xs
xsm
sm
md
lg

ตามลุงจำลองไปล้างพิษตับที่ไต้หวัน (ตอนที่ 1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, อ.แก่นฟ้า แสนเมือง, อ.ขวัญดิน สิงห์คำ และคณะเดินทางไปสำรวจที่ไต้หวันเพื่อนำมาพัฒนาหลักสูตรล้างพิษที่เมืองไทย
ณ บ้านพระอาทิตย์
โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

ผมได้ติดตามไปกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมกับคณะผู้ทรงคุณวุฒิในหลักสูตรล้างพิษของสันติอโศก ได้แก่ อ.แก่นฟ้า แสนเมือง, อ.ขวัญดิน สิงห์คำ, หมอปาน และคุณจุ๊บ ได้เดินทางไปไต้หวันระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม พ.ศ. 2556 เพื่อหาองค์ความรู้มาพัฒนาในหลักสูตรล้างพิษที่กำลังเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้

ความโดดเด่นของไต้หวันสำหรับหลักสูตรล้างพิษของชาวอโศก ก็อยู่ตรงที่ชาวสันติอโศกได้นำองค์ความรู้กับการล้างพิษตับจากไต้หวัน มาผสมผสานกับการดื่มธัญญาพืชที่พองตัวเพื่อล้างลำไส้ของมาเลเซีย การสวนทวารด้วยน้ำด่างเพื่อดึงสิ่งตกค้างออกจากลำไส้ใหญ่ การใช้น้ำด่างเพื่อปรับสมดุลลดความเป็นกรดในร่างกายตามงานวิจัยในหลายประเทศโดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี การใช้ยาแพทย์แผนไทยในการชำระเมือกมันในลำไส้ การใช้การกดจุดคลายเส้นของแพทย์แผนไทยเพื่อแก้ไขปัญหาระบบการไหลหมุนเวียนในเลือด การแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อช่วยระบบการไหลเวียนเลือด การอมน้ำมันมะพร้าวแล้วบ้วนออกเพื่อกำจัดแบคทีเรียในปาก ฯลฯ

ก่อนจะอ่านต่อไปต้องให้เข้าใจว่า หลักสูตรการผสมผสานและบูรณาการหลักสูตรล้างพิษของโรงเรียนผู้นำและสถานปฏิบัติธรรมของชาวสันติอโศกนั้นมีความโดดเด่นในระดับโลกยากที่จะหาใครเทียบได้แล้วในเวลานี้ จนชาวต่างชาติหลายประเทศที่มีความเชี่ยวชาญหลักสูตรล้างพิษเฉพาะด้านจำนวนไม่น้อยต่างเดินทางเข้ามาดูงานและเข้าอบรมในหลักสูตรผสมผสานบูรณาการของชาวอโศก

นับวันศูนย์ล้างพิษของชาวอโศกนั้นก็ยิ่งมีประสบการณ์และพัฒนาปรับหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรีนั้น ถือว่าเป็นศูนย์ล้างพิษที่ใหญ่ที่สุด และกำลังจะมีโครงการที่จะขยายต่อไปให้ได้กว่า 400 คนต่อหลักสูตรในอนาคต ในขณะที่ผู้ที่คิดค้นหลักสูตร อย่าง อ.แก่นฟ้า อ.ขวัญดิน อ.อุ่นเอื้อ ที่ศีรษะอโศก ก็กลายเป็นแหล่งล้างพิษที่มีการทดลองวิจัยพัฒนาการล้างพิษอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะมีคนเข้าหลักสูตรจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้ป่วยในระดับวิกฤติที่เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือชาวศีรษะอโศกอยู่เสมอๆ

เหตุที่หลักสูตรล้างพิษแน่นเต็มในทุกที่ในเวลานี้ก็เพราะมีคนจำนวนมากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่คนที่มีโรคร้ายบางชนิดที่แพทย์แผนปัจจุบันยังรักษาให้หายไม่ได้ก็กลับมาหายเจ็บป่วยได้ในหลักสูตรเหล่านี้ ตรงนี้นี่เองทำให้มีคนบอกต่อถึงประสิทธิภาพในหลักสูตรให้เผยแพร่กระจายไปกว้างขวางมากขึ้น

แต่ที่เราได้เดินทางไปไต้หวันในเที่ยวนี้ ก็เพื่อไปดูหลักสูตรล้างพิษรวมถึงการทดลองและทดสอบผลิตภัณฑ์เอ็นไซม์ที่ไต้หวัน ซึ่งเราได้รับข้อมูลมาว่าหลักสูตรล้างพิษที่ไต้หวันสามารถล้างพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้น้ำสวนทวารล้างลำไส้หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่าการทำดีท็อกซ์ ซึ่งจะทำให้มีคนอีกมากที่ไม่พร้อมจะใช้วิธีสวนล้างลำไส้นั้นสามารถมีทางเลือกในการล้างพิษให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ก่อนที่เราจะเดินทางไปล้างพิษที่ไต้หวันเพื่อเรียนรู้วิธีการล้างพิษแบบไม่ต้องสวนทวารล้างลำไส้ (ที่คนส่วนใหญ่มักเรียกว่า ดีท็อกซ์)นั้นน่าจะทำความเข้าใจว่าเหตุผลในความจำเป็นที่ต้องมีการสวนทวารล้างลำไส้ในระหว่างหลักสูตรล้างพิษแบบองค์รวมของชาวอโศกนั้นเป็นเพราะอะไร?

ประการแรก หากลำไส้ไม่มีความสะอาดก็จะทำให้เป็นที่หมักหมม เน่าเสีย ก่อให้เกิดพิษในร่างกาย ในขณะเดียวกันระบบในลำไส้ที่ได้ผลิตมูกเมือก (Mucus) เพื่อดักจับสารพิษหากมีปริมาณมากๆจากการกินอาหารในอดีต ก็จะทำให้ระบบดูดซึมเสียหายไปด้วย และทำให้สารพิษอยู่ตามมูกเมือกที่ตกค้างเหล่านั้นก่อให้เกิดพิษในลำไส้ ทำให้ระบบโดยรวมเสียหายไปด้วย

ประการที่สอง ในระหว่างหลักสูตรการล้างพิษของชาวอโศก สารพิษจะถูกขับออกมามากกว่าปกติ ทั้งจากการอดอาหาร การดื่มสมุนไพรขับของเสียออกจากลำไส้ การดื่มน้ำมันมะกอกกระตุ้นตับให้เค้นน้ำดีและพิษตกค้างออกจากตับมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากไม่สามารถนำสารพิษเหล่านี้ออกจากร่างกายได้เร็ว สารพิษเหล่านี้แทนที่จะถูกขับออกจาร่างกาย ก็จะเกิดการดูดซึมกลับผ่านลำไส้และเข้าไปในระบบเลือด และทำให้เกิดอาการประทุพิษทางร่างกายเพราะไม่สามารถขับสารพิษเหล่านี้ได้ทันด้วยระบบขับถ่าย เช่น ผื่นขึ้น ตุ่มขึ้น ปวดหัว หืดหอบ มีหนองออกตามแผลเดิม ฯลฯ อาการเหล่านี้อาจเป็นอาการเก่า(ทั้งที่หายไปแล้วหรือยังไม่หาย) หรือเกิดอาการขึ้นใหม่ที่บางคนเรียกว่าอาการนี้ว่าซ่านพิษ

ด้วยเหตุผลนี้หลักสูตรล้างพิษประเภทนี้จึงเห็นว่า การสวนทวารล้างลำไส้ ยังมีความจำเป็นเพื่อลดปัญหาอาการเหล่านี้ ถึงขนาดระบุให้ผู้ที่เข้าฝึกอบรมต้องกลับไปทำการสวรทวารล้างลำไส้ต่ออีก 7 วัน เช้าและเย็น

ดังนั้นหลักสูตรการล้างพิษตับในต่างประเทศจึงมักจะใช้ดีเกลือที่ทำจากแมกนีเซียมซัลเฟต เป็นตัวทำให้อุจจาระเหลวก่อนการดื่มน้ำมันมะกอก เพื่อทำให้ของเสียในร่างกายนั้นมีความเหลวเคลื่อนไหวเร็วกว่าการเคลื่อนตัวและระบบดูดซึมของลำไส้ ด้านหนึ่งเพื่อระบายออกผ่านการขับถ่ายให้เร็วที่สุด อีกด้านหนึ่งก็เพื่อให้ลำไส้ดูดซึมพิษตกค้างเหล่านั้นกลับเข้าสู่ร่างกายให้น้อยที่สุด แต่ถึงกระนั้นผู้ที่ดูแลหลักสูตรอย่าง อ.แก่นฟ้า แสนเมือง ได้เคยเล่าประสบการณ์ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งขนาดดื่มดีเกลือแต่ไม่ยอมดีท็อกซ์ก็จะพบว่ามีตุ่มขึ้นตามตัวเป็นจำนวนมากเพราะพิษตกค้างและระบายออกไม่ทันได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามหากสำหรับคนที่ไม่ต้องการสวนทวารล้างลำไส้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะหมดหวังเสียทีเดียว แต่ก็ต้องทำใจด้วยว่าการล้างพิษด้วยวิธีอื่นหากไม่ต้องการอาการข้างเคียงแล้ว ก็ต้องยอมรับการดื่มยาถ่ายซึ่งต้องถ่ายบ่อยครั้งซึ่งก็มีด้านเสียอยู่ก็คือทำให้รำคาญประการหนึ่ง และทำให้หมดแรงเพราะเสียน้ำและเกลือแร่มากเป็นอีกประการหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการอดอาหารร่วมอยู่ด้วย

การไปศึกษางานไต้หวันเที่ยวนี้ จึงจะไปดูว่าที่ไต้หวันซึ่งเป็นประเทศที่มีความตื่นตัวสุขภาพสูงมาก และใช้การล้างพิษตับได้โดยไม่มีการสวนทวารล้างลำไส้นั้นประสบความสำเร็จจริงมากน้อยแค่ไหน ?
หน้า 4


กำลังโหลดความคิดเห็น