xs
xsm
sm
md
lg

“ช่อง3 – 7” ปะทะศึกเรียลลิตี้ซีซันนอลโปรแกรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายการประเภทซีซันนอลโปรแกรมหรือรายการที่มีการออกอากาศเป็นช่วงตามเทศกาลระยะเวลาสั้นๆไม่นาน ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สถานีทีวีแต่ละค่ายงัดมาใช้เพื่อยื้อแย่งเรตติ้งผู้ชมกัน ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ารายการประเภทนี้ ประสบความสำเร็จอย่างดี เกิดขึ้นตามกันมามากมาย
อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ สงครามซีซันนอลโปรแกรมประเภทเรียลลิตี้โชว์ จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเป็นสงครามที่จะห้ำหั่นกันอย่างชัดเจนระหว่าง ช่อง 3 ซึ่งกลายเป็นผู้นำตลาดนี้ไปโดยปริยาย กับ ช่อง 7 ในฐานะน้องใหม่ ที่ประกาศชัดเจนว่าศึกครั้งนี้ข้าขอชนด้วย
แม้ว่าเหตุผลของการรุกจะแตกต่างกันบ้างเพื่อลบจุดอ่อนของแต่ละฝ่าย แต่เป้าหมายเดียวกันคือ ดึงเรตติ้งคนดู ตามมาด้วยรายได้จากโฆษณานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม รายการประเภทเรียลลิตี้ ซีซันนอลโปรแกรมนี้ มีที่มา 2 ทาง 1.การซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศโดยเจ้าของสินค้าหรือสถานีทีวีหรือผู้ผลิตรายการ แล้วมาหาพันธมิตรเพื่อทำตลาดร่วมกันทั้งสื่อ สปอนเซอร์
2.มาจากการที่ผู้ผลิตคนไทยผลิตขึ้นมาเอง ซึ่งแบบหลังนี้จะมีน้อยกว่า เพราะแม้ว่าต้นทุนจะต่ำกว่าแต่โอกาสประสบความสำเร็จจะน้อยกว่า สู้รายการลิขสิทธิ์ที่โด่งดังทั่วโลกจากต่างประเทศไม่ได้
แต่ก็อีกนั่นแหละฝีมือก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน
อีกเหตุผลคือ สินค้าส่วนใหญ่มักจะเลือกรายการที่ดัง คนรู้จัก และมีกระแสมากกว่าแน่นอน ดังนั้น รายการประเภทที่ต้องยอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์มาแพงๆก็ดูจะมั่นใจมากขึ้น เช่นกรณีของ รายการไทยแลนด์ก๊อตทาเลนท์ ที่ค่ายยูนิลีเวอร์ ซื้อลิขสิทธิ์มา โดยใช้สินค้าเรโซนาเป็นหัวหอกนำทีม ว่ากันว่า ค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมทั้งค่าลิขสิทธิ์ ค่าผลิต จิปาถะแล้วไม่ต่ำกว่า
200 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินขนาดนี้ ทำไมยูนิลีเวอร์ไม่ไปซื้อเวลาโฆษณาเลยจะดูดีและง่ายกว่า
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวถึงนโยบายของกลยุทธ์นี้ว่า ช่อง 3 ต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่วงเวลานอนไพร์มไทม์ของวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเวลา 17.45-19.15 น. ให้เข้มแข็งกว่าเดิมมากขึ้น โดยใช้รายการเรียลลิตี้โชว์เป็นตัวทะลวง
“ปีนี้อาจจะได้เห็นรายการแบบเรียลลิตี้โชว์จากต่างประเทศค่อนข้างมาก เป็นรายการที่เห็นผลหรือได้รับความสนใจและความนิยมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีโมเดลการผลิตรายการและโนวฮาวที่มีประสิทธิภาพจากต่างประเทศและเป็นรายการดังที่มีชื่อเสียงซึ่งคนไทยมีความต้องการในรูปแบบสำหรับประเทศไทยสูง
ทำให้ผู้ผลิตรายการนั้นๆหันมาเลือกซื้อลิขสิทธิ์รายการเหล่านี้เข้ามาผลิตในไทยมากขึ้น”
แต่คอนเท้นต์เรียลลิตี้โชว์ของช่อง3ส่วนใหญ่มาจากพันธมิตร ช่อง3ไม่ได้ซื้อมาเอง
สรุปรวมความรายการซีซันนอลโปรแกรมประเภทเรียลลิตี้ปีนี้ของช่อง 3 มีมากมาย เริ่มตั้งแต่ รายการ จูเนียร์มาสเตอร์เชฟ เป็นรายการเกี่ยวกับการแข่งขันทำอาหารของเด็กๆจากออสเตรเลีย ที่ร่วมมือกับทางทางกรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกบริษัทที่ดูแลการซื้อสื่อโฆษณาระดับโลกที่หันมาทำเรียลลิตี้โชว์เช่นกัน กำหนดออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ รวม 17 ตอน
ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.45-19.15 น.
ตามด้วยรายการไทยแลนด์ก๊อตทาเลนต์ซีซั่น3 เดือนมิถุนายน ที่ทางยูนิลีเวอร์ซือ้ลิขสิทธิ์มา แล้วตามด้วยเดอะว้อยซ์ซีซั่น2 หลังจากที่เดอะว้อยซ์ซีซันแรกสร้างผลกระเทือนต่อรายการอื่นมากมาย เพราะมีแฟนคลับติดเต็มบ้านเต็มเมือง ด้วยรูปแบบที่แตกต่างจากเรียลลิตี้แข่งขันร้องเพลงรายการอื่น
ขณะที่วันอาทิตย์นั้น ก็มีการปรับเปลี่ยนรายการช่วงเวลา 17.45 – 18.45
น. มีรายการ “แดนซ์ ยัวร์ แฟต ออฟ เต้นเปลี่ยนชีวิต จากอเมริกา เริ่มวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ และยังมีอีก 2-3 รายการชื่อดังจากต่างประเทศที่จ่อคิวตามมาอีกด้วย
เบ็ดเสร็จแล้วช่อง 3 จะมีซีซันนอลโปรแกรมปีนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 6 รายการ
ซึ่งถือว่ามากที่สุด
ส่วนช่อง 7 เอง ก็ดูเหมือนจะเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มด้วยคอนเท้นต์ของไทยเองก่อน เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างบริษัท โคเมดี้ ไลน์ จำกัด กับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ผลิตรายการ“เดอะ คอมเมเดี้ยน ไทยแลนด์” ด้วยต้นทุนประมาณ 60-70 ล้านบาท ซึ่งก็ถือเป็นการเปิดตัวที่ต่างจากช่อง3 เพราะเป็นรายการประเภทตลก
และไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ
โดยรายการนี้ ทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมงทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ 60 ต่อจากรายการอะคาเดมี แฟนเทเชีย เมื่อปีที่แล้ว และจะนำมา ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ช่วงวันเสาร์ เวลา 16.00 -18.00 น. รวม 10 สัปดาห์ เริ่มออกอากาศกลางเดือน ม.ค.56
นายพลากร สมสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการและรักษาการผู้จัดการฝ่ายรายการ
บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 กล่าวว่า ปัจจุบันรายการซีซันนิ่งโปรแกรมได้รับความสนใจจากผู้ชมมากขึ้น ช่อง 7 จึงพัฒนาช่วงเวลาของวันอังคาร หลังจากจบรายการประเด็นเด็ด 7 สี เพื่อรองรัลกับรายการ "ซีซันนิ่งโปรแกรม" โดยเฉพาะซึ่งจะนำเอารายการประเภทต่างๆตามซีซั่นมาออกอากาศ เพิ่มความหลากหลายและสีสันให้กับผู้ชม
นอกจากนั้นช่อง 7 ยังมีรายการซีซันนิ่งโปรแกรม "แดนซิ่ง วิธ เดอะสตาร์" เรียล
ลิตี้ชั้นนำระดับโลก ที่จะออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 23.00-00.45 น. ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการชนกับรายการ ตีสิบ ของช่อง 3 เต็มๆ
กล่าวได้ว่า "แดนซิ่ง วิธ เดอะสตาร์" นอกจากจะขยายฐานสู่รายการซีซันนอลโปรแกรมแล้ว ยังเป็นการขยายฐานสู่กลุ่มผู้ชมในเมืองเพิ่มขึ้นของช่อง7ด้วย เนื่องจากเป็นรายการแข่งขันระดับโลกที่คนชั้นกลางในเมืองรู้จักดี
ทว่าช่อง 7 ยังอุบไต๋รายการประเภทนี้ไว้อยู่ว่าจะมีทีเด็ดอะไรมาชนกับช่อง 3 อีก แต่อย่างน้อยที่สุด ก็มีงบประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ไว้ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในปีนี้พร้อมแล้ว
นางวรรณี รัตนพล ประธานบริหาร บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ผู้ดำเนิน
ธุรกิจการวางแผนและซื้อสื่อโฆษณา มีเดีย เอเยนซี กล่าวว่า รูปแบบรายการแบซีซันนอลโปรแกรม หรือเรียลลิตี้โชว์นั้น ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่นักการตลาดวางแผนโฆษณามองว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การโฆษณาของสินค้าหรือบริการให้ยังคงติดไปกับรายการนั้นๆ

นายวิชัย สุภาสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีจีส มีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด กลุ่มบริษัทชั้นนำระดับแนวหน้าของโลกด้านการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร วิเคราห์ว่า ปีนี้จะได้เห็นรูปแบบรายการประเภทเรียลลิตี้โชว์จากต่างประเทศเข้ามาในไทยค่อนข้างมาก ส่วนสำคัญเพื่อต้องการแข่งขันชิงเรตติ้งคนดู
ในสถานการณ์ที่ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคสามารถรับชมรายการต่างๆได้หลายช่องทาง และจากสื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมกำลังมีบทบาทและเติบโตมากในปีนิ้
ต้องจับตามองกันต่อไปถึงสถานการณ์ที่เข้มข้นจากนี้ ว่า รายการใดจะเป็นที่ฮืออาและถูกกล่าวถึงมากกว่ากัน และช่องไหนจะครองความนิยมและดึงเรตติ้งในแต่ละช่วงรายการไปได้มากที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น