xs
xsm
sm
md
lg

ถก20ก.พ.รับวิกฤตก๊าซหวั่นไฟดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “เฮียเพ้ง” เรียกถกด่วนกฟผ.-ปตท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 ก.พ.รับมือวิกฤตก๊าซฯพม่าที่อาจทำให้ไทยเสี่ยงไฟดับบางโซน “กฟผ.”ย้ำจะดูแลไม่ให้เกิดขึ้น ทุกฝ่ายพร้อมงัดแผนรณรงค์คนไทยประหยัดทั้งปิดไฟบ้านละดวง ปิดแอร์ เบรกการใช้ ขณะที่ ส.ว. จี้รัฐบาลเร่งหามาตรการรองรับวิกฤติพลังงาน แนะหยิบแผนใช้นิวเคลียร์มาทบทวน

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 20 ก.พ.นี้จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และบมจ.ปตท.กระทรวงพลังงานมาหารือถึงแผนการเตรียมพร้อมรับมือกรณีก๊าซพม่าหยุดจ่ายในแหล่งยาดานาเนื่องจากแท่นผลิตทรุดซึ่งจะทำให้ก๊าซฯแหล่งเยตากุนที่จะต้องนำมาผสมให้ค่าความร้อนเหมาะสมต้องหยุดไปด้วยทำให้ก๊าซฯหายไปจากระบบ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันซึ่งจะกระทบต่อกำลังการผลิตไฟฟ้าฝั่งตะวันตกหายไปอย่างน้อย 4,100 เมกะวัตต์

“พม่าแจ้งมาที่จะหยุดซ่อมช่วง 4-12 เม.ย.นี้เราเองก็พยายามจะเจรจาให้เลื่อนไปช่วงสงกรานต์เพราะโรงงานอุตสาหกรรมหยุดมากจะได้หรือไม่แต่ถึงจุดนี้แล้วผมเห็นว่าวิกฤตนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้แป็นอุทาหรณ์ให้คนไทยระมัดระวังในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไว้ในอนาคตเพราะเราพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟมากไปโดยหากแหล่งพม่าเกิดปัญหาเราจะลำบากดังนั้นอนาคตหากพึ่งพิงถ่านหินที่สะอาดจะทำให้เราไม่เสี่ยงไฟดับและยังมีราคาถูกกว่า”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่ากฟผ.กล่าวว่า กรณีก๊าซฯพม่าครั้งนี้จะต่างจากแผนหยุดซ่อมทั่วไปตรงที่ความต้องการใช้ไฟของไทยสูงขึ้น แต่สำรองไฟฟ้าพร้อมใช้ (ฮอท แสตนบาย) ต่ำผิดปกติเหลือเพียง 600 เมกะวัตต์จากมาตรฐานที่ 1,200 เมกะวัตต์ซึ่งสำรองไฟพร้อมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานน้ำจากเขื่อนแต่เขื่อนของไทยยอมรับว่าขณะนี้น้ำไม่มากนัก ประกอบกับช่วงเมษายนจะมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค) ซึ่งประเมินว่าปีนี้จะอยู่ที่ 2.7 หมื่นเมกะวัตต์จากปีที่แล้ว 2.6 หมื่นเมกะวัตต์ ขณะที่กำลังผลิตรวม 3.2 หมื่นเมกะวัตต์หากพีคสูงกว่าที่คาดไว้ก็อาจเสี่ยงไฟดับบางพื้นที่หรือบางโซนหรือ Brownout แต่ยังไม่ถึงขั้นไฟดับทั่วประเทศหรือ Blackout

“เรามีกำลังผลิต 3.2 หมื่นเมกะวัตต์แต่สำรองไฟตามแผนมี 15% ซึ่งข้อเท็จจริงจะต้องดูที่กำลังผลิตสำรองพร้อมจ่ายที่จะผลิตมาในช่วงฉุกเฉินได้ทันทีซึ่งเรามีต่ำเพียง 600 เมกะวัตต์ดังนั้นถ้าพีคไม่เกิดขึ้นผิดปกติช่วงเมษายนก็ไม่น่ามีปัญหาดังนั้นจะต้องหาแนวทางรับมือในจุดนี้โดยเฉพาะที่ผ่านมาก็เคยทำเช่น การรณรงค์ปิดไฟบ้านละดวง ปิดเครื่องปรับอากาศซึ่ง 1 ล้านเครื่องก็ทำให้ลดใช้ไฟถึง 1,000 เมกะวัตต์”นายสุทัศน์กล่าว

*** ส.ว. จี้รัฐบาลเร่งหามาตรการรองรับวิกฤตพลังงาน

นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี กล่าวว่าฝากถึงรัฐบาลในการแก้ปัญหาวิกฤติพลังงาน 3 ระดับ คือ ในระยะสั้น ขอให้รัฐบาลเตรียมเรื่องพลังงานสำรองมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า เช่น น้ำมันเตา แต่อาจจะส่งผลให้ค่าเอฟที มีอัตราสูงขึ้น รวมทั้งประสานไปยังประเทศลาว ขอให้เร่งผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำที่มีอยู่ ส่วนระยะกลาง ตามที่รัฐบาลมีโครงการประมูลผู้ผลิตไฟฟ้าจากภาคเอกชน (ไอพีพี) โดยใช้พลังงานจากแก๊สอีก 5,400 เมกกะวัตต์ ซึ่งเดิมทีมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแก๊สอยู่แล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หากมีการประมูลเพิ่มอีกตามจำนวนดังกล่าวก็จะทำให้สัดส่วนของการใช้แก๊สยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นในอนาคตอีกหรือไม่ หากต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงจากแก๊สมากเกินไป และในระยะยาวรัฐบาลควรต้องพิจารณาทบทวนแหล่งพลังงานที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเป็นพลังงานทดแทน หรือพลังงานน้ำทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน หรือให้มีการทบทวนเรื่องการใช้พลังงานถ่านหิน

***'อภิสิทธิ์' จับตามองรัฐจ้องหาเหตุขึ้นราคาแก๊ส

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาที่อาจจะเกิดวิกฤติพลังงานว่า เรื่องน้ำมันนั้นผมก็กำลังจับตาดู ทำไมราคาน้ำมันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นมันพุ่งขึ้นพรวดพราด แล้วก็ไปพบความเป็นจริงที่น่าสนใจว่า ถ้าเราลองเปรียบเทียบราคาน้ำมันในปัจจุบัน กับราคาตอนประมาณวันเลือกตั้ง เอาอย่างนั้นก็แล้วกัน เราจะพบความจริงว่า ราคาน้ำมันดิบนั้น แทบไม่แตกต่างกัน แต่ว่ามีปัจจัยที่ความจริงควรจะช่วยเราในขณะนี้ก็คือ ค่าเงินบาทนั้นแข็งขึ้น เพราะฉะนั้นน้ำมันที่นำเข้ามาคิดเป็นเงินบาทก็ต้องราคาถูกลง

ทีนี้ดีเซลในช่วงหลัง รัฐบาลก็มายึดถือนโยบายของรัฐบาลที่แล้ว คือไม่ให้เกิน 30 บาท แต่ว่ามีช่วงนึงนั้นปล่อยเกินไปจนกระทั่ง ค่าขนส่งอะไรต่างๆ ขึ้นไปแล้ว ทีนี้พอมาดูเบนซิน ที่ยิ่งแปลกก็คือว่า รัฐบาลซึ่งเดิมหาเสียงว่า จะลดราคาตรงนี้ลงมา มาถึงวันนี้ราคาน้ำมันเบนซินแพงกว่าวันเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันนั้นเท่ากัน และกองทุนน้ำมันที่รัฐบาลบอกจะเลิกเก็บ วันนี้ปรากฎว่า เก็บแพงกว่าเดิม แพงกว่าก่อนเลือกตั้งอีก เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่า นโยบายพลังงานที่หาเสียงไว้ ไม่ใช่สิ่งที่ทำ แล้วก็ขณะนี้ที่ทำกันอยู่ ก็เป็นปัญหาว่า กลายเป็นการซ้ำเติมประชาชน มากกว่าการที่จะดูแลประชาชน อย่างที่เคยโฆษณาหาเสียงไว้

ส่วนเรื่องแก๊สนั้น ที่จริงกรณีของการซ่อม ปิดซ่อม หรือการบางครั้ง แก๊สส่งมาจากพม่าไม่ได้นั้นก็เคยเกิดขึ้นนะครับ ที่น่าแปลกใจครั้งนี้ก็คือว่า ทำไมรัฐมนตรีพลังงาน แทนที่จะไปดูเป็นการภายในก่อนว่า สมมติว่าทางพม่าแจ้งมาว่าจะไม่สามารถส่งแก๊สเข้ามาได้ กี่วัน ในปริมาณเท่าไหร่ก็ตาม ก็ต้องไปดูว่ามีแผนรองรับอย่างไร เพราะในอดีตก็ต้องทำกันอย่างนั้น แต่แทนที่จะทำอย่างนั้น กลับกลายเป็นเหมือนกับมาพูดทำนองว่า โอ้สถานการณ์แย่แล้ว

ในระยะหลังนั้นเรามักจะได้ยินการพูดของทางกระทรวงพลังงาน หรือผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน ให้เกิดความเข้าใจถึงปัญหาว่าขณะนี้แก๊สกำลังจะไม่พอ กำลังจะขาดแคลนอะไรต่างๆ ผมเห็นว่ามันค่อนข้างผิดปกติอยู่เหมือนกันว่า จริงๆ แล้วกรณีอย่างเช่นที่พูดถึงว่าจะปิดซ่อม หรืออะไรต่างๆ มันก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นผมว่ามันก็คงเป็นความพยายามที่จะมาสอดรับกับแผนการการจะขึ้นราคาแก๊สบ้าง หรือว่าการจะต้องไปเจรจากับทางกัมพูชา หรืออะไรก็ว่ากันไป

***ตั้ง'วิเชษฐ์ เกษมทองศรี' นั่งประธานปตท.ปลายก.พ.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ บอร์ดปตท. ในช่วงปลายเดือนก.พ. 2556 นี้คณะกรรมการปตท. จะเสนอลงมติแต่งตั้งนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี มาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ปตท. แทนนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ที่ลาออกจากการเป็นประธานบอร์ด ปตท. ในการประชุมเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2556 สำหรับบุคคลที่จะเป็นประธานบอร์ด ปตท. ต้องมีคะแนนเสียงโหวตคัดเลือกจากบอร์ด ปตท.ทั้ง 15 คน โดยต้องมีคะแนนเสียงโหวต 3 ใน 4 ของจำนวนบอร์ด หรือ 10 เสียงขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น