เห็นการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครหลายยุคแล้ว ก็เป็นเพียงการแข่งขันแบบสาดโคลน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น มีพฤติกรรมแปลกแหวกแนวโชว์ชาวบ้านสารพัด ทั้งล้วงท่อ กวาดขยะ ชงกาแฟ ผัดข้าว บางคนเงอะงะ ไม่เคยเข้าครัวมาก่อน ยกเว้นไปเอาน้ำแข็งและโซดาแช่เย็น ต้องจำใจทำแต้ม
ระยะหลังมีกฎเหล็กจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ห้ามนำประวัติความชั่วร้ายของคู่แข่งรายอื่นมาประจานให้ชาวบ้านฟังเมื่อขึ้นเวทีหาเสียง แม้จะเป็นความจริงก็ทำไม่ได้ กกต. อ้างว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ชาวบ้านขาดข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเลวทรามของผู้สมัครมาประกอบการตัดสินใจ
ดังนั้น เราจะเห็นผู้สมัครแต่ละรายรับบทนักแสดง เป็นนายแสนดีวจีไพเราะเสนาะโสต พูดจาภาษาดอกไม้ เห็นหน้าชาวบ้านต้องเตรียมแหกปากฉีกยิ้มถึงใบหู ถ้าแหกก้นดมได้คงทำไปแล้ว! ลีลาแต่ละคนเหมาะกับรางวัลเมฆขโหล ทั้งเนียนด้านๆ ทำได้ทุกอย่างขอให้ชาวบ้านชื่นชอบยิ้มตอบเถอะ
โดยปกติแชมป์เก่าคือคุณชายสุขุมพันธุ์จะมีแต้มต่อ ผู้ท้าชิงเป็นรองเมื่อยังไม่มีผลงาน คราวนี้เกิดปรากฏการณ์ “จูดี้” นายตำรวจมาดดี มีแรงหนุนตีกินคะแนนแบบเนียนผ่านโครงการปราบยาเสพติด เดินจี้ตามก้นบานๆ ของแม่นางโพยปูโพรกเน่าในไปทุกแห่ง โชว์โครงการบ้านอุ่นใจ ไปเยือนชุมชนแออัด
เมื่อขึ้นป้ายโปสเตอร์คู่กับแม่นางโพย เท่ากับได้เปรียบ! กกต.ไม่นำงบโฆษณาเหล่านี้ไปรวมกับงบรวมเลือกตั้งแต่ละคน 49 ล้านบาท ขณะที่คุณชายสุขุมพันธุ์ต้องเผชิญคู่แข่ง นอกจาก “จูดี้” ตัวแทนพรรคเผาบ้านเผาเมืองแล้ว ยังมีดีเอสไอคอยเตะตัดขาทุกระยะ ลูกเล่นทีเด็ดของธาริตแต่ละดอกเจ็บๆ
นอกจากนั้นคุณชายสุขุมพันธุ์ยังเจอโพลซังกะบ๊วยเอาตัวเลขมาโชว์ซ้ำซากว่าเป็นรอง “จูดี้” จากไม่กี่เปอร์เซ็นต์กลายเป็น 2 หลัก ทำเอาค่ายสะตอต้องปาดเหงื่อ จะหาโอกาสวิ่งหายใจรดต้นคอ “จูดี้” ได้หรือไม่ยังเป็นปัญหา
“จูดี้” ไม่หวั่นเรื่องประวัติด่างพร้อยในสหรัฐฯ เรื่องมือไวใจร้อน หยิบวิทยุมาโดยลืมจ่ายเงิน ทำให้อาจารย์ฝรั่งต้องจ่ายเงิน 500 ดอลลาร์ประกันตัวออกมา และเรื่องนี้เป็นชนักปักหลัง กลบไม่มิด ปิดไม่สนิท แม้ผ่านไปหลายปี
แต่ “จูดี้” บ่ยั่น ใช้ลูกเล่นที่คนสติปัญญาปกติทั่วไปไม่ทำกัน เช่น แต่งตัวด้วยมาดเนี้ยบกระโดดเกาะรถขยะของ กทม.สุดเหม็น ตะโกนเสียงดังให้ชาวบ้านได้ยิน “ไปเลยเพ่” อะฮ้า! ลีลาสุดโต่งแบบนี้คุณชายสุขุมพันธุ์หรือผู้สมัครคะแนนเป็นรองอีกรายคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องยกมือยอมให้
ปู้โธ่! คนไม่บ๊องจะกล้าเกาะรถขยะเรอะ ถ้าไม่ใช่พนักงานเก็บขยะ? การที่ “จูดี้” ทุ่มสุดตัวระดับนี้ถือว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่! แต่อย่านึกว่านั่นเป็นไม้ตายสุดท้าย สิ่งที่นักการเมืองหรือนักหาเสียงในโลกนี้ยังไม่ทำ ก็มี “จูดี้” นี่แหละที่กล้าทำ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สมควรกินเนสส์บุ๊คต้องบันทึกไว้
นั่นคือ “จูดี้” นั่งยองๆ ยกมือไหว้ขอทาน พนมมือแต้ข้างถนน ทำเอาทีมงานต้องรีบนั่งยกมือไหว้ตาม ขอทานชายรายนั้นแทบช็อก รีบยกมือรับไว้แทบไม่ทัน! คงเป็นมาดนี้แหละที่แม่นางโพยปูโพรกเน่าในรู้สึกอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ไม่ไหวจะเคลียร์ เป็นการสร้างภาพเกินกว่าคนสติเต็มเต็งจะทนไหว
เห็นข่าวบอกว่าแม่นางโพยสั่งการให้ทีมงานของ “จูดี้” ต้องไปคิดค้นยุทธศาสตร์ เน้นผลงาน แม้จะไม่มีชัดเจน ต้องหาประเด็นมาตีกิน แม้อาชีพตำรวจยังไม่ได้สร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากประโคมเรื่อง “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ” ช่วงเทศกาลชาวบ้านแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว เสี่ยงตายทั่วประเทศ
ยิ่งนโยบายขายเสียงของ “จูดี้” เป็นแบบสุดโต่ง เช่น นั่งรถเมล์ฟรี ออกทุก 5 นาที ฝากบ้านไว้กับตำรวจทุกหลัง 365 วัน นั่งเรือคลองแสนแสบฟรี เรือด่วนฟรี เพิ่มเงินผู้ชราเป็นเดือนละ 1,200 บาท ก็สร้างความฮือฮา ชาวบ้านเคลิ้ม!
ใครจะเชื่อหรือไม่ แต่โพลทุกแห่งให้คะแนน “จูดี้” นำ เป็นโพลรับจ้าง หรือโพลยกเมฆ ตามข้อกล่าวหา คนทำโพลก็ไม่สน! ไหนๆ คนมีสติปัญญาก็ไม่ให้ความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว คงเอาไว้หลอกพวกบ้องตื้นชายขอบป่าคอนกรีต
จากนี้ไปยังเหลือเวลาอีกเกือบ 1 เดือน “จูดี้” ต้องหาลูกเล่นลีลาเหนือจินตนาการมาหลอกล่อเอาคะแนนชาวบ้าน แม่นางโพยอาจไม่จำเป็นต้องช่วย เพราะบักเฉ-ลิมยังเป็นตัวช่วย แซวคุณชายสุขุมพันธุ์ว่ากอดหมาไม่ได้คะแนน
เป็นความท้าทายความเชี่ยวชาญของพวกนักคาดเดาว่าใครจะชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “จูดี้” ได้คำรับรองจากแม่นางโพยว่าถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นการบริหารแบบไร้รอยต่อ ไร้รอยตะเข็บ เข้าขากันดี ต่อให้เป็นวันมามากก็ตาม
อืมม์...นอกจากยกมือไหว้ขอทาน นวดตีนให้ชาวบ้าน ไม่รังเกียจอุ้งตีนแตกแล้ว ยังจะเหลืออีกกี่อย่างสำหรับ “จูดี้” ใช้เป็นลูกเล่นโกยคะแนนก่อนเข้าโค้งสุดท้าย! แต่อย่าช็อกถ้าเกิดแพ้แชมป์เก่าเพราะคนกรุงกลัว “เพลิงสะพัด”
ขอตีปลาหน้าไซดักคอไว้ก่อน! ยังเหลือไม่กี่อย่างสำหรับ “จูดี้” เช่น รับเปลี่ยนยางรถ ส้วมระเบิด เก็บรังต่อหัวเสือ จับงูเหลือมเข้าบ้าน! สุดยอดที่สุดไม่มีอะไรเกินกว่าการทำคลอดหญิงท้องแก่ในรถแท็กซี่! แต่ต้องให้เนียนจริงๆ
ระยะหลังมีกฎเหล็กจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ห้ามนำประวัติความชั่วร้ายของคู่แข่งรายอื่นมาประจานให้ชาวบ้านฟังเมื่อขึ้นเวทีหาเสียง แม้จะเป็นความจริงก็ทำไม่ได้ กกต. อ้างว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ชาวบ้านขาดข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเลวทรามของผู้สมัครมาประกอบการตัดสินใจ
ดังนั้น เราจะเห็นผู้สมัครแต่ละรายรับบทนักแสดง เป็นนายแสนดีวจีไพเราะเสนาะโสต พูดจาภาษาดอกไม้ เห็นหน้าชาวบ้านต้องเตรียมแหกปากฉีกยิ้มถึงใบหู ถ้าแหกก้นดมได้คงทำไปแล้ว! ลีลาแต่ละคนเหมาะกับรางวัลเมฆขโหล ทั้งเนียนด้านๆ ทำได้ทุกอย่างขอให้ชาวบ้านชื่นชอบยิ้มตอบเถอะ
โดยปกติแชมป์เก่าคือคุณชายสุขุมพันธุ์จะมีแต้มต่อ ผู้ท้าชิงเป็นรองเมื่อยังไม่มีผลงาน คราวนี้เกิดปรากฏการณ์ “จูดี้” นายตำรวจมาดดี มีแรงหนุนตีกินคะแนนแบบเนียนผ่านโครงการปราบยาเสพติด เดินจี้ตามก้นบานๆ ของแม่นางโพยปูโพรกเน่าในไปทุกแห่ง โชว์โครงการบ้านอุ่นใจ ไปเยือนชุมชนแออัด
เมื่อขึ้นป้ายโปสเตอร์คู่กับแม่นางโพย เท่ากับได้เปรียบ! กกต.ไม่นำงบโฆษณาเหล่านี้ไปรวมกับงบรวมเลือกตั้งแต่ละคน 49 ล้านบาท ขณะที่คุณชายสุขุมพันธุ์ต้องเผชิญคู่แข่ง นอกจาก “จูดี้” ตัวแทนพรรคเผาบ้านเผาเมืองแล้ว ยังมีดีเอสไอคอยเตะตัดขาทุกระยะ ลูกเล่นทีเด็ดของธาริตแต่ละดอกเจ็บๆ
นอกจากนั้นคุณชายสุขุมพันธุ์ยังเจอโพลซังกะบ๊วยเอาตัวเลขมาโชว์ซ้ำซากว่าเป็นรอง “จูดี้” จากไม่กี่เปอร์เซ็นต์กลายเป็น 2 หลัก ทำเอาค่ายสะตอต้องปาดเหงื่อ จะหาโอกาสวิ่งหายใจรดต้นคอ “จูดี้” ได้หรือไม่ยังเป็นปัญหา
“จูดี้” ไม่หวั่นเรื่องประวัติด่างพร้อยในสหรัฐฯ เรื่องมือไวใจร้อน หยิบวิทยุมาโดยลืมจ่ายเงิน ทำให้อาจารย์ฝรั่งต้องจ่ายเงิน 500 ดอลลาร์ประกันตัวออกมา และเรื่องนี้เป็นชนักปักหลัง กลบไม่มิด ปิดไม่สนิท แม้ผ่านไปหลายปี
แต่ “จูดี้” บ่ยั่น ใช้ลูกเล่นที่คนสติปัญญาปกติทั่วไปไม่ทำกัน เช่น แต่งตัวด้วยมาดเนี้ยบกระโดดเกาะรถขยะของ กทม.สุดเหม็น ตะโกนเสียงดังให้ชาวบ้านได้ยิน “ไปเลยเพ่” อะฮ้า! ลีลาสุดโต่งแบบนี้คุณชายสุขุมพันธุ์หรือผู้สมัครคะแนนเป็นรองอีกรายคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องยกมือยอมให้
ปู้โธ่! คนไม่บ๊องจะกล้าเกาะรถขยะเรอะ ถ้าไม่ใช่พนักงานเก็บขยะ? การที่ “จูดี้” ทุ่มสุดตัวระดับนี้ถือว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่! แต่อย่านึกว่านั่นเป็นไม้ตายสุดท้าย สิ่งที่นักการเมืองหรือนักหาเสียงในโลกนี้ยังไม่ทำ ก็มี “จูดี้” นี่แหละที่กล้าทำ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สมควรกินเนสส์บุ๊คต้องบันทึกไว้
นั่นคือ “จูดี้” นั่งยองๆ ยกมือไหว้ขอทาน พนมมือแต้ข้างถนน ทำเอาทีมงานต้องรีบนั่งยกมือไหว้ตาม ขอทานชายรายนั้นแทบช็อก รีบยกมือรับไว้แทบไม่ทัน! คงเป็นมาดนี้แหละที่แม่นางโพยปูโพรกเน่าในรู้สึกอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ไม่ไหวจะเคลียร์ เป็นการสร้างภาพเกินกว่าคนสติเต็มเต็งจะทนไหว
เห็นข่าวบอกว่าแม่นางโพยสั่งการให้ทีมงานของ “จูดี้” ต้องไปคิดค้นยุทธศาสตร์ เน้นผลงาน แม้จะไม่มีชัดเจน ต้องหาประเด็นมาตีกิน แม้อาชีพตำรวจยังไม่ได้สร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากประโคมเรื่อง “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ” ช่วงเทศกาลชาวบ้านแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว เสี่ยงตายทั่วประเทศ
ยิ่งนโยบายขายเสียงของ “จูดี้” เป็นแบบสุดโต่ง เช่น นั่งรถเมล์ฟรี ออกทุก 5 นาที ฝากบ้านไว้กับตำรวจทุกหลัง 365 วัน นั่งเรือคลองแสนแสบฟรี เรือด่วนฟรี เพิ่มเงินผู้ชราเป็นเดือนละ 1,200 บาท ก็สร้างความฮือฮา ชาวบ้านเคลิ้ม!
ใครจะเชื่อหรือไม่ แต่โพลทุกแห่งให้คะแนน “จูดี้” นำ เป็นโพลรับจ้าง หรือโพลยกเมฆ ตามข้อกล่าวหา คนทำโพลก็ไม่สน! ไหนๆ คนมีสติปัญญาก็ไม่ให้ความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว คงเอาไว้หลอกพวกบ้องตื้นชายขอบป่าคอนกรีต
จากนี้ไปยังเหลือเวลาอีกเกือบ 1 เดือน “จูดี้” ต้องหาลูกเล่นลีลาเหนือจินตนาการมาหลอกล่อเอาคะแนนชาวบ้าน แม่นางโพยอาจไม่จำเป็นต้องช่วย เพราะบักเฉ-ลิมยังเป็นตัวช่วย แซวคุณชายสุขุมพันธุ์ว่ากอดหมาไม่ได้คะแนน
เป็นความท้าทายความเชี่ยวชาญของพวกนักคาดเดาว่าใครจะชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “จูดี้” ได้คำรับรองจากแม่นางโพยว่าถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นการบริหารแบบไร้รอยต่อ ไร้รอยตะเข็บ เข้าขากันดี ต่อให้เป็นวันมามากก็ตาม
อืมม์...นอกจากยกมือไหว้ขอทาน นวดตีนให้ชาวบ้าน ไม่รังเกียจอุ้งตีนแตกแล้ว ยังจะเหลืออีกกี่อย่างสำหรับ “จูดี้” ใช้เป็นลูกเล่นโกยคะแนนก่อนเข้าโค้งสุดท้าย! แต่อย่าช็อกถ้าเกิดแพ้แชมป์เก่าเพราะคนกรุงกลัว “เพลิงสะพัด”
ขอตีปลาหน้าไซดักคอไว้ก่อน! ยังเหลือไม่กี่อย่างสำหรับ “จูดี้” เช่น รับเปลี่ยนยางรถ ส้วมระเบิด เก็บรังต่อหัวเสือ จับงูเหลือมเข้าบ้าน! สุดยอดที่สุดไม่มีอะไรเกินกว่าการทำคลอดหญิงท้องแก่ในรถแท็กซี่! แต่ต้องให้เนียนจริงๆ
