“เดินเท้า” จากเขาหลวง สู่เมืองหลวง

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนๆ หนึ่งที่จะตัดสินใจลุกขึ้นมา “เดินเท้า” เป็นระยะเวลา 21 วัน ด้วยระยะทาง 800 กิโลเมตรจากจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาครกระทั่งถึงทำเนียบรัฐบาล

แต่นั่นคือความจริงที่เกิดแล้วในวันนี้จากการนำของ “ผู้ใหญ่เฉลิม กาญจนพิทักษ์” ผู้ใหญ่บ้านเก้ากอ หมู่ 1 ตำบลทอนหงส์ อ.พรหมครี จ.นครศรีธรรมราช

ผลพวงจากปัญหายาเสพติดที่ระบาดหนักในตำบลทอนหงส์ที่ผู้ใหญ่เฉลิมใช้คำว่า “กำลังจะกลายเป็นเมืองยอนสอง” เพราะความหย่อนยานของผู้รักษากฎหมายที่นอกจากจะไม่ใส่ใจแก้ไขอย่างจริงจังแล้ว บางคนกลับคลุกคลีกับผู้ค้าและผู้เสพ แถมบางคนยังเป็นผู้ค้าเองอีกต่างหากำ ทำให้ผู้ใหญ่เฉลิมตัดสินใจเดินเท้าฝ่าความร้อน ความหนาวและความยากลำบากระหว่างทางเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของสังคมได้รับรู้และเข้ามามีส่วนในการแก้ปัญหาร่วมกัน

โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการเอาจริงเอาจังกับปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ด้วยการจัดตั้ง “เครือข่ายต้านภัยยาเสพติด” ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ

ก็ได้แต่หวังว่า ความฝันของผู้ใหญ่เฉลิมจะเป็นจริง และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะรับฟังความคิดเห็นของคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้ รวมทั้งนำข้อมูลที่ผู้ใหญ่เฉลิมได้แลกเปลี่ยนกับเครือข่ายในจังหวัดและอำเภอต่างๆ ในเส้นทางการเดินทางไปใช้เพื่ออนาคตของลูกหลานไทยทั้งประเทศ

เรื่องราวดีๆ เรื่องที่สองในสัปดาห์นี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับ “ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ” ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็น “ธรรมศาสตราภิชาน” ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 - 31 ธันวาคม 2557

ถือเป็นธรรมศาสตราภิชานคนที่ 3 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทั้งนี้ ภารกิจของธรรมศาสตราภิชานก็มีมากมาย เช่น เป็นที่ปรึกษาในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาร่วมกับคณาจารย์ของคณะทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์เพื่อร่วมกันผลิตตำรา กรณีศึกษาและงานวิชาการรูปแบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน เป็นต้น

ตามต่อด้วยกิจกรรมดีๆ ของ “มูลนิธิไทยยานยนตร์” ที่นำน้องๆ เยาวชนชาย-หญิง เข้าร่วมการอบรมวิปัสสนากรรมฐานสำหรับเยาวชน “ค่ายจิตสดใส วัยบริสุทธิ์ ด้วยพุทธปัญญา” โดยท่านพระอาจารย์มานพ อุปสโม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ราชนครินทร์ (เขาดินหนองแสง) จ.จันทบุรี เป็นผู้ดูแลและดำเนินการอบรม ระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ซึ่งการอบรมวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ เป็นการภาวนาแนวสติปัฏฐาน 4 พร้อมกิจกรรมบูรณาการเสริมทักษะด้านศีลธรรมต่างๆ อาทิ ความกตัญญู ความเสียสละ ความมีน้ำใจ และมารยาท เป็นต้น เพื่อให้น้องๆ เยาวชนรุ่นใหม่ มีจิตใจเข้มแข็ง มี สติสัมปชัญญะ และนำคุณธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต โดยมี นางอัมพร จิระติวานิช ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรม “มูลนิธิไทยยานยนตร์” เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วย ในฐานะ ครูพี่เลี้ยงอาสาสมัคร ทำหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพของเยาวชนในระหว่างการอบรม

ด้านสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ จัดพิธีมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2555 เชิดชู 6 องค์กรคุณภาพที่สามารถคว้ารางวัล“การบริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือThailand Quality Class (TQC) ไปได้สำเร็จ โดยรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือThailand Quality Class (TQC) มีจำนวน 6 องค์กร ได้แก่บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาเชียงใหม่ จำกัด โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ (มหาชัย) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

และปิดท้ายกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ที่ขอเชิญชวนนักวิจัย นักวิชาการ และประชาชนผู้สนใจ ส่งผลงานวิจัย หรือบทความวิชาการทางด้านคุณธรรมความดี เพื่อนำไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการของศูนย์คุณธรรม โดยบทความดังกล่าวจะต้องไม่เคยตีพิมพ์มาก่อน หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ บทความที่ได้รับการคัดเลือกให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการของศูนย์คุณธรรม ผู้เขียนจะได้รับค่าตอบแทนจากการตีพิมพ์ผลงานนั้นผู้สนใจสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานวิจัยและจัดการความรู้ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) email : research@moralcenter.or.th โทร. 02 644 9900 ต่อ 312, 313 หรือติดต่อ ดร.วิชุดา กิจธรธรรม (กองบรรณาธิการ) email: kijtorntham@hotmail.com โทร. 089 114 0200 **

คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน

50 สุดยอดแหล่งท่องเที่ยว 10 ประเทศอาเซียน

ในห้วงที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AECในปี พ.ศ.2558 นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับบรรดา “นักท่องเที่ยว” ที่ต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ วัฒนธรรมและความยิ่งใหญ่ของ 10 ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความสวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะคนไทยที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปในกลุ่มอาเซียนได้ง่ายดาย

เนื่องจากสามารถใช้วีซ่าเพียงใบเดียวในการเดินทางสู่กลุ่ม 10 ประเทศในอาเซียน

แต่จะอย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ยังมีความมหัศจรรย์ของแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในหลายประเทศที่หลายคนยังไม่รู้จัก ยังไม่ทราบประวัติความเป็นมาของสถานที่เหล่านั้น รวมทั้งยังไม่ทราบว่า มีข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเดินทางอะไรบ้าง มีที่พักหรือโรงแรมไหนน่าสนใจบ้าง

หนังสือ “50 สุดยอดแหล่งท่องเที่ยว 10 ประเทศอาเซียน” ฝีมือของ “ชาธร โชคภัทระ” และ “ศิริศิน สารมานิตย์” ที่จัดพิมพ์โดย “สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์” คือหนังสือที่จะตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวท็อปฮิตของแต่ละประเทศ

รีบไปจับจองเป็นเจ้าของโดยพลัน

ลุงอ้วน managerweekend@yahoo.com