ASTVผู้จัดการรายวัน/ศรีสะเกษ-คุณตานักต่อสู้ทวงคืนเขาพระวิหาร ประกาศขายบ้านและไร่นาในกันทรลักษ์ รวม 29 ไร่มูลค่า 5 ล้าน นำเงินมาเป็นทุนกอบกู้ชาติและแผ่นดินไทย ขณะกลุ่มธรรมยาตราฯ เตรียมเดินธรรมยาตรากอบกู้ผืนแผ่นดินไทยครั้งประวัติศาสตร์ จากเขาพระวิหารสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ "บิ๊กโอ๋" เหน็บภาคประชาชนคนรักชาติ "อย่าไปคลั่งชาติกันมาก" ขณะที่ ส.ว.ส่ง "คำนูณ" หารือ “ปู-ปึ้ง” ถกสู้คดีพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (6 ก.พ.) ที่โรงนาบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ของนายผัน กิ่งแสง อายุ 75 ปี สถานที่ชุมนุมของกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้ผืนแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา สมาชิกกลุ่มร่วมหารือแนวทางการต่อสู้ทวงคืนเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา ซึ่งนายผันได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตัดสินใจที่จะขายบ้านและไร่นาเพื่อนำเงินมาเป็นทุนกอบกู้แผ่นดินไทย
นายผันกล่าวว่า ได้ร่วมต่อสู้กับกลุ่มธรรมยาตรามานานหลายปีแล้ว ทำให้มีความรู้สึกว่าประเทศชาติเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมกันรักษา นักรบไทยจำนวนมากสละชีพเพื่อชาติ ปกป้องชาติไทยทั้งที่บริเวณเขาพระวิหาร และตามแนวชายแดนทั่วประเทศ ดังนั้น จึงตัดสินใจว่าจะขายบ้านพร้อมไร่นารวม 29 ไร่ แยกเป็นสวนยางพารา 15 ไร่ ที่นา 13 ไร่ และที่ดินบ้าน 1 ไร่ ในราคา 5 ล้านบาท โดยเงินทั้งหมดจะแบ่งส่วนหนึ่งให้ลูก 4 คน เพื่อเป็นทุนประกอบสัมมาชีพ จากนั้นจะนำเงินที่เหลือไปเป็นทุนกู้ชาติบ้านเมืองต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกอบกู้ผืนแผ่นดินไทยบริเวณเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา
“เพื่อประเทศชาติแล้ว ผมยอมสละได้ทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สินเงินทองและชีวิตตัวเอง เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไม่ให้ตกไปเป็นของประเทศอื่นใด”
นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตรา กล่าวว่า ได้วางแผนที่จะเดินธรรมยาตรากอบกู้ผืนแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา ซึ่งเป็นการเดินธรรมยาตราครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย โดยจะออกเดินจากเขาพระวิหารไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ และจะประสานงานกับกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติกู้แผ่นดินทุกกลุ่มมาร่วมกันเดินธรรมยาตราครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้มีหลายกลุ่มตอบรับแล้ว ส่วนกำหนดการเดินธรรมยาตราจะประกาศให้ประชาชนทราบในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสมาน มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง สมาชิกกลุ่มช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ แพทย์ตรวจพบว่าเกิดจากลำไส้เคลื่อนตัว และเป็นโรคกระเพาะ จึงฉีดยาให้ 2 เข็ม พร้อมให้ยามารับประทาน ก่อนให้กลับมาพักรักษาตัวที่บริเวณชุมนุมบ้านโศกขามป้อม โดยนายสมานยืนยันว่าอาการปวดท้องไม่ได้เกิดจากการอดอาหารประท้วงที่หน้าด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์
**อุทยานพระวิหารเปิดบริการตามปกติ
วันเดียวกันที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เปิดทำการบริการให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปท่องเที่ยวบริเวณผามออีแดงได้ตามปกติแล้ว หลังจากที่กลุ่มธรรมยาตราได้ยุติการนั่งสมาธิเพื่อประท้วงบริเวณถนนด้านหน้าทางขึ้นเขาพระวิหาร จนทำให้ทางอุทยานฯ ต้องสั่งปิดเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00 น.ของวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปบนเขาพระวิหารเพื่อเข้าชมทิวทัศน์ของธรรมชาติที่บริเวณจุดชมวิวผามออีแดงกันอย่างต่อเนื่อง โดยยอดนักท่องเที่ยวล่าสุดวานนี้มีกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและมีชาวต่างชาติพาครอบครัวมาเที่ยวด้วย
นายศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า ทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้เปิดทำการบริการนักท่องเที่ยวตามปกติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นชมวิวกันได้
**"สุกำพล"เหน็บอย่าไปคลั่งชาติกันมาก
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเข้าตรวจเยี่ยมและรับฟังบรรยายสรุปปัญหาชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานีว่า ปัญหาชายแดนด้านประเทศกัมพูชา นายกฯ ของไทยได้มีการพูดคุยกับนายกฯ กัมพูชา และได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน หลังจากที่เดินทางกลับมาจากกัมพูชาแล้วว่าทั้งสองฝ่ายจะอยู่ร่วมกันแบบสันติ ส่วนที่มีปัญหาอยู่ก็จะช่วยกันแก้ไข
“อย่าไปคลั่งชาติกันมาก เรารักชาติกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนเลวก็รักชาติกันทุกคน เราอย่าไปรักชาติคนเดียว ต้องดูสังคมโลก เพราะเขามีกติกาไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ตัวเอง แต่เราก็ฟังทุกฝ่าย ทุกคน”
**ส่ง"คำนูน"หารือ"ปู-ปึ้ง"ถกสู้คดีพระวิหาร
ที่รัฐสภา น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการฯ ได้ทำหนังสือขอเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือและเสนอความเห็นต่อการดำเนินงาน ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้ส่งหนังสือยืนยันว่าจะให้กรรมาธิการฯ เข้าพบและหารือผ่านนายสุรพงษ์ โตวิจักณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ โดยในเบื้องต้นกรรมาธิการฯ จะหารือในส่วนการต่อสู้ในคดีปราสาทพระวิหาร โดยได้มอบหมายให้นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ฐานะรองประธานกรรมาธิการฯเป็นผู้รวบรวมประเด็นที่จะนำไปเสนอ
นายคำนูณกล่าวว่า ประเด็นที่จะนำไปหารือและเสนอแนะนั้น โดยหลักจะเป็นในส่วนของการเผยแพร่เอกสาร "50 ปี 50 ประเด็น ปราสาทพระวิหาร" ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่พบว่ายังมีความผิดพลาดและเสี่ยงที่จะถูกประเทศกัมพูชานำไปเป็นประเด็นต่อสู้ในศาลโลก และกลายเป็นความได้เปรียบในการต่อสู้คดีกับประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วจะเป็นประเด็นที่ทางกระทรวงต่างประเทศไม่ได้ชี้แจงข้อมูล ในประเด็นการรับเขตอำนาจศาลโลก และการตีความคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาว่าทำได้หรือไม่ และหากศาลโลกปัจจุบันพิจารณาในประเด็นที่ต่างไปจากคำพิพากษาเมื่อ 50 ปีก่อน ประเทศไทยจะต้องยอมรับหรือไม่ รวมถึงข้อมูลที่อาจนำไปประกอบการต่อสู้ในคดีปราสาทพระวิหาร ที่จะมีขึ้นช่วงเดือน เม.ย.นี้
**"พงษ์เทพ"ไม่หนักใจการสู้คดี
ทางด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวก่อนเดินทางไปหารือฝ่ายกฎหมายคดีปราสาทพระวิหารที่สหราชอาณาจักรว่า ในฐานะประธานคณะต่อสู้คดี เตรียมไปหารือกับทีมที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างประเทศที่ทำคดีมาตั้งแต่ต้น โดยจะใช้เวลาหารือ 4 วัน เพื่อนำเสนอศาลโลกด้วยวาจาในเดือนเม.ย.นี้ โดยจะหารือถึงการนำเสนอประเด็นที่จะทำให้ตุลาการในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศฟัง รวมถึงเตรียมการว่าฝ่ายกัมพูชาจะเสนอในประเด็นใด ส่วนผลจะออกมาอย่างไรไม่มีใครบอกได้ ทั้งนี้ มั่นใจว่า ข้อต่อสู้มีน้ำหนัก มีเหตุผลและทำอย่างดีที่สุด และไม่หนักใจ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (6 ก.พ.) ที่โรงนาบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ของนายผัน กิ่งแสง อายุ 75 ปี สถานที่ชุมนุมของกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้ผืนแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา สมาชิกกลุ่มร่วมหารือแนวทางการต่อสู้ทวงคืนเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา ซึ่งนายผันได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตัดสินใจที่จะขายบ้านและไร่นาเพื่อนำเงินมาเป็นทุนกอบกู้แผ่นดินไทย
นายผันกล่าวว่า ได้ร่วมต่อสู้กับกลุ่มธรรมยาตรามานานหลายปีแล้ว ทำให้มีความรู้สึกว่าประเทศชาติเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมกันรักษา นักรบไทยจำนวนมากสละชีพเพื่อชาติ ปกป้องชาติไทยทั้งที่บริเวณเขาพระวิหาร และตามแนวชายแดนทั่วประเทศ ดังนั้น จึงตัดสินใจว่าจะขายบ้านพร้อมไร่นารวม 29 ไร่ แยกเป็นสวนยางพารา 15 ไร่ ที่นา 13 ไร่ และที่ดินบ้าน 1 ไร่ ในราคา 5 ล้านบาท โดยเงินทั้งหมดจะแบ่งส่วนหนึ่งให้ลูก 4 คน เพื่อเป็นทุนประกอบสัมมาชีพ จากนั้นจะนำเงินที่เหลือไปเป็นทุนกู้ชาติบ้านเมืองต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกอบกู้ผืนแผ่นดินไทยบริเวณเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา
“เพื่อประเทศชาติแล้ว ผมยอมสละได้ทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สินเงินทองและชีวิตตัวเอง เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไม่ให้ตกไปเป็นของประเทศอื่นใด”
นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตรา กล่าวว่า ได้วางแผนที่จะเดินธรรมยาตรากอบกู้ผืนแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา ซึ่งเป็นการเดินธรรมยาตราครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย โดยจะออกเดินจากเขาพระวิหารไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ และจะประสานงานกับกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติกู้แผ่นดินทุกกลุ่มมาร่วมกันเดินธรรมยาตราครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้มีหลายกลุ่มตอบรับแล้ว ส่วนกำหนดการเดินธรรมยาตราจะประกาศให้ประชาชนทราบในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสมาน มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง สมาชิกกลุ่มช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ แพทย์ตรวจพบว่าเกิดจากลำไส้เคลื่อนตัว และเป็นโรคกระเพาะ จึงฉีดยาให้ 2 เข็ม พร้อมให้ยามารับประทาน ก่อนให้กลับมาพักรักษาตัวที่บริเวณชุมนุมบ้านโศกขามป้อม โดยนายสมานยืนยันว่าอาการปวดท้องไม่ได้เกิดจากการอดอาหารประท้วงที่หน้าด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์
**อุทยานพระวิหารเปิดบริการตามปกติ
วันเดียวกันที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เปิดทำการบริการให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปท่องเที่ยวบริเวณผามออีแดงได้ตามปกติแล้ว หลังจากที่กลุ่มธรรมยาตราได้ยุติการนั่งสมาธิเพื่อประท้วงบริเวณถนนด้านหน้าทางขึ้นเขาพระวิหาร จนทำให้ทางอุทยานฯ ต้องสั่งปิดเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00 น.ของวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปบนเขาพระวิหารเพื่อเข้าชมทิวทัศน์ของธรรมชาติที่บริเวณจุดชมวิวผามออีแดงกันอย่างต่อเนื่อง โดยยอดนักท่องเที่ยวล่าสุดวานนี้มีกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและมีชาวต่างชาติพาครอบครัวมาเที่ยวด้วย
นายศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า ทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้เปิดทำการบริการนักท่องเที่ยวตามปกติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นชมวิวกันได้
**"สุกำพล"เหน็บอย่าไปคลั่งชาติกันมาก
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเข้าตรวจเยี่ยมและรับฟังบรรยายสรุปปัญหาชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานีว่า ปัญหาชายแดนด้านประเทศกัมพูชา นายกฯ ของไทยได้มีการพูดคุยกับนายกฯ กัมพูชา และได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน หลังจากที่เดินทางกลับมาจากกัมพูชาแล้วว่าทั้งสองฝ่ายจะอยู่ร่วมกันแบบสันติ ส่วนที่มีปัญหาอยู่ก็จะช่วยกันแก้ไข
“อย่าไปคลั่งชาติกันมาก เรารักชาติกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนเลวก็รักชาติกันทุกคน เราอย่าไปรักชาติคนเดียว ต้องดูสังคมโลก เพราะเขามีกติกาไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ตัวเอง แต่เราก็ฟังทุกฝ่าย ทุกคน”
**ส่ง"คำนูน"หารือ"ปู-ปึ้ง"ถกสู้คดีพระวิหาร
ที่รัฐสภา น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการฯ ได้ทำหนังสือขอเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือและเสนอความเห็นต่อการดำเนินงาน ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้ส่งหนังสือยืนยันว่าจะให้กรรมาธิการฯ เข้าพบและหารือผ่านนายสุรพงษ์ โตวิจักณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ โดยในเบื้องต้นกรรมาธิการฯ จะหารือในส่วนการต่อสู้ในคดีปราสาทพระวิหาร โดยได้มอบหมายให้นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ฐานะรองประธานกรรมาธิการฯเป็นผู้รวบรวมประเด็นที่จะนำไปเสนอ
นายคำนูณกล่าวว่า ประเด็นที่จะนำไปหารือและเสนอแนะนั้น โดยหลักจะเป็นในส่วนของการเผยแพร่เอกสาร "50 ปี 50 ประเด็น ปราสาทพระวิหาร" ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่พบว่ายังมีความผิดพลาดและเสี่ยงที่จะถูกประเทศกัมพูชานำไปเป็นประเด็นต่อสู้ในศาลโลก และกลายเป็นความได้เปรียบในการต่อสู้คดีกับประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วจะเป็นประเด็นที่ทางกระทรวงต่างประเทศไม่ได้ชี้แจงข้อมูล ในประเด็นการรับเขตอำนาจศาลโลก และการตีความคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาว่าทำได้หรือไม่ และหากศาลโลกปัจจุบันพิจารณาในประเด็นที่ต่างไปจากคำพิพากษาเมื่อ 50 ปีก่อน ประเทศไทยจะต้องยอมรับหรือไม่ รวมถึงข้อมูลที่อาจนำไปประกอบการต่อสู้ในคดีปราสาทพระวิหาร ที่จะมีขึ้นช่วงเดือน เม.ย.นี้
**"พงษ์เทพ"ไม่หนักใจการสู้คดี
ทางด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวก่อนเดินทางไปหารือฝ่ายกฎหมายคดีปราสาทพระวิหารที่สหราชอาณาจักรว่า ในฐานะประธานคณะต่อสู้คดี เตรียมไปหารือกับทีมที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างประเทศที่ทำคดีมาตั้งแต่ต้น โดยจะใช้เวลาหารือ 4 วัน เพื่อนำเสนอศาลโลกด้วยวาจาในเดือนเม.ย.นี้ โดยจะหารือถึงการนำเสนอประเด็นที่จะทำให้ตุลาการในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศฟัง รวมถึงเตรียมการว่าฝ่ายกัมพูชาจะเสนอในประเด็นใด ส่วนผลจะออกมาอย่างไรไม่มีใครบอกได้ ทั้งนี้ มั่นใจว่า ข้อต่อสู้มีน้ำหนัก มีเหตุผลและทำอย่างดีที่สุด และไม่หนักใจ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
