ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีหน้าตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ควงคณะผู้บริหารจังหวัดมาประชาสัมพันธ์โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ภายใต้ชื่อ “โต๊ะโคราช ดะด๊าดของดี” ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเชิญนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปร่วมเปิดงาน วันฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี หรือย่าโม ในวันที่ 23 มี.ค.
โดยมี “รัฐมนตรี 2 เสริฐ” นายประเสริฐ บุญชัยสุข ส.ส.เขตอำเภอสูงเนิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จากพรรคชาติพัฒนา และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.เขตอำเภอสีคิ้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคเพื่อไทย มายืนประกบนายกฯด้วย นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังได้ลาบปากเมื่อผู้ว่าฯ นำอาหารมาจัดเลี้ยง ทั้ง “ผัดหมี่โคราช” ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดนครราชสีมา ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ขนมหวานพร้อมสรรพ
นายกฯยิ่งลักษณ์ ถึงกับเอื้อนเอื่อย กับผู้ว่าฯโคราช ว่า “จริงเหรอค่ะ” เมื่อผู้ว่าฯบอกว่ามี “ผัดหมี่โคราช” มาเลี้ยงบรรดารัฐมนตรี
แต่หากจะจำกันได้ “นายกยิ่งลักษณ์”มีประวัติกับผัดหมี่โคราชมาแล้วถึงกับเกือบตกเก้าอี้ผู้นำประเทศ เมื่อช่วงศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ นายกฯยิ่งลักษณ์ถูกร้องเรียนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา กรณีภาพถ่าย “ผัดหมี่โคราชแจกประชาชน” ในระหว่างการหาเสียงเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง หรือไม่แต่ก็รอดมาได้ เพราะ กกต.โคราช ประกาศว่าไม่ผิดเพราะเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่นักการเมืองเกือบทุกพรรคได้ทำในช่วงหาเสียงเท่านั้น
วันนั้น ครม.ยิ่งลักษณ์ ซัดผัดหมี่โคราชอิ่มแปล้!!
แต่ไม่รู้ว่า เส้นหมี่ ถั่วงอก หรือใบต้นหอม จะยังติดปากติดฟันอยู่หรือเปล่า เพราะวันนั้นทั้งโฆษกครม.หรือทีมงาน กลับไม่มีการแถลงข่าว มติครม.ที่เกี่ยวข้อง และมีผลกระทบกับคนโคราชโดยตรง
โดยเฉพาะ วาระเรื่อง”ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน (พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (บางปะอิน-นครราชสีมา)ระยะทาง 196 กิโลเมตร”ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
เพราะก่อนหน้านี้ 1 วัน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาให้ข่าวว่าเอาเข้าชัวร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาตามเอกสารมติที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบร่างฉบับนี้ โดยคาดว่าจะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาสิงหาคม 2556
โดยมีใจความสำคัญว่า ในขั้นตอนต่อไปจากนี้กระทรวงคมนาคมจะมอบหมายให้กรมทางหลวงซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ โครงการเร่งเวนคืนที่ดินทันทีสำหรับมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมาจะมี 2 ช่วง ระยะทางรวม 196 กิโลเมตร คือ
ช่วงที่ 1 จาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ถึง อ.ปากช่อง (เขาใหญ่) จ.นครราชสีมา
ช่วงที่ 2 จาก อ.ปากช่อง ถึงตัวเมืองนครราชสีมา
วงเงินรวม 68,780 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 61,230 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 7,200 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 350 ล้านบาท ดำเนินการ 4 ปี (56-59) ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) 19% ผลตอบแทนทางการเงิน (แอฟไออาร์อาร์) 3%
โครงการนี้“นายประเสริฐ จันทรรวงทอง”ดันสุดลิ่ม เพราะเขาประกาศว่า ในช่วงเป็น รมช.คมนาคม ต้องผ่านให้ได้
ล่าสุด กรมทางหลวงขีดแนวเวนคืนกว้าง 400-2,500 เมตร
แนวเส้นทางจะเริ่มต้นบริเวณจุดเชื่อมต่อบางปะอินกับถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ด้านข้างแนวรั้วมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ผ่านศูนย์การค้าโฮมโปร จากนั้นผ่านพื้นที่โล่ง
เมื่อแนวเส้นทางผ่านหินกองจะเบนไปทางทิศตะวันออกตัดกับทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แล้วซ้อนทับและใช้เขตทางร่วมกับทางเลี่ยงเมืองสระบุรีด้านตะวันออก ก่อนแยกออกจากแนวเลี่ยงเมืองตรงไปผ่านบ้านห้วยแห้ง แล้วขนานด้านใต้กับแนวทางหลวงหมายเลข 2 ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 3222 (แก่งคอย-บ้านนา) ผ่านบ้านโคกกรุง ด้านเหนือของวิทยาลัยเกษตรสงเคราะห์สระบุรี เข้าสู่เขตพื้นที่นิคมสร้างตนเองทับกวาง แล้วเข้าเขตพื้นที่อำเภอมวกเหล็ก
จากนั้นตัดผ่านพื้นที่บ้านคั่นตะเคียน บ้านกลางดง ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 2222 ทางเข้าวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ตรงไปยัง จ.นครราชสีมาบริเวณบ้านหนองน้ำแดง ผ่านพื้นที่ทหาร ซ้อนทับกับถนนมิตรภาพช่วงเลียบเขื่อนลำตะคอง ตัดข้ามถนนมิตรภาพ บริเวณบ้านคลองไผ่ จะอยู่ด้านเหนือถนนมิตรภาพโดยตลอด มาสิ้นสุดที่วงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา
ตลอดแนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ 3 จังหวัด 12 อำเภอคือ 1) จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ อ.บางปะอิน วังน้อย อุทัย 2) จ.สระบุรี ที่ อ.หนองแค เมืองสระบุรี แก่งคอย มวกเหล็ก 3) จ.นครราชสีมา ที่ อ.ปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา
ยอดเวนคืนแยกเป็นที่ดินประมาณ 2,187 แปลง สิ่งปลูกสร้างประมาณ 370 ราย และต้นไม้ยืนต้นประมาณ 98 รายการ รวมเป็นเงินค่าชดเชยกว่า 5,302 ล้านบาท
คาดว่าจะมีการจ้างเอกชน เวนคืนให้เสร็จใน 8 เดือน และเริ่มก่อสร้างจริง ๆ ในปี2556
แต่เนื่องจากกรมธนารักษ์เพิ่งปรับราคาประเมินใหม่ จะต้องมีการปรับค่าชดเชยเพิ่มตามไปด้วย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 20% ทำให้ค่าชดเชยที่ดิน
คาดว่าจะปรับวงเงินขึ้นเป็น 7,200 ล้านบาทโดยประมาณ จากทั้งโครงการจะใช้เงินลงทุนกว่า 69,100 ล้านบาท โดยพื้นที่เราจะเวนคืนมีทั้งที่ดินเอกชนและส่วนราชการ ทั้งที่ราชพัสดุ ทหาร ที่ดิน ส.ป.ก. ในส่วนของชาวบ้านจะมีทั้งที่ดินมรดกและ น.ส.3
ขณะที่บริเวณปากช่องที่ดินถูกเวนคืนส่วนใหญ่จะเป็นนายทุนจากกรุงเทพฯซื้อที่ดินไว้
แม้ก่อนหน้านี้ เคยมีเสียงคัดค้านจากประชาชนและนักธุรกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการเปลี่ยนจุดสิ้นสุดโครงการ ถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา หรือถนนบายพาส จากกิโลเมตรที่ 6-7 เลื่อนลงมาเป็นบริเวณกิโลเมตรที่ 2 เลยทางแยกต่างระดับนครราชสีมา หรือสามแยกปักธงชัยเล็กน้อย ซึ่งใกล้ตัวเมืองและชุมชน ทำให้มองว่าหากมีการเปิดใช้เส้นทางจะส่งผลทำให้การจราจรในตัวเมืองนครราชสีมาติดขัดเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนว่า ช่วงที่ตัดผ่าน อ.ปากช่อง ใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่สำคัญ ขณะเดียวกัน ทางขึ้น-ลงบริเวณถนนธนะรัชต์นั้นใกล้ชุมชนเกินไป และติดแหล่งน้ำสาธารณะ ลำน้ำลำตะคองและช่วงที่ผ่านกองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก มีข้อกฎหมายห้ามสร้างทางตลอดจนสิ่งปลูกสร้างอีกด้วย
แต่เมื่อมาดูความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่ถูกเวนคืนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะแนวเวนคืนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา ล้วนเป็นคนในตระกูลใหญ่ชื่อดัง ที่จะถูกเวนคืนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้หากเป็นการระบายความแออัดของถนนมิตรภาพ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์ได้จริงตามที่รัฐบาลหรือผู้รับผิดชอบกล่าวอ้าง เราก็คงต้องเห็นด้วย เพราะสภาพการจราจรช่วงเทศกาลถือว่าหนักหนา หากมีถนนหรือทางด่วนมารองรับก็จะลดปัญหานี้ไปได้บ้าง
แต่หากเป็นการเร่งโครงการเพื่อหวังช่วยพวกพ้องหรือ หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองก็คงไม่ไหว
เพราะในโคราชขณะนี้ปัญหาการทุจริต ที่กำลังถูกจับตาจนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยเฉพาะสุดยอดโครงการ ที่ชื่อ"อบจ.ปาร์ก" หรืออุทยานแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมา งบประมาณกว่า 2,000 ล้าน บนพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ ที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา คนก่อนทิ้งไว้เป็นมรดกบาป
เพราะโครงการ อย่างศูนย์ดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ท้องฟ้าจำลอง) พื้นที่ 30 ไร่ งบฯ 155 ล้านบาท ที่มีเครื่องฉายดาวที่ ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
แม้วันเด็กปี 2555 จะเปิดให้เด็กทั่วโคราชเข้าไปทดลองดูแต่จนถึงล่าสุด ก็ไม่สามารถเปิดได้ 100%
รวมทั้ง โครงการก่อสร้างห้องสมุดมีชีวิต หรือศูนย์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย พื้นที่ 20 ไร่ งบประมาณ 90 ล้านบาท ที่มีแผนจะแล้วเสร็จต้นปี 2556 นี้ก้ยังไม่มีการลงเสาเข็ม
ไม่นับ โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แห่งแรกของภาคอีสาน บนพื้นที่ 30 ไร่ งบประมาณ 400-500 ล้านบาท โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นโคราช (เมืองโคราชจำลอง) พื้นที่ 50 ไร่ งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท โครงการก่อสร้างสวนสุขภาพองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สวนลุมโคราช) พื้นที่ 80 ไร่
โครงการดำเนินการก่อสร้างทะเลโคราช ริมอ่างห้วยยาง งบประมาณ 30 ล้านบาท และ8) โครงการจูราสสิกพาร์กพื้นที่ 600 ไร่งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
ที่นายกฯอบจ.คนก่อนไม่มีโอกาสได้ทำต่อเพราะสอบตก
เป็นมรดกบาปของคนโคราช จนถึงทุกวันนี้!