให้มีส่วนลดให้แก่นักลงทุนในระดับที่น่าสนใจ ในขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างโดดเด่นในปีนี้ จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าครบทั้ง 3 โครงการ และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจหลักอีก 3 กลุ่มธุรกิจที่ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายสุรเดชกล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงนี้เห็นได้จากผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี2555 บริษัทฯ มีรายได้ 993.51 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 640.46 ล้านบาท และเทียบกับปี 2554 ทั้งปีที่มีรายได้ 916.14 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าเพียง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทฯ ก็สามารถสร้างรายได้ได้สูงกว่าปี 2554 ทั้งปี ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่นของรายได้ในปี 2555 และต่อเนื่องไปถึงปี 2556 ที่บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 2 โครงการด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น