นายกฯ กวักมือเรียก “กิตติรัตน์” ยืนตอบสื่อ ยันกู้ 2.2 ล้านล้านแค่ทำแผน ปัดวีนให้ไปทำใหม่ อ้างให้เพิ่มในส่วนโครงสร้างพื้นฐาน ปรับบางสถานีรถไฟฟ้าที่ไม่เกิดประโยชน์ เน้นถนนสายหลัก โยน “ปลอด” แจงประมูลจัดการน้ำ เผย “บรรหาร” ส่งชื่อ รมต.ใหม่มาให้แล้ว ยังไม่บอกปรับเมื่อไหร่ บอกไม่มีเด็กเพื่อไทยหลุด โอ่ “โต้ง” ตัวละครสำคัญไม่โดนเด้งแน่
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท โดยก่อนการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ได้กวักมือเรียกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนคตรีว่าการกระทรวงการคลัง มายืนข้างๆ พร้อมระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำแผนจากกระทรวงคมนาคม ที่จะเสนอเรื่องเข้ามาโดยยุทธศาสตร์ได้เรียนไว้ในวันที่มีการแถลงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งหลักการในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเน้นกระจายความเจริญไปยังต่างจังหวัด ภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการจัดทำกรอบงบประมาณคร่าวๆ ของทุกโครงการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวนายกฯ ไม่พอใจบางจุดให้ไปทำใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ จริงๆ แล้วบางส่วนเรามองว่าน่าจะอยู่ในงบประมาณปกติ ซึ่งเราอยากใช้งบประมาณเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทไปในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานจริงๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงตามจุดต่างๆ ต้องสร้างให้จบ เราอยากเห็นการต่อเชื่อมตรงนี้ อย่างบางที่มีสถานีแต่ไม่มีถนนไปยังจุดอุตสาหกรรม หรือสถานที่สำคัญของตัวเมืองหรือจังหวัด อันนี้เรามองว่าจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ปรับตรงนี้บ้างนิดหน่อยแค่นั้นไม่ได้ไปรื้ออะไร
เมื่อถามว่าหมายถึงจะไม่ให้งบกรมทางหลวง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การสร้างถนนจะให้งบประมาณในจุดที่เป็นถนนเมนหลัก เราต้องให้ความสำคัญตรงนี้ก่อน และคงต้องไปดูงบประมาณรวมเพราะ เรามีความจำเป็นเรื่องของรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูงต่างๆ ต้องใช้งบประมาณในส่วนนี้ก่อน และเชื่อมต่อถนนเส้นใหญ่ หากเราไปกระจายลงถนนซอยย่อยเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ถนนเส้นหลักไม่สมบูรณ์ ซึ่งเราต้องคุยกันในหลักการตรงนี้
เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์จะเข้า ครม.ได้เมื่อใหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หันไปถามนายกิตติรัตน์ว่าจะเข้าได้เมื่อไหร่ พร้อมหันมากล่าวว่ากำลังดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่าแหล่งเงินกู้จะมาจากจุดไหนบ้าง นายกฯ กล่าวว่า มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซี่งหลักๆ จะใช้เงินที่มีอยู่
ส่วนข้อเสนอของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่จะมีการควบรวมแบงก์เอสเอ็มอี กับธนาคารออมสินจะพิจารณาอย่างไรนั้น นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่นายกิตติรัตน์เคยเรียนก่อนหน้านี้ว่าเป็นข้อเสนอของเวิลด์แบงก์ เราคงต้องรับไปดูก่อนโดยดูเรื่องโครงสร้างหนี้เป็นอันแรก เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่ต้องควบรวมแบงก์ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอศึกษาก่อนเพราะหลักการควบรวมต้องทำให้ธนาคารออมสินมีศักยภาพด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องขอดูก่อนยังไม่ได้คำตอบทั้งหมดขออนุญาตศึกษาดูโครงสร้างก่อน
เมื่อถามว่า ทำไมต้องควบรวมสองแบงก์นี้ นายกฯ หันไปให้นายกิตติรัตน์ตอบ ซึ่งนายกิตติรัตน์กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของเวิลด์แบงก์ ไม่ใช่ข้อเสนอจากเรา โดยเวิลด์แบงก์ให้เหตุผลว่าธนาคาร เอสเอ็มอีเป็นธนาคารที่มีขนาดเล็ก และธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีแผนกเอสเอ็มอีรวมกับส่วนอื่นๆ ของธนาคารด้วย อันนั้นเป็นแนวทางกลาง ซึ่งเราต้องศึกษาข้อเสนอต่างๆ ให้ละเอียดก่อน
เมื่อถามว่าเวิลด์แบงก์ได้สรุปผลกระทบที่จะตามมาด้วยหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า เขาเสนอเป็นแนวทางกลางๆ เมื่อถามย้ำว่า นอกจากข้อเสนอของเวิลด์แบงก์เสนอมาให้ควบรวมเอสเอ็มอีกับธนาคารออมสิน ยังมีธนาคารอื่นๆ ของรัฐเสนอมาเพิ่มหรือไม่ เช่น ธนาคารอิสลาม เพราะมีปัญหาเดียวกันกับเอสเอ็มอี นายกิตติรัตน์กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องคนละประเด็น ธนาคารทุกแห่งมีหนี้ดีและหนี้ที่มีปัญหา หนี้ที่มีปัญหาก็แก้ไขไป
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงบริษัทที่ชนะการประมูลโครงการน้ำว่า มีประมาณ 5 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือก โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ชี้แจงในเรื่องนี้ แต่ตรงนี้เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจคุณสมบัติเบื้องต้น หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้ส่งรายชื่อปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามาให้แล้วว่า ได้รับแล้ว แต่ก็ต้องดูว่าจะเมื่อไหร่ อย่างไร ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยัง ขอรับเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เมื่อถามว่าการปรับ ครม.จะเป็นการปรับหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่าเพิ่งเดา ถ้ามีรายละเอียดอย่างไรจะแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบ
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งต่อไปจะเป็นการปรับเล็ก ไม่ใช่การปรับใหญ่ที่รวมของพรรคเพื่อไทยไปด้วยใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการปรับ เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง ยังอยู่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม นายกิตติรัตน์ก็เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องการนำแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมาทิศทางก็เป็นไปในแนวทางที่ดี เมื่อถามย้ำว่า กระแสข่าวที่จะมีการปรับนายกิตติรัตน์ออกยืนยันว่าไม่จริงใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่จริง เมื่อถามว่านายกิตติรัตน์ยังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินผ่าวงสื่อพร้อมกับกล่าวว่าให้ถามนายกิตติรัตน์เอง
