อีกไม่กี่วันก็จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครแล้ว ครั้งนี้มีผู้สมัครที่น่าสนใจหลายคน โดยเฉพาะผู้สมัครอิสระซึ่งมีผู้คาดคะเนว่าจะแย่งคะแนนเสียงไปจากผู้สมัครสองคนคือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ
ผู้สมัครอิสระสามคนที่เด่นก็คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส คุณโฆสิต สุวินิจจิต และคุณสุหฤท สยามวาลา พวกหนุ่มสาวจะเชียร์คุณสุหฤทมาก ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นั้น น่าจะได้คะแนนเสียงจากคนเสื้อเหลืองและกลุ่มสันติอโศก
ผมเคยพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตั้งแต่ยังเป็น ร.ต.ต.ผู้ที่พาคุณเสรีพิศุทธ์มาบ้านผมคือ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อชิรวิทย์หรือป๋อม เคยสมัครผู้แทนและร.ต.ต.เสรีพิศุทธ์ก็เป็นรุ่นน้องที่ช่วยเดินหาเสียงเลือกตั้ง คุณเสรีพิศุทธ์เป็นที่นิยมของประชาชนเพราะมีความซื่อสัตย์ จริงใจ มีผลงานมาแล้วตั้งแต่สมัยสู้กับ ผกค.จนได้เหรียญรามาธิบดี นับว่ามีประวัติการทำงานที่โดดเด่นมาก
ป้ายหาเสียงของคุณเสรีพิศุทธ์ตอนแรกก็เปรอะๆ เขียนอะไรเต็มไปหมดดูรกรุงรัง แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก ส่วนป้ายของอาจารย์สุขุมพันธุ์ และของพล.ต.อ.พงศพัศนั้น มือโปรเป็นผู้จัดให้ จึงดูดี
พล.ต.อ.พงศพัศเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะตลอดเวลาที่ทำงานมีโอกาสออกสื่อมาก และยังได้คลุกคลีช่วยเหลือประชาชน มีท่าทีที่เป็นมิตร เคยช่วยประกันตัวผู้หญิงที่ถูกจับ และไม่มีเงินจ่ายค่าประกัน นอกจากนั้นเมื่อมาดูแลเรื่องยาเสพติดก็ยังทำโครงการที่ดี มีป้ายติดทั่วกรุงเทพฯ พล.ต.อ.พงศพัศ พูดเก่ง และเสนอนโยบายที่ชัดเจนหลายประการ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีคะแนนนำ และยิ่งนานวันเข้า ก็จะมีคะแนนห่างจากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มากขึ้น คนกรุงเทพฯ ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งจะไปเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ดังนั้นจึงคาดได้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศคงจะชนะการเลือกตั้ง ใครก็ตามที่จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะต้องได้เสียงอย่างน้อยก็หนึ่งล้านสองแสนเสียง ส่วนผู้สมัครอิสระก็จะได้คะแนนเสียงหนึ่งถึงห้าแสน โดยเฉพาะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ขยัน แต่ก็ยังไม่มีผลงานอะไรที่เรียกว่าโดดเด่น มีความได้เปรียบทางคุณวุฒิ และบุคลิกภาพ แต่เป็นคนพูดไม่เก่ง หากพูดทางวิชาการก็ถือว่าดี แต่โดยทั่วไปแล้วคนจะจับความไม่ค่อยได้ เพราะยังพูดไทยสำนวนฝรั่งอยู่
ปัญหาของกรุงเทพมหานครที่หนักสุดก็คือ การจราจร ดังนั้นการทำรถไฟฟ้าก็ดี รถเมล์ก็ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเรามีรัฐบาลที่งี่เง่าออกนโยบายรถคันแรกอย่างนี้ ก็ยิ่งเพิ่มปัญหาเข้าไปอีก เผลอๆ อาจจะมีนโยบายรถมอเตอร์ไซค์คันแรกก็ได้
ถนนหนทางใน กทม.นอกจากจะมีน้อยแล้ว หลายเส้นทางยังอยู่ในสภาพที่เลวมาก ทั้งขรุขระและแคบ บางสายอย่างเช่น ถนนเลียบทางด่วนตรงสุขุมวิท ใกล้โรงงานยาสูบขรุขระมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นทางในกรุงเทพฯ และแย่มานานแล้ว ไม่มีคนดูแล
จะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ปัญหา เพราะเมืองเติบโตอย่างไร้ทิศทาง ที่พอจะชมเชยก็มีแต่สวนที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างไร ความรกรุงรังของเมืองก็ยังมีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยว
มีคนเห็นว่า กรุงเทพมหานครควรให้เขตต่างๆ บริหารงานได้อย่างมีอิสระ แต่ผมไม่เห็นด้วย เพราะขืนให้อำนาจเขตไป ก็คงจะแย่มากขึ้น โดยเฉพาะการให้อนุญาตต่างๆ เช่น การขอสร้างบ้าน ลูกสะใภ้ผมไปขออนุญาต เจ้าหน้าที่ก็โยกโย้ มีคนบอกว่าต้องเอางินใส่ซองให้อย่างน้อยก็สักห้าพันบาท เรื่องก็จะเรียบร้อย
วิธีการแก้ปัญหากรุงเทพฯ ลำดับแรกคือ การจัดขนส่งมวลชนให้ดี เวลานี้คนนิยมซื้อคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น แต่ต่อไปคงจะต้องมีมาตรการในการลดจำนวนรถยนต์ลง ไม่ว่าจะเป็นการห้ามเข้าในถนนบางสาย หรือเก็บค่าเข้าถนนอย่างที่สิงคโปร์ทำกัน คนกรุงเทพฯ เราใช้รถกันคนละคัน และมีถนนผิวจราจรน้อยมาก
ปัญหากรุงเทพฯ เป็นเรื่องพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ น้ำท่วมหรือความสะอาด เพราะเรื่องอื่นๆ มีหน่วยงานกลางของรัฐบาลทำหมดแล้ว
ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็จะได้ครองกรุงเทพฯ ด้วย หลังจากนั้นพรรคประชาธิปัตย์คงต้องเหนื่อยแน่ เพราะเมื่อพรรคเพื่อไทยได้กรุงเทพฯ แล้วก็จะเร่งสร้างฐานสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน
ผู้สมัครอิสระสามคนที่เด่นก็คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส คุณโฆสิต สุวินิจจิต และคุณสุหฤท สยามวาลา พวกหนุ่มสาวจะเชียร์คุณสุหฤทมาก ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นั้น น่าจะได้คะแนนเสียงจากคนเสื้อเหลืองและกลุ่มสันติอโศก
ผมเคยพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตั้งแต่ยังเป็น ร.ต.ต.ผู้ที่พาคุณเสรีพิศุทธ์มาบ้านผมคือ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อชิรวิทย์หรือป๋อม เคยสมัครผู้แทนและร.ต.ต.เสรีพิศุทธ์ก็เป็นรุ่นน้องที่ช่วยเดินหาเสียงเลือกตั้ง คุณเสรีพิศุทธ์เป็นที่นิยมของประชาชนเพราะมีความซื่อสัตย์ จริงใจ มีผลงานมาแล้วตั้งแต่สมัยสู้กับ ผกค.จนได้เหรียญรามาธิบดี นับว่ามีประวัติการทำงานที่โดดเด่นมาก
ป้ายหาเสียงของคุณเสรีพิศุทธ์ตอนแรกก็เปรอะๆ เขียนอะไรเต็มไปหมดดูรกรุงรัง แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก ส่วนป้ายของอาจารย์สุขุมพันธุ์ และของพล.ต.อ.พงศพัศนั้น มือโปรเป็นผู้จัดให้ จึงดูดี
พล.ต.อ.พงศพัศเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะตลอดเวลาที่ทำงานมีโอกาสออกสื่อมาก และยังได้คลุกคลีช่วยเหลือประชาชน มีท่าทีที่เป็นมิตร เคยช่วยประกันตัวผู้หญิงที่ถูกจับ และไม่มีเงินจ่ายค่าประกัน นอกจากนั้นเมื่อมาดูแลเรื่องยาเสพติดก็ยังทำโครงการที่ดี มีป้ายติดทั่วกรุงเทพฯ พล.ต.อ.พงศพัศ พูดเก่ง และเสนอนโยบายที่ชัดเจนหลายประการ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีคะแนนนำ และยิ่งนานวันเข้า ก็จะมีคะแนนห่างจากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มากขึ้น คนกรุงเทพฯ ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งจะไปเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ดังนั้นจึงคาดได้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศคงจะชนะการเลือกตั้ง ใครก็ตามที่จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะต้องได้เสียงอย่างน้อยก็หนึ่งล้านสองแสนเสียง ส่วนผู้สมัครอิสระก็จะได้คะแนนเสียงหนึ่งถึงห้าแสน โดยเฉพาะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ขยัน แต่ก็ยังไม่มีผลงานอะไรที่เรียกว่าโดดเด่น มีความได้เปรียบทางคุณวุฒิ และบุคลิกภาพ แต่เป็นคนพูดไม่เก่ง หากพูดทางวิชาการก็ถือว่าดี แต่โดยทั่วไปแล้วคนจะจับความไม่ค่อยได้ เพราะยังพูดไทยสำนวนฝรั่งอยู่
ปัญหาของกรุงเทพมหานครที่หนักสุดก็คือ การจราจร ดังนั้นการทำรถไฟฟ้าก็ดี รถเมล์ก็ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเรามีรัฐบาลที่งี่เง่าออกนโยบายรถคันแรกอย่างนี้ ก็ยิ่งเพิ่มปัญหาเข้าไปอีก เผลอๆ อาจจะมีนโยบายรถมอเตอร์ไซค์คันแรกก็ได้
ถนนหนทางใน กทม.นอกจากจะมีน้อยแล้ว หลายเส้นทางยังอยู่ในสภาพที่เลวมาก ทั้งขรุขระและแคบ บางสายอย่างเช่น ถนนเลียบทางด่วนตรงสุขุมวิท ใกล้โรงงานยาสูบขรุขระมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นทางในกรุงเทพฯ และแย่มานานแล้ว ไม่มีคนดูแล
จะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ปัญหา เพราะเมืองเติบโตอย่างไร้ทิศทาง ที่พอจะชมเชยก็มีแต่สวนที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างไร ความรกรุงรังของเมืองก็ยังมีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยว
มีคนเห็นว่า กรุงเทพมหานครควรให้เขตต่างๆ บริหารงานได้อย่างมีอิสระ แต่ผมไม่เห็นด้วย เพราะขืนให้อำนาจเขตไป ก็คงจะแย่มากขึ้น โดยเฉพาะการให้อนุญาตต่างๆ เช่น การขอสร้างบ้าน ลูกสะใภ้ผมไปขออนุญาต เจ้าหน้าที่ก็โยกโย้ มีคนบอกว่าต้องเอางินใส่ซองให้อย่างน้อยก็สักห้าพันบาท เรื่องก็จะเรียบร้อย
วิธีการแก้ปัญหากรุงเทพฯ ลำดับแรกคือ การจัดขนส่งมวลชนให้ดี เวลานี้คนนิยมซื้อคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น แต่ต่อไปคงจะต้องมีมาตรการในการลดจำนวนรถยนต์ลง ไม่ว่าจะเป็นการห้ามเข้าในถนนบางสาย หรือเก็บค่าเข้าถนนอย่างที่สิงคโปร์ทำกัน คนกรุงเทพฯ เราใช้รถกันคนละคัน และมีถนนผิวจราจรน้อยมาก
ปัญหากรุงเทพฯ เป็นเรื่องพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ น้ำท่วมหรือความสะอาด เพราะเรื่องอื่นๆ มีหน่วยงานกลางของรัฐบาลทำหมดแล้ว
ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็จะได้ครองกรุงเทพฯ ด้วย หลังจากนั้นพรรคประชาธิปัตย์คงต้องเหนื่อยแน่ เพราะเมื่อพรรคเพื่อไทยได้กรุงเทพฯ แล้วก็จะเร่งสร้างฐานสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน