ASTVผู้จัดการรายวัน -"ปู"หิ้ว"โต้ง"ชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน เผยยังอยู่ขั้นตอนทำแผน รอคมนาคม เสนอตามยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ ปฏิเสธสั่งรื้อแผนการใช้งบ แค่ปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยันไม่ปรับ"โต้ง"พ้นครม. ชมฝีมือดี มีความสำคัญ ด้าน"ปลอด"เผยรายชื่อ 6 บริษัทรับงานบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3 แสนล้าน เซ็นสัญญา เม.ย.นี้
เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ (5ก.พ.) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ร่วมกันแถลงข่าว ถึงความคืบหน้า พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำแผนจากกระทรวงคมนาคม ที่จะเสนอเรื่องเข้ามา ตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศ ตามที่ได้แถลงไว้ ซึ่งหลักการในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะเน้นกระจายความเจริญไปยังต่างจังหวัด ภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการจัดทำกรอบงบประมาณคร่าวๆ ของทุกโครงการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่านายกฯไม่พอใจบางจุด และให้ไปทำมาใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธ ว่า ไม่ใช่ จริงๆแล้วบางส่วนเรามองว่าน่าจะอยู่ในงบประมาณปกติ ซึ่งเราอยากใช้งบประมาณเงินกู้ 2.2 ล้านล้าน ไปในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานจริงๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงตามจุดต่างๆ ต้องสร้างให้จบ เราอยากเห็นการต่อเชื่อมตรงนี้ อย่างบางที่มีสถานี แต่ไม่มีถนนไปยังจุดอุตสาหกรรม หรือสถานที่สำคัญของตัวเมือง หรือจังหวัด อันนี้เรามองว่าจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ปรับตรงนี้บ้างนิดหน่อยแค่นั้น ไม่ได้ไปรื้ออะไรมาก
เมื่อถามว่า หมายถึงจะไม่ให้งบกรมทางหลวง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การสร้างถนนจะให้งบประมาณในจุดที่เป็นถนนเมนหลัก เราต้องให้ความสำคัญตรงนี้ก่อน และคงต้องไปดูงบประมาณรวม เพราะเรามีความจำเป็นเรื่องของรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ต้องใช้งบประมาณในส่วนนี้ก่อน และเชื่อมต่อถนนเส้นใหญ่ หากเราไปกระจายลงถนนซอยย่อย เล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ถนนเส้นหลักไม่สมบูรณ์ ซึ่งเราต้องคุยกันในหลักการตรงนี้
เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าว จะเข้า ครม.ได้เมื่อไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันไปถาม นายกิตติรัตน์ ว่า จะเข้าได้เมื่อไร พร้อมหันมากล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนแหล่งเงินกู้ ก็มาจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซี่งหลักๆ จะใช้เงินที่มีอยู่
**ยันไม่ปรับ"กิตติรัตน์"พ้นครม.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงการปรับครม. ว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส่งรายชื่อปรับครม.ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามาให้แล้ว แต่ก็คงต้องดูว่าจะปรับเมื่อไร อย่างไร ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังหรอกค่ะ ขอรับเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เมื่อถามว่าการปรับ ครม. จะเป็นการปรับหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งเดาเลย ถ้ามีรายละเอียดอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ
เมื่อถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะเป็นการปรับเล็ก ไม่ใช่การปรับใหญ่ ที่รวมในส่วนของพรรคเพื่อไทยไปด้วย ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ตอบอะไรเลยดีไหมคะ ขออนุญาตว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการปรับ
เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยังอยู่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม คุณกิตติรัตน์ ก็เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องการนำแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทิศทางก็เป็นไปในทางที่ดี เมื่อถามย้ำว่า กระแสข่าวที่ว่า จะมีการปรับนายกิตติรัตน์ ออก ยืนยันว่าไม่จริงใช่ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่จริงหรอกค่ะ เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์ ยังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินผ่าวงล้อมของสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า ถามท่านรองกิตติรัตน์ ค่ะ
**เปิดรายชื่อบริษัทแก้ปัญหาน้ำ 3 แสนล.
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก กรอบแนวคิด เพื่อออกแบบ และก่อสร้าง ระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ประกาศรายชื่อบริษัท และกลุ่มบริษัทเอกชนที่เข้ารอบ 2 กลุ่มบริษัทที่เสนอกรอบแนวคิด โครงการก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัย มูลค่า 3 แสนล้านบาท ใน 10 โครงการ ประกอบด้วย 1. บริษัทโคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์เปอร์เรชั่น (เค วอเตอร์) 2. กิจการค้าร่วม ญี่ปุ่น-ไทย 3. ITD-POWERCHAINA JV 4.กิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์ 5. กลุ่มบริษัทร่วมค้า ล็อกซเลย์ และ 6. กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที
โดยในกลุ่ม 6 บริษัทนี้ จะประกอบไปด้วย บริษัทย่อย 31 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ 19 บริษัท เป็นของคนไทย ที่เหลือเป็นของต่างชาติ ยืนยันบริษัทที่มารับบริหารจัดการน้ำ ต้องเป็นบริษัทของไทยอย่างแน่นอน ซึ่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ก็จะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ และจะไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างแน่นอน ส่วนเงื่อนไขเวลาของบริษัทที่ผ่านการยื่นข้อเสนอจะมีเวลา 3 เดือนในการออกแบบ และนำเสนอต่อคณะกรรมการ
พร้อมกันนี้ นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่ตนเองรับผิดชอบโครงการตั้งแต่เริ่มต้นพอใจในการดำเนินงาน คาดระยะเวลา 6 เดือน จะเห็นความคืบหน้า โดยเมื่อสามารถเดินหน้าได้ก็ต้องกำหนดกรอบเวลาดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 5 ปี
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ผลการคัดเลือกครั้งนี้สะท้อนว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับบริษัทไทย อีกทั้งยังสามารถประหยัดงบประมาณด้านการออกแบบ และลดเวลาดำเนินงานไปได้มาก พร้อมระบุว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะออกหลักเกณฑ์สำหรับ การก่อสร้าง โดยแบ่งเป็นซองประกวดประมูล 3 ซอง ได้แก่ ซองเทคนิค ราคา และระยะเวลา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ โดยจะไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะมอบหมายเป็นหน้าที่ของ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณามอบหมายงาน และแต่งตั้งอนุกรรมการอีกอย่างน้อย 10 ชุด เพื่อพิจารณาการออกแบบต่อไป คาดว่าจะเริ่มเซ็นต์สัญญา และเบิกจ่ายเงินภายในเดือนเม.ย.นี้
นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ (5ก.พ.) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ร่วมกันแถลงข่าว ถึงความคืบหน้า พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำแผนจากกระทรวงคมนาคม ที่จะเสนอเรื่องเข้ามา ตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศ ตามที่ได้แถลงไว้ ซึ่งหลักการในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะเน้นกระจายความเจริญไปยังต่างจังหวัด ภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการจัดทำกรอบงบประมาณคร่าวๆ ของทุกโครงการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่านายกฯไม่พอใจบางจุด และให้ไปทำมาใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธ ว่า ไม่ใช่ จริงๆแล้วบางส่วนเรามองว่าน่าจะอยู่ในงบประมาณปกติ ซึ่งเราอยากใช้งบประมาณเงินกู้ 2.2 ล้านล้าน ไปในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานจริงๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงตามจุดต่างๆ ต้องสร้างให้จบ เราอยากเห็นการต่อเชื่อมตรงนี้ อย่างบางที่มีสถานี แต่ไม่มีถนนไปยังจุดอุตสาหกรรม หรือสถานที่สำคัญของตัวเมือง หรือจังหวัด อันนี้เรามองว่าจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ปรับตรงนี้บ้างนิดหน่อยแค่นั้น ไม่ได้ไปรื้ออะไรมาก
เมื่อถามว่า หมายถึงจะไม่ให้งบกรมทางหลวง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การสร้างถนนจะให้งบประมาณในจุดที่เป็นถนนเมนหลัก เราต้องให้ความสำคัญตรงนี้ก่อน และคงต้องไปดูงบประมาณรวม เพราะเรามีความจำเป็นเรื่องของรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ต้องใช้งบประมาณในส่วนนี้ก่อน และเชื่อมต่อถนนเส้นใหญ่ หากเราไปกระจายลงถนนซอยย่อย เล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ถนนเส้นหลักไม่สมบูรณ์ ซึ่งเราต้องคุยกันในหลักการตรงนี้
เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าว จะเข้า ครม.ได้เมื่อไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันไปถาม นายกิตติรัตน์ ว่า จะเข้าได้เมื่อไร พร้อมหันมากล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนแหล่งเงินกู้ ก็มาจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซี่งหลักๆ จะใช้เงินที่มีอยู่
**ยันไม่ปรับ"กิตติรัตน์"พ้นครม.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงการปรับครม. ว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส่งรายชื่อปรับครม.ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามาให้แล้ว แต่ก็คงต้องดูว่าจะปรับเมื่อไร อย่างไร ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังหรอกค่ะ ขอรับเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เมื่อถามว่าการปรับ ครม. จะเป็นการปรับหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งเดาเลย ถ้ามีรายละเอียดอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ
เมื่อถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะเป็นการปรับเล็ก ไม่ใช่การปรับใหญ่ ที่รวมในส่วนของพรรคเพื่อไทยไปด้วย ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ตอบอะไรเลยดีไหมคะ ขออนุญาตว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการปรับ
เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยังอยู่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม คุณกิตติรัตน์ ก็เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องการนำแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทิศทางก็เป็นไปในทางที่ดี เมื่อถามย้ำว่า กระแสข่าวที่ว่า จะมีการปรับนายกิตติรัตน์ ออก ยืนยันว่าไม่จริงใช่ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่จริงหรอกค่ะ เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์ ยังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินผ่าวงล้อมของสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า ถามท่านรองกิตติรัตน์ ค่ะ
**เปิดรายชื่อบริษัทแก้ปัญหาน้ำ 3 แสนล.
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก กรอบแนวคิด เพื่อออกแบบ และก่อสร้าง ระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ประกาศรายชื่อบริษัท และกลุ่มบริษัทเอกชนที่เข้ารอบ 2 กลุ่มบริษัทที่เสนอกรอบแนวคิด โครงการก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัย มูลค่า 3 แสนล้านบาท ใน 10 โครงการ ประกอบด้วย 1. บริษัทโคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์เปอร์เรชั่น (เค วอเตอร์) 2. กิจการค้าร่วม ญี่ปุ่น-ไทย 3. ITD-POWERCHAINA JV 4.กิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์ 5. กลุ่มบริษัทร่วมค้า ล็อกซเลย์ และ 6. กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที
โดยในกลุ่ม 6 บริษัทนี้ จะประกอบไปด้วย บริษัทย่อย 31 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ 19 บริษัท เป็นของคนไทย ที่เหลือเป็นของต่างชาติ ยืนยันบริษัทที่มารับบริหารจัดการน้ำ ต้องเป็นบริษัทของไทยอย่างแน่นอน ซึ่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ก็จะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ และจะไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างแน่นอน ส่วนเงื่อนไขเวลาของบริษัทที่ผ่านการยื่นข้อเสนอจะมีเวลา 3 เดือนในการออกแบบ และนำเสนอต่อคณะกรรมการ
พร้อมกันนี้ นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่ตนเองรับผิดชอบโครงการตั้งแต่เริ่มต้นพอใจในการดำเนินงาน คาดระยะเวลา 6 เดือน จะเห็นความคืบหน้า โดยเมื่อสามารถเดินหน้าได้ก็ต้องกำหนดกรอบเวลาดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 5 ปี
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ผลการคัดเลือกครั้งนี้สะท้อนว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับบริษัทไทย อีกทั้งยังสามารถประหยัดงบประมาณด้านการออกแบบ และลดเวลาดำเนินงานไปได้มาก พร้อมระบุว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะออกหลักเกณฑ์สำหรับ การก่อสร้าง โดยแบ่งเป็นซองประกวดประมูล 3 ซอง ได้แก่ ซองเทคนิค ราคา และระยะเวลา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ โดยจะไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะมอบหมายเป็นหน้าที่ของ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณามอบหมายงาน และแต่งตั้งอนุกรรมการอีกอย่างน้อย 10 ชุด เพื่อพิจารณาการออกแบบต่อไป คาดว่าจะเริ่มเซ็นต์สัญญา และเบิกจ่ายเงินภายในเดือนเม.ย.นี้
นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
