ASTVผู้จัดการรายวัน- เทศกาลวาเลนไทน์ทั่วประเทศคึกคัก! คู่รักควงจดทะเบียนสมรส กทม.จดกว่า2พันคู่ ฮือฮา! กลุ่มรักร่วมเพศ เลือกเป็นวันพิเศษเดินหน้าใช้สิทธิ เป็นวันฉลองสมรส-จดทะเบียน แต่แห้ว!นายทะเบียนปัดอ้างขัดกฎหมาย “ทอม-ดี้”โวย เล็งยื่น นายกฯปู อ้อนขอสิทธิคู่รักเพศเดียวกัน ด้าน “ชายรักชายเมืองโอ่ง” ยกขันหมาก 3 ล้านบาทครองรักบานฉ่ำ
วานนี้ (14 ก.พ.) ที่สำนักงานเขตบางรัก มีการจัดงาน รัก ณ บางรัก “เคียงคู่ สู่ฝัน ในวันใหม่" เนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ ได้มีคู่รักจูงมือกันมาจดทะเบียนสมรสเป็นจำนวนมาก โดยคู่แรก นางสาวปาริชาติ ภูนกยูง และนายพูนทรัพย์ บุญสร้อย เดินทางมาจากเขตบางกะปิ ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 13 ก.พ.นางสาวปาริชาติ บอกว่า เพิ่งแต่งงานกันได้ 7เดือน ซึ่งวันนี้เป็นวันดี ชื่อดี จึงตั้งใจจะมาจดทะเบียนสมรส
พบว่ามีคู่รักที่สวมชุดแต่งงานเพื่อจะมาจดทะเบียนสมรส คือ น.ส.รุ่งทิวา ตังคโนภาส แต่งกายในชุดเจ้าสาวสีขาว พร้อมด้วย น.ส.ภัลลวี จงตั้งสัจธรรม แต่งกายในชุดสูทคล้ายเจ้าบ่าว เดินทางมาพร้อมกลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศที่ถือป้ายเรียกร้องสิทธิและเปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันได้มีโอกาสจดทะเบียนสมรส แต่ได้รับการปฏิเสธจากสำนักงานเขต เนื่องจากขัดต่อหลักกฎหมาย ทั้งคู่บอกว่าจะทำเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสภาผู้แทนราษฎร และถ้ายังพอมีเวลาเหลือจะเดินหาเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นใจและคิดว่านายกฯน่าจะเข้าใจเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน
น.ส.อัญชนา สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการมูลนิธิอัญจารี หนึ่งในเครือข่ายความหลากหลายทางเพศกล่าวว่า คู่รักที่มาวันนี้ตั้งใจจะมาแสดงออกถึงความรัก โดยทางเครือข่ายทราบอยู่ก่อนแล้วว่ากฎหมายไม่รองรับการจดทะเบียนสมรสระหว่างเพศเดียวกัน แต่ที่มาก็เพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะนำเอกสารยืนยันเหตุผลที่ไม่อนุญาตให้จดทะเบียน ไปใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอให้แก้ข้อกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ที่มาในวันนี้ก็เพื่อยืนยันการมีตัวตน และเรียกร้องขอให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อให้คู่รักเพศเดียวกันได้รับสิทธิเหมือนกับคู่รักต่างเพศ ทั้งสิทธิในด้านการดูแลคู่รัก และสวัสดิการต่างๆ ที่จะได้รับหากเป็นคู่สมรสกัน รวมถึงการยอมรับจากสังคม
ด้านน.ส.นภาภรณ์ สวัสดิมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า สำหรับสถิติจำนวนประชาชนที่มาจดทะเบียนสมรสเนื่องในวันวาเลนไทน์ทั้ง 50 สำนักงานเขตมีทั้งสิ้น 2,184 คู่
ที่จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอร้องสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวว่า วันนี้ขอให้ถามในหัวข้อที่เหมาะกับวันแห่งความรัก และขอถือโอกาสวันวาเลนไทน์ มอบความรักให้กับประชาชนคนไทยทุกคน และอยากเห็นวันแห่งความรัก เป็นวันแห่งความรักของเราทุกๆวัน ในระหว่างให้สัมภาษณ์นายกฯ ได้โชว์ดอกกุหลาบที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี่ ประธานมูลนิธิโครงการหลวงประทานให้ ขณะเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการหลวง
ส่วนที่เรียกเสียงฮือฮาในวันวาเลนไทน์ เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีพิธีมงคลสมรส (ชายแต่งกับชาย ) ระหว่าง เอกชัย ไชยชาญ (เจ้าบ่าว) กับ ชัยชนะเรศ เพ็งจันทร์ (เจ้าสาว) ช่วงเช้าเวลา 07.00 น.พิธีใส่บาตรเช้า 09.09 น.พิธีแห่ขันหมากส่งเสียงโห่ร้องเดินเข้ามายังบ้านฝ่ายเจ้าสาว โดยมีการจัดเครื่องขันหมากตามประเพณี รวมทั้งพานใส่เงินสินสอดธนบัตรใบละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,000,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 12 บาท กำไลเพชรข้อมือ 1 อัน แหวนเพชร 2 วง รถยนต์เก๋งเชฟโรเลต 1 คัน รวมกว่า 3 ล้านบาท โดยในช่วงเย็มมีงานเลี้ยงโต๊ะจีน
ที่ จ.เชียงใหม่ มีคู่สมรสจำนวนมากเดินทางมายังหอประชุม อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อจดทะเบียนสมรส พร้อมกันนี้ได้คู่สมรส คนรักเพศเดียวกันได้เดินทางมายื่นขอจดทะเบียนสมรส ซึ่งสร้างความสนใจให้คู่สมรสคู่อื่น โดยคู่สมรส คนรักเพศเดียวกัน จำนวน 3 คู่ ประกอบด้วย คู่ของนายชานนท์ ณ เชียงใหม่ อายุ 27 ปี กับนายโญฟินน์ เยาวนา สาวประเภทสองอายุ 28 ปี, คู่ของนายณัฐพล พันธุ์อุโมงค์ อายุ 23 ปี และนายเวจตวรุฒ บุญแปง อายุ 21 ปี และคู่ของ น.ส.กฤษ จาแสง อายุ 24 ปี และ น.ส.ซาราห์ เบิกค์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยกลุ่มผู้สนับสนุนการรับรองสิทธิทางกฎหมายของคู่ชีวิตโดยไม่จำกัดเพศ ได้เคลื่อนขบวนออกจากลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เดินทางมายังหอประชุมอำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสมรสต่อนายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองเชียงใหม่
ด้านนายอรรถชาได้ชี้แจงต่อคู่สมรสทั้ง 3 คู่ว่า ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้ได้ เนื่องจากสถานะของคู่สมรสไม่เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งการสมรส ซึ่งขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลังจากชี้แจงให้คู่สมรสทั้ง 3 คู่ได้ทราบแล้ว ทั้งหมดเซ็นชื่อรับทราบลงในเอกสารการยื่นขอจดทะเบียนสมรส พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจที่ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่สามารถดำเนินการตามความต้องการของคู่สมรสได้ พร้อมทั้งมอบของที่ระลึกให้แก่คู่สมรสทั้ง 3 คู่
วานนี้ (14 ก.พ.) ที่สำนักงานเขตบางรัก มีการจัดงาน รัก ณ บางรัก “เคียงคู่ สู่ฝัน ในวันใหม่" เนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ ได้มีคู่รักจูงมือกันมาจดทะเบียนสมรสเป็นจำนวนมาก โดยคู่แรก นางสาวปาริชาติ ภูนกยูง และนายพูนทรัพย์ บุญสร้อย เดินทางมาจากเขตบางกะปิ ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 13 ก.พ.นางสาวปาริชาติ บอกว่า เพิ่งแต่งงานกันได้ 7เดือน ซึ่งวันนี้เป็นวันดี ชื่อดี จึงตั้งใจจะมาจดทะเบียนสมรส
พบว่ามีคู่รักที่สวมชุดแต่งงานเพื่อจะมาจดทะเบียนสมรส คือ น.ส.รุ่งทิวา ตังคโนภาส แต่งกายในชุดเจ้าสาวสีขาว พร้อมด้วย น.ส.ภัลลวี จงตั้งสัจธรรม แต่งกายในชุดสูทคล้ายเจ้าบ่าว เดินทางมาพร้อมกลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศที่ถือป้ายเรียกร้องสิทธิและเปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันได้มีโอกาสจดทะเบียนสมรส แต่ได้รับการปฏิเสธจากสำนักงานเขต เนื่องจากขัดต่อหลักกฎหมาย ทั้งคู่บอกว่าจะทำเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสภาผู้แทนราษฎร และถ้ายังพอมีเวลาเหลือจะเดินหาเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นใจและคิดว่านายกฯน่าจะเข้าใจเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน
น.ส.อัญชนา สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการมูลนิธิอัญจารี หนึ่งในเครือข่ายความหลากหลายทางเพศกล่าวว่า คู่รักที่มาวันนี้ตั้งใจจะมาแสดงออกถึงความรัก โดยทางเครือข่ายทราบอยู่ก่อนแล้วว่ากฎหมายไม่รองรับการจดทะเบียนสมรสระหว่างเพศเดียวกัน แต่ที่มาก็เพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะนำเอกสารยืนยันเหตุผลที่ไม่อนุญาตให้จดทะเบียน ไปใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอให้แก้ข้อกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ที่มาในวันนี้ก็เพื่อยืนยันการมีตัวตน และเรียกร้องขอให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อให้คู่รักเพศเดียวกันได้รับสิทธิเหมือนกับคู่รักต่างเพศ ทั้งสิทธิในด้านการดูแลคู่รัก และสวัสดิการต่างๆ ที่จะได้รับหากเป็นคู่สมรสกัน รวมถึงการยอมรับจากสังคม
ด้านน.ส.นภาภรณ์ สวัสดิมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า สำหรับสถิติจำนวนประชาชนที่มาจดทะเบียนสมรสเนื่องในวันวาเลนไทน์ทั้ง 50 สำนักงานเขตมีทั้งสิ้น 2,184 คู่
ที่จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอร้องสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวว่า วันนี้ขอให้ถามในหัวข้อที่เหมาะกับวันแห่งความรัก และขอถือโอกาสวันวาเลนไทน์ มอบความรักให้กับประชาชนคนไทยทุกคน และอยากเห็นวันแห่งความรัก เป็นวันแห่งความรักของเราทุกๆวัน ในระหว่างให้สัมภาษณ์นายกฯ ได้โชว์ดอกกุหลาบที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี่ ประธานมูลนิธิโครงการหลวงประทานให้ ขณะเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการหลวง
ส่วนที่เรียกเสียงฮือฮาในวันวาเลนไทน์ เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีพิธีมงคลสมรส (ชายแต่งกับชาย ) ระหว่าง เอกชัย ไชยชาญ (เจ้าบ่าว) กับ ชัยชนะเรศ เพ็งจันทร์ (เจ้าสาว) ช่วงเช้าเวลา 07.00 น.พิธีใส่บาตรเช้า 09.09 น.พิธีแห่ขันหมากส่งเสียงโห่ร้องเดินเข้ามายังบ้านฝ่ายเจ้าสาว โดยมีการจัดเครื่องขันหมากตามประเพณี รวมทั้งพานใส่เงินสินสอดธนบัตรใบละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,000,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 12 บาท กำไลเพชรข้อมือ 1 อัน แหวนเพชร 2 วง รถยนต์เก๋งเชฟโรเลต 1 คัน รวมกว่า 3 ล้านบาท โดยในช่วงเย็มมีงานเลี้ยงโต๊ะจีน
ที่ จ.เชียงใหม่ มีคู่สมรสจำนวนมากเดินทางมายังหอประชุม อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อจดทะเบียนสมรส พร้อมกันนี้ได้คู่สมรส คนรักเพศเดียวกันได้เดินทางมายื่นขอจดทะเบียนสมรส ซึ่งสร้างความสนใจให้คู่สมรสคู่อื่น โดยคู่สมรส คนรักเพศเดียวกัน จำนวน 3 คู่ ประกอบด้วย คู่ของนายชานนท์ ณ เชียงใหม่ อายุ 27 ปี กับนายโญฟินน์ เยาวนา สาวประเภทสองอายุ 28 ปี, คู่ของนายณัฐพล พันธุ์อุโมงค์ อายุ 23 ปี และนายเวจตวรุฒ บุญแปง อายุ 21 ปี และคู่ของ น.ส.กฤษ จาแสง อายุ 24 ปี และ น.ส.ซาราห์ เบิกค์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยกลุ่มผู้สนับสนุนการรับรองสิทธิทางกฎหมายของคู่ชีวิตโดยไม่จำกัดเพศ ได้เคลื่อนขบวนออกจากลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เดินทางมายังหอประชุมอำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสมรสต่อนายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองเชียงใหม่
ด้านนายอรรถชาได้ชี้แจงต่อคู่สมรสทั้ง 3 คู่ว่า ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้ได้ เนื่องจากสถานะของคู่สมรสไม่เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งการสมรส ซึ่งขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลังจากชี้แจงให้คู่สมรสทั้ง 3 คู่ได้ทราบแล้ว ทั้งหมดเซ็นชื่อรับทราบลงในเอกสารการยื่นขอจดทะเบียนสมรส พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจที่ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่สามารถดำเนินการตามความต้องการของคู่สมรสได้ พร้อมทั้งมอบของที่ระลึกให้แก่คู่สมรสทั้ง 3 คู่