ภาพลักษณ์ส.อ.ท.กู่ไม่กลับ! ซีรี่ส์แย่งอำนาจหาบทจบไม่ลง

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ปัญหาความแตกแยกใน “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)” ที่ดำเนินมายาวนานถึง 2 เดือนดูเหมือนจะเริ่มมีแสงสว่างให้เห็นที่ปลายอุโมงค์เล็ดลอดมาบ้าง เมื่อครั้นการประชุมคณะกรรมการสภาหรือกส.ในวันที่ 28 ม.ค. 56 ที่ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันให้มีการตั้ง “คณะกรรมการส.อ.ท.สัมพันธ์” ขึ้นเพื่อนำไปสู่การเจรจาในการลดความขัดแย้งและนำองค์กรกลับมายืนในจุดที่ควรจะเป็นเช่นอดีต

สำหรับกรรมการส.อ.ท.สัมพันธ์นั้นกำหนดให้ส่งตัวแทนมาฝ่ายละ 5 คน โดยฟากนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประกอบด้วย 1. นายวัลลภ วิตนากร 2. นายสุพันธ์ มงคลสุธี 3. นายเจน นำชัยศิริ 4. นายเกรียงไกร เธียรนุกูล 5. นายนิกร สุศิริวัฒนนนท์ ซึ่งทั้งหมดดำรงตำแหน่งรองประธานส.อ.ท. ขณะที่ฝ่ายของนายธนิต โสรัตน์ เป็นตัวแทนจากประธาน 5 ภาค ประกอบด้วย 1. นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก 2. นายสุทินพรชัยสุรี 3.นายเอกพร โฆษะครรชิต 4. นายสิงห์ ตั้งเจริญชัยชนะ 5.นายนิมิตร งามยิ่งไพศาล

ทั้งนี้ กรรมการดังกล่าวเริ่มมีการคุยกันนอกรอบบ้างแล้วในช่วงเย็นของวันที่ 28 มกราคมและก็เริ่มมีหลายฝ่ายกระซิบว่าสงสัยงานนี้ไม่จบแน่ ! และต่อมาก็เป็นจริงดังว่า….เมื่อการเจรจาที่นัดกันไว้อย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในวันที่ 31 มกราคม 2556 ก็มีอันต้องจบเห่ ! ด้วยเหตุที่นายวัลลภ วิตนากร หนึ่งในคณะกรรมการเจรจาให้สัมภาษณ์สื่อปิดดีลเรียบร้อย โดยนายวิตนากรระบุว่า ฟากของนายธนิตผิดเงื่อนไขที่เคยตกลงว่าการเจรจาจะเกิดได้ต่อเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ แต่นายธนิตและพวกได้เข้ามายังสำนักงานส.อ.ท.ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์พร้อมกับตำรวจซึ่งถือเป็นการกดดัน

ขณะที่ฟากนายธนิตโต้กลับว่าเข้ามาทำงานปกติแต่กรณีตำรวจเป็นชุดที่ดูแลความปลอดภัยที่ฝ่ายของนายพยุงศักดิ์นำมาประจำไว้ที่ส.อ.ท.อยู่แล้วจึงไม่เกี่ยวกันจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม….การตั้งกรรมการเจรจาส.อ.ท.ที่ฝ่ายสนับสนุนนายพยุงศักดิ์ยอมที่จะรับข้อเสนอของกลุ่มนายธนิตหลายฝ่ายฟันธงอยู่แล้วว่าเป็นการซื้อเวลา เนื่องจากนายพยุงศักดิ์เองไม่ได้เต็มใจนักแต่เป็นเพราะการถูกบีบจากที่ประชุมกส.โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้สนับสนุนนายธนิตที่ได้นำผู้ประกอบการจากต่างจังหวัดเดินทางมาเฝ้าสังเกตการณ์การประชุม 100 คนและมีการชูป้ายและวางพวงหรีดไว้อาลัยเพื่อขับไล่นายพยุงศักดิ์ ในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ก่อนที่จะเข้าประชุมกส.เวลา 15.00 น.

ภาพลักษณ์ที่ออกไปทำให้นายพยุงศักดิ์เองอาจเพลี่ยงพล้ำได้หากไม่เล่น ไปตามเกมนี้จำเป็นต้องประชุมกส.และเมื่อนายธนิตเสนอเงื่อนไขตั้งกรรมการเจรจาร่วมย่อมเป็นสิ่งที่นายพยุงศักดิ้ต้องรับลูก เพราะกรรมการส่วนหนึ่งที่เป็นกลางเองก็ต้องการเห็นการเจรจาเพราะดูจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่ความปรองดองได้…..

ภายหลังแม้ว่าจะมีมติตั้งกรรมการเจรจาร่วมกันแต่การให้สัมภาษณ์สื่อนั้นก็บอกเป็นนัยไว้ล่วงหน้าแล้วว่าไม่ง่าย! โดยนายพยุงศักดิ์พูดชัดๆ ว่า ขอให้อีกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหวและโจมตีไมว่าจะด้วยการกระทำใดๆที่จะทำให้ส.อ.ท.เสียหายไปกว่านี้ ขณะที่นายวัลลภ วิตนากร ก็ตอกซ้ำอีกว่า จะไม่ ยอมรับ การเจรจาหากมีเงื่อนไขที่จะปลดนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ออกจากการเป็นประธาน…

เกมชิงไหวชิงพริบของแต่ละฝ่ายหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทุกฝ่ายต่างก็วิ่งเข้าหาการเมืองเพื่อจะให้การสนับสนุนกลุ่มตน …..

ฟากของนายธนิตนั้นดูจะเข้านอก ออกในไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมบ่อยครั้งกว่า แต่นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะกำกับพ.ร.บ.ส.อ.ท. ก็ยังยืนยันที่จะไม่ยุ่งเกี่ยว

แต่ตรงกันข้ามกับนาย “พยุงศักดิ์” ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังที่ดูแลสายงานเศรษฐกิจโดยตรงจากรัฐบาลที่ออกหน้าการันตี “พยุงศักดิ์”แบบโต้งๆ

หากเทียบเกมกันแล้วนายพยุงศักดิ์จึงค่อนข้างจะถือไพ่เหนือกว่าทั้งรัฐบาลชัดเจนว่าเลือกข้าง ขณะเดียวกันยังสามารถยืนอยู่ในที่ตั้งสำนักงานส.อ.ท.หรือเข้าทำนองยึดพื้นที่ไว้ก่อนแล้ว …ต่างจากฟากของกลุ่มผู้สนับสนุนนายธนิต ที่ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ออกเสียงสนับสนุนที่ชัดเจนนักแถมยังไม่มีพื้นที่ให้ทำงาน….นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟากของนายธนิตพยายามที่จะกลับไปยืนอยู่ในที่เดิมให้ได้ก่อน…..

หากนายธนิตยิ่งเดินเกมบีบคั้นมากเท่าใด นายพยุงศักดิ์ที่นิ่งเฉยไม่ตอบโต้ก็ยังคงได้เปรียบอยู่ร่ำไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่คาดว่านายพยุงศักดิ์จะใช้เกมนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอยู่ครบวาระเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ในปี 2557 ซึ่งความหนักใจและการวางหมากจากนี้ไปจะตกไปอยู่ที่ฟากของนายธนิตเป็นหลัก…เกมชิงอำนาจส.อ.ท.ตอนนี้กลายเป็นซี่รี่ส์ที่ยังหาบทจบไม่ลง …แต่ภาพลักษณ์ส.อ.ท.ตอนนี้กู่ไม่กลับแล้ว!.