xs
xsm
sm
md
lg

ติงประชานิยมท่วมกทม. จั้สอบ "ศิริโชค -ดร.เสรี" ใส่ร้ายจูดี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(10 ก.พ.56) สวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิลงคะแนน 1,395 คน ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ โดยถามว่า คนกรุงเทพฯ มีโอกาสเปลี่ยนใจที่จะเลือกผู้สมัครคนอื่น จากเดิมที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ปรากฏว่า ส่วนใหญ่คือ 71.17% บอกไม่เปลี่ยนใจ เพราะ มีผู้สมัครในใจอยู่แล้ว ตั้งใจจะเลือกคนนี้ ชื่นชอบผู้สมัคร ชอบนโยบาย และการหาเสียง ฯลฯ ส่วน 16.06 % บอก มีโอกาสเปลี่ยนใจ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาด ถ้ามีนโยบายของอีกคนอื่นที่ดีกว่า ก็มีโอกาสเปลี่ยนใจได้ ฯลฯ 6.93% ระบุมีโอกาสเปลี่ยนใจอยู่บ้าง เพราะ ยังไม่ถึงวันเลือกตั้งจริง รอดูการหาเสียงในโค้งสุดท้ายอีกครั้งก่อน ฯลฯ และ 5.84 % มีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจน้อย เพราะ หากผู้สมัครที่คิดจะเลือกไม่มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้นฯลฯ
เมื่อถามว่า ผู้สมัครทั้ง 25 หมายเลข ควรหาเสียงในโค้งสุดท้ายอย่างไร คนกรุงเทพฯจึงจะเลือก 43.29 % ระบุ ต้องมีวิธีการหาเสียงแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่น งัดเอาทีเด็ดออกมาโชว์ 21.65 % เน้นการนำเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และทำได้จริง 20.35% ต้องลงพื้นที่ทุกวัน และเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม 7.79% หาเสียงตามปกติ และจะต้องไม่โจมตีคู่แข่ง และ 6.92% เชิญผู้สมัครทั้ง 25 คน มาให้สัมภาษณ์ หรือแสดงวิสัยทัศน์
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า นโยบายหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ส่วนใหญ่ ยังมุ่งเน้นแนวทางประชานิยม ประเภทลดแลกแจกแถม ซึ่งทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้แข่งกันในทางนโยบาย หรือทิศทางการการพัฒนา โดยเฉพาะการกำหนดอัตตลักษณ์ของกทม.ในฐานะมหานครของโลกในอนาคต ว่าควรเป็นอย่างไร
แนวทางที่หาเสียงกันอยู่ แทบจะเรียกว่าเป็นงานประจำ เป็นงานที่ปลัดกทม. หรือ ผอ.เขตต้องรับผิดชอบ หรือดำเนินการอยู่แล้ว เรื่องในระดับนโยบายที่จะทำให้ กทม.เป็นต้นแบบของการปฏิรูปประเทศไทย หรือ เป็นเมืองแบบอย่างของมหานครของโลก แทบจะไม่เห็นวิสัยทัศน์ หรือนโยบายจากผู้สมัครฯโดยเฉพาะผู้สมัครที่มีโอกาสชนะเลือกตั้ง
เช่น การปฏิรูปการจัดทำงบประมาณ กทม. ที่มีปีละกว่า 7 หมื่นล้านบาทให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ การจัดทำผังเมืองใหม่ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต การปฏิรูปการศึกษา การเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่มากกว่าการปลูกต้นไม้โดยเฉพาะนโยบายสีเขียว การสร้างความสมดุลระหว่างส่วนที่เป็นเมือง กับชุมชน ฯลฯ
เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้คนบางกลุ่มคิดว่า ใครชนะเลือกตั้ง กทม.ก็เหมือนเดิม เพราะไม่เห็นความแตกต่างของนโยบายที่ชัดเจน จนอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่คนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เหมือนที่ผ่านๆมา
ที่น่าเป็นห่วงมาก เมื่อพบว่าการแข่งขันของผู้สมัคร จากทั้ง 2 พรรคใหญ่ ที่มีโอกาสชนะเลือกตั้งสูง ยังเป็นการแข่งขันกันแบบสร้างกระแสความกลัวเกิดขึ้นมากจนเกินไป กลัวแพ้บ้าง กลัวสารพัดเรื่อง จนอาจเสียโอกาสที่ประชาชนจะได้เห็นวิสัยทัศน์ นโยบายใหม่ๆ ของผู้สมัครฯ เพื่อปลุกคนกทม.ให้มีความฝัน ความหวังใหม่ร่วมกัน ในการสร้างกทม.ให้เป็นเมืองต้นแบบการปฏิรูป และเป็นมหานครชั้นนำของโลก
กระแสความกลัวเข้ามาบดบังการเลือกตั้งครั้งนี้มากเกินไป จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาโหวต เพราะความกลัว กลัวแพ้ กลัวโน่น กลัวนี่ จนทำให้กทม.ได้ผู้ว่าฯ ที่ขาดความเป็นผู้นำ และเสียโอกาสที่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ และถ้ายิ่งโหวตเพราะกลัวแพ้แล้ว ในที่สุดแพ้จริงๆ ยิ่งจะเป็นการทำให้เสียโอกาสที่ผู้ว่าฯ กทม.จะได้รับการสนับสนุน ความร่วมไม้ร่วมมือจากกลุ่มประชาชนที่เห็นต่าง ทำให้ กทม.สูญเสียพลังเพื่อเปลี่ยนแปลงปฏิรูปไปโดยปริยาย
อีกด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 62 ยื่นเรื่องต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กทม. (กกต.กทม.) และประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบการกระทำของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ปชป. นายเสรี วงศ์มณฑา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเ ใส่ร้ายพล.ต.อ.พงศพัศ เข้าข่ายถือเป็นผู้ที่กระทำการใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด อันเป็นความผิดตาม มาตรา 57 (5) หรือไม่
สำหรับ บรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง โดยยังคงเน้นการพบปะพูดคุยกับประชาชน พร้อมชูนโยบายการแก้ไขปัญหาร้านค้าหาบเร่แผงลอย บริเวณริมทางเท้า ให้เป็นระเบียบมากขึ้น
ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ สวมเสื้อสีแดงลายมังกรประจำปีเกิด เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดโพธิ์แมนคุณาราม ย่านพระราม 3 ถือเป็นย่านของคนไทยเชื้อสายจีน ในช่วงวันเที่ยวของเทศกาลตรุษจีน
หลังจากนั้นม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ ไปยังย่านเยาวราช เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเริ่มต้นที่ศาลเจ้าเทียนฟ้า ศาลเจ้าพ่อกวนอู วัดญวนเยาวราช วัดเล่งเน่ยยี่ วัดถ้ำมังกรเขียว และศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งมีประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ความสนใจ และร่วมขอถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย และ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรค ลงพื้นที่ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หาเสียงย่านฝั่งธนบุรี โดยคณะได้เข้ากราบสักการะพระธรรมเจดีย์ เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร จากนั้นคณะได้ลงเรือที่ท่าวัดกัลยาฯ ไปทำบุญไหว้พระที่วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร วัดอรุณราชวราราม.
กำลังโหลดความคิดเห็น