xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ออกทีวีอวยพรตรุษจีน โวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทำกำลังซื้อพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” อวยพรวันตรุษจีนออกทีวี ขอให้มีความสุข ร่ำรวย โวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อทั้งค่าแรง 300 บาท เงินเดือน 15,000 บาทส่งผลให้เงินสะพัด พ่อค้า แม่ขายยิ้มแย้มจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น ด้าน “กิตติรัตน์” จี้ ธปท.แจงข้อดีข้อเสียคงอัตราดอกเบี้ยสูง ทำค่าเงินแข็ง กระทบส่งออก ยก ม.7 เตือนแบงก์ชาติทำอะไรต้องคำนึงถึงรัฐบาลด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เช้าวันนี้ (9 ก.พ.) เป็นการนำเทปบันทึกการจัดรายการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกอากาศโดยเริ่มจากการอวยพรเนื่องในวันตรุษจีนว่า วันนี้ถือได้ว่าเป็นวันดี เป็นวันปีใหม่ของคนจีน และคนไทยเชื้อสายจีน ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปี ซินเหนียนไคว่เล่อ

จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจว่า ตั้งแต่อุทกภัยที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ เศรษฐกิจกำลังพัฒนาไปในทางที่ดี ตัวเลขเติบโตในทางที่ดีขึ้น เท่าที่เดินตลาดก็พบว่ามีแม่ค้าบอกว่าขายดีขึ้น เชื่อว่า ส่วนหนึ่งเพราะเป็นนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อมากขึ้น ทั้งค่าแรง 300 บาท เงินเดือน 15,00 บาท กลายเป็นกลไกทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น และทำให้หลากหลายประเทศเกิดความเชื่อมั่นในตรงนี้

โดยล่าสุดได้มีโอกาสต้อนรับนายฌอง-มาร์ก เอโรต์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 23 ปีที่มาเยือนประเทศไทย การมาของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสแสดงให้เห็นว่า เล็งเห็นถึงการลงทุนในประเทศไทย

ส่วนเรื่องปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้น รัฐบาลเองก็มีมาตรการป้องกันการลงทุนไหลเข้า แต่อยากเห็นการลงทุนในตัวที่มีศักยภาพ ไม่อยากให้ลงทุนมากเกินตัว เพื่อให้ตลาดการลงทุนก้าวไปพร้อมกับประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลก็หวังว่าฟันเฟืองหรือองค์กรต่างๆ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะทำงานร่วมกันไปอย่างมีประสิทธิภาพ

จากนั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีส่งหนังสือไปยังบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับนโยบายการเงินว่า อยากเห็นการดำเนินนโยบายของ ธปท.พิจารณาถึงข้อดี-ข้อเสีย ที่เป็นองค์กรกำกับนโยบายการเงินด้วยที่สามารถดูแลได้ ให้สบายขึ้น

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธปท.ไม่มีคำตอบ แต่ดูเหมือนว่าปัญหาการดำเนินนโยบายจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะเงินทุนไหลเข้ามาที่มาก ที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการส่งออก และถ้าหากเป็นอย่างนี้ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้า กระทบถึงการจ้างงาน

รมว.คลังกล่าวว่า การไม่หารือถือว่าไม่ถูกต้อง หากดำเนินการแล้วมีผลเสียต่อเศรษฐกิจ ก็ต้องรับผิดชอบ และถ้าดำเนินการแล้วคุ้มค่าไม่ต้องรับผิด และองค์กรไหนมีความเสียหายไม่ดีทั้งสิ้น ข้อกฏหมายในมาตรา 7 ของ ธปท. ระบุว่าต้องคำนึงถึงรัฐบาลด้วย โดยต้องรับทราบว่ารัฐบาลห่วงใยอะไร และต้องรับผิดชอบผลดีผลเสีย

“การดำเนินนโยบายมีข้อดี ข้อเสีย มีเหตุผลประการใด ต้องตอบให้ชัดเจน และข้อเสียต้องไม่เกิดผลกระทบต่อประเทศ”

นายกิตติรัตน์กล่าวต่อว่า การทำงานระหว่างกระทรวงคลังและ ธปท.ต้องสอดประสาน ไม่ใช่เอออวย โดยนโยบายการเงินต้องคัดท้ายนโยบายการคลัง ต้องตอบให้ชัดเจน ผู้คัดท้ายต้องมีความแข็งแรง เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องอันตราย ย้ำว่ารัฐบาลต้องทำงานสอดประสานกัน แต่ไม่ใช่เอออวย ถ้าประคับประคองได้จะเป็นเรื่องดี แต่ต้องมองในระยะยาวจะเป็นอย่างไร

“การเปลี่ยนการอุปโภคเป็นการเปลี่ยนความสมดุล จากที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเราพึ่งการส่งออกมาเป็นหลัก”

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.)วันที่ 20 ก.พ.นี้ มีคนสนใจไม่ว่าจะลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการดำเนินนโยบายก็ยังมีข้อดีและข้อเสีย การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะชะลอเงินเฟ้ออย่างไร ชะลออุปสงค์อย่างไร ในเมื่อไม่ได้เป็นระบบเศรษฐกิจปิด การขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ทำให้ดึงเงินทุนเข้ามาได้ และเงินเฟ้อก็สูงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น